![]() |
|||||
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
เดือนสิบสองล่องลอยกระทงหลวง |
ชนทั้งปวงลอยตามอร่ามแสง |
ดอกไม้ไฟโชติช่วงเป็นดวงแดง |
ทั้งพลุแรงตึงตังดังสะท้าน |
เสียงนกบินพราดพรวดกรวดไอ้ตื้อ |
เสียงหวอหวือเฮฮาอยู่ฉ่าฉาน |
ล้วนผู้คนล้นหลามตามสะพาน |
อลหม่านนาวาในสาคร |
บ้างก็แห่ผ้าป่าพฤกษาปัก |
มีเรือชักเซ็งแซ่แลสลอน |
ขับประโคมดนตรีมีละคร |
อรชรรำร่าอยู่หน้าเรือ |
บ้างก็ร้องสักรวาใส่หน้าทับ |
ลูกคู่รับพร้อมเพราะเสนาะเหลือ |
ฟังสำเนียงเสียงสตรีไม่มีเครือ |
เป็นใยเยื่อจับในน้ำใจชาย |
ฟังสำเนียงเสียงนางที่กลางน้ำ |
แล้วหวนรำลึกนุชที่สุดหมาย |
กลับมานอนอ่อนทอดระทวยกาย |
เฝ้าฟูมฟายชลนาทุกราตรี |
นอนไม่หลับกลับลุกเปิดหน้าต่าง |
จันทร์กระจ่างแจ่มฟ้าในราศี |
เห็นดวงเดือนเหมือนพักตร์ภคินี |
ยุพินพี่อยู่ไกลนัยนา |
พี่นั่งคอยนอนคอยละห้อยหวน |
แสนรัญจวนมิได้สิ้นถวิลหา |
เห็นราหูจู่จับพระจันทรา |
ชาวพาราอื้ออึงคะนึงดัง |
พิลึกลั่นครั่นครึกเสียงกึกก้อง |
ระฆังฆ้องกลองแซ่ทั้งแตรสังข์ |
ประดังเสียงเพียงพื้นพิภพพัง |
มีทุกครั้งดังทุกคราวฉาวทุกที |
โอ้ว่าดวงจันทร์เจ้าดูเศร้าหมอง |
ไม่ผุดผ่องเผือดอับพยับสี |
อยู่ในปากราหูอสุรี |
มีนาทีปล่อยปละสละกัน |
แต่ตัวพี่มิได้มีนาทีชื่น |
ทุกวันคืนเฝ้าวิโยคด้วยโศกศัลย์ |
ครวญคะนึงถึงมิตรที่ติดพัน |
พี่ชมจันทร์ต่างเจ้าเยาวมาลย์ |
เมื่อวันมีเทศนามหาชาติ |
ได้เห็นนาฏนุชอนงค์ยอดสงสาร |
สัปปุรุษคับคั่งฟังกุมาร |
ชัชวาลแจ่มแจ้งด้วยแสงเทียน |
พี่ฟังธรรมเทศน์จบไม่พบน้อง |
เที่ยวเมียงมองเลี้ยวลัดฉวัดเฉวียน |
ไม่พบพักตร์เยาวมาลย์ในการเปรียญ |
ก็วนเวียนมาบ้านรำคาญใจฯ |