คุยกันก่อน
สวัสดีครับ ขออภัยที่มาพบกันล่าช้าหลังจากทิ้งโน๊ตไว้ว่าจะไปเมืองจีน
เพื่อสำรวจเส้นทางสายไหม(สายใต้) กลับมาแล้วจะเล่าสู่กันฟัง
ผมไปทำงานระหว่างวันที่ 6-18 กรกฎาคม 2543 ไปและกลับตามกำหนดการทุกประการ
แต่เผยแพร่ในเว็บไซต์ช้ามาก ไปหน่อยก็เพราะมีปัญหาเรื่องคอมพิวเตอร์
การทำงานครั้งนี้ภาระกิจคือ เผยแพร่เส้นทางสายไหมสายใต้ให้โลกได้รับรู้อย่างกว้าง
ที่กล่าวเช่นนี้เพราะปกติแล้ว เส้นทางสายไหมสายใต้ ทางการจีนไม่ได้เปิดให้เดินทางทั่วไป
เพราะมีปัญหาในหลายๆ ด้าน ตั้งแต่ระบบคมนาคม ความพรักพร้อมเพื่ออำนวยนักเดินทางท่องเที่ยว
และอีกหลายๆด้าน
เราไปกันคราวนี้ได้รับความเอื้อเฟื้อจากหลายๆฝ่าย
และเป็นคณะแรกของคนไทยที่ ใช้เส้นทางสายนี้ และเป็นคณะใหญ่สุดที่เดินทาง
เพราะก่อนหน้าเราจะเป็นฝรั่งกับญี่ปุ่น และไปกันไม่กี่คน เราเป็นช่าวต่างประเทศคณะที่หกครับที่ได้ใช้เส้นทาง
และพวกเราไปกันมากถึง 26 คน แผนการเดินทางคือ
บินจากกรุงเทพฯ ไปลงที่คุนหมิงมณฑลยูนนาน
ค้างหนึ่งคืนบินไปเมืองซีอานมณฑลส่านซีภาคกลางของจีน
ที่นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหม (ในจีน/ในจีนแค่ครึ่งหนึ่งของเส้นทางจากจีน-ยุโรป)
ค้างหนึ่งคืนบินต่อไปตุ้นหวงมณฑลกานสู
อยู่ตะวันตกเฉียงเหนือเล็กน้อยของซีอาน ค้างที่นี่สองคืน จากนั้นเดินทางด้วยรถยนต์ผ่านนับสิบเมืองกลางทะเลทราย
เพื่อไปยังคาสการ์หรือคนจีนเรียก
"เคอะสือ" ระยะทางรถยนต์ประมาณสองพันกว่ากิโลเมตร
เมืองทุกเมืองตั้งแต่ตุ้นหวงจนถึงชายแดนตะวันตกของจีน
ล้วนเป็นโอเอซิสขนาดใหญ่กลางทะเลทราย จากนั้นมีรายการแถมบินต่อไปยังเมืองอูรูมฉี
(ไทยโบราณเรียกว่า เมืองอุดมวดี)
ทั้งคาสการ์และอูรูมฉีอยู่มณฑลซินเจียง แถวๆนี้เป็นชาวจีนมุสลิมครับ
ภาพรวมๆ ก็คือ ฝ่าดงทะเลทรายมหาโหด มีทั้งร้อน
ร้อนตับแลบ และหนาวสุดขั้ว(เมืองสูง) สภาพทะเลทรายโกบีกว้างใหญ่ไพศาล
และมีความแตกต่างตามสภาพท้องที่ ใช้เวลาเดินทาง 13 วัน 12 คืน
นั่งเครื่องบิน 6 เที่ยวและนั่งโตโยต้าแลนด์ครุยเซอร์
7 วัน น้ำพยายามอาบให้ได้ทุกวัน แต่ก็กันดารเหลือแสน
เอาละครับ ผมจะขอเล่าเรื่องการเดินทางครั้งนี้ด้วยลีลาร้อยกรองก็แล้วกัน
ตั้งชื่อว่า "นิราศเส้นทางสายไหม"
เชิญชิมกันได้ครับ

|