เดือนห้า ] เดือนหก ] เดือนเจ็ด ] [ เดือนแปด ] เดือนเก้า ] เดือนสิบ ] เดือนสิบเอ็ด ] เดือนสิบสอง ] เดือนอ้าย ] เดือนยี่ ] เดือนสาม ] เดือนสี่และบทส่งท้าย ]

     ถึงเดือนแปดแดดอับพยับฝน

ฤดูดลพระวษาเข้ามาขวาง

จวนจะบวชเป็นพระสละนาง

อยู่เหินห่างเห็นกันเมื่อวันบุญ

ประดับพุ่มบุปผาพฤกษากระถาง

รูปแรดช้างโคควายขายกันวุ่น

ตุ๊กตาหน้าพราหมณ์งามละมุน

ต้นพิกุลลิ้นจี่ดูดีจริง

ต้นไม้ทองเสาธงหงส์ขี้ผึ้ง

คู่สลึงเขาขายพวกชายหญิง

อุณรุทยุดกินนรชะอ้อนพริ้ง

มีทุกสิ่งซื้อมาบูชาพระ

ขึ้นกุฎีที่รักรู้จักสนิท

ดัดจริตพูดจาวิสาสะ

พระหนุ่มหนุ่มกลุ้มใจทำไมละ

เสียงจ๋าจ๊ะเจรจาพาสบาย

ถ้าญาติโยมจริงจริงแล้วนิ่งเฉย

มิใคร่เงยดูหน้าปัญญาหาย

ไม่พูดมากพาดพิงให้พริ้งพราย

ดูเราะรายเรียบร้อยกระช้อยชด

พรรษาหนึ่งสองพรรษาไม่ผาสุก

เข้าบ้านขลุกเลยลาสิกขาบท

เหมือนน้ำอ้อยย้อยถูกจมูกมด

ใครจะอดได้เล่าพวกชาวเรา

นึกคะนึงถึงนางกลางพรรษา

แต่คอยหาเช้าเย็นไม่เห็นเขา

เที่ยวฟังเทศน์มิได้ขาดดูลาดเลา

เห็นแต่เขาคนอื่นไม่ชื่นตา

นั่งพับเพียบเรียบร้อยน้อยไปหรือ

ประนมมือฟังธรรมเทศนา

ที่ฟังจริงนิ่งตรับจนหลับตา

บ้างก้มหน้าฟังไปมิได้เงย

ที่ฟังเล่นเห็นกันเป็นขวัญเนตร

ไม่ฟังเทศน์เอาบุญแม่คุณเอ๋ย

มานั่งเล่นตากันฉันไม่เคย

ไม่สิ้นเลยเหล่าตะกลามกามคุณ

ที่ท่านแก่แก่ตัวยังชั่วดอก

หมายจะออกห่างเหจากเมถุน

ท่านอยากบวชสวดมนต์ขนเอาบุญ

ที่แรกรุ่นนี่แลร่านรำคาญใจ

ด้วยความรักหนักเหลือเหมือนเรือเพียบ

จนน้ำเลียบแคมแล้วแจวไม่ไหว

ถ้าผ่อนของขึ้นเสียบบ้างยังชั่วใจ

แจวไปไหนไปได้ไม่หนักแรง

โอ้โอ๋อกชาวเราเหล่าหนุ่มหนุ่ม

อยากใคร่สุ่มปลาหนองส่องแสวง

ตัวฉันเล่าเฝ้าคลั่งด้วยยังแคลง

จะพลิกแพลงไปอย่างไรก็ไม่รู้

โอ้ไฉนจะได้สมอารมณ์รัก

ใครช่วยชักฉันจะไหว้ให้หัวหมู

ยิ่งร้อนใจในคอให้หมอดู ว่าขัดคู่หนักหนายิ่งอาดูรฯ

1