![]() |
|||||
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ถึงเดือนสามความโศกไม่เลื่อมสูญ |
จันทร์จำรูญแสงงามยามปฐม |
ดารารายพรายพร่างน้ำค้างพรม |
พี่นั่งชมจันทร์เพ็งเปล่งโพยม |
ดูแวววับเวหาล้วนดาเรศ |
เหมือนดวงเนตรนุชนางสำอางโฉม |
ดูกระพริบริบแดงดังแสงโคม |
ลอยโพยมล้อมจันทร์พรรณราย |
พี่นั่งชมตรมตรึกดึกสงัด |
น้ำค้างหยัดเยือกเย็นกระเซ็นสาย |
บุปผาเผยกลีบก้านบานกระจาย |
ต้องพระพายหอมกระถินดังกลิ่นนาง |
พี่เคลิ้มคลั่งนั่งอยู่ดูมะลิ |
ลืมสติหลงพลอดกอดกระถาง |
ฟังเป็นเสียงสายสมรวอนให้วาง |
จึงปลอบนางทางว่าด้วยอาลัย |
พี่นั่งคอยนอนคอยน้อยไปหรือ |
ขอถูกมือยอดรักอย่าผลักไส |
พอรู้สึกนึกเขินเดินออกไป |
ถ้าแม้นใครเห็นฉันแล้วขันจริง |
ราวกับถูกยาแฝดสักแปดโถ |
จะซูบโซเสียศรีดังผีสิง |
พระอภัยหลงรูปวาดหวาดประวิง |
เรากลับยิ่งกว่าพระอภัยไป |
ถ้ามิได้นวลหงส์ฉันคงม้วย |
ใครจะช่วยดับเข็ญเห็นไม่ไหว |
หรือจะเหมือนมดแดงน่าแคลงใจ |
ให้สงสัยวิญญาณ์เป็นอาจิณ |
ดูตำราว่าพฤหัสเป็นปัตนิ |
ตามลัทธิว่าคู่อยู่ทักษิณ |
ช่างพูดจาตาดำดังน้ำนิล |
ก็สมสิ้นเหมือนตำราสารพัน |
เออก็ขัดด้วยอะไรไฉนหนอ |
แต่รีรอรักนุชสุดกระสัน |
เห็นที่อื่นดื่นดาดไม่ขาดวัน |
จะรักกันก็ประเดี๋ยวเมื่อเกี้ยวพาน |
เหมือนแสบท้องต้องขืนกลืนข้าวตาก |
ระคายปากไม่ละมุนเหมือนวุ้นหวาน |
เหมือนอดข้าวกินมันยากกันดาร |
กว่าจะพานพบของที่ต้องใจ |
กระแจะจันทน์คันธาบุปผาสด |
ไม่เหมือนรสมิ่งมิตรพิสมัย |
ประเวณีมีจบภพไตร |
ไม่ว่าใครทุกตัวทั่วโลกา ฯ |