บทนำและชมโฉม ] ครวญตามเวลา ] ครวญตามวัน เดือน ฤดู ปี ] ชมไม้ ชมอาภรณ์ ] [ ชมสัตว์ บทส่งท้าย ]

๑๓๒ ดูนกผกโผผาด     บนอากาศดาษเหลือหลาย
ร่างไม้ไล่เรียงราย     ย่อมเคล้าคู่พี่อยู่เดียว ฯ
       สกุณินบินร่อนร้อง     โผผาย
อากาศดาษเหลือหลาย     ม่ายขู้
ร่ายไม้ไล่เรียงราย     พลางพลอด
เมียเกลือกคลึงตัวผู้     พี่นี้เดินเดียว ฯ
 

 

๑๓๓ กระเหว่าคิดเสียงนาง     นางนวลพลางนึกนวลสมร
ชายชมพูคิดผ้าอร     โนรีผ้าตาระกำเหมือน ฯ
       เสียงกระเหว่าคิดนิ่มเนื้อ     สรวลสอน
นางนวลครวญถึงสมร     ขุ่นข้อง
ชายชมพูสีอ่อน     แสงก่ำ
โนรีศตาระกำน้อง     หมู่นั้นมีเหมือน ฯ

 

 

๑๓๔ นกขมิ้นเหลืองขมิ้นเจ้า     นกนอนเคล้าเคล้านงพงา
กวักกว่ากว่าจะมา     เห็นยางเจ่าพี่เจ่าคอย ฯ
       นกขมิ้นคิดขมิ้นเจ้า     ลลายทา
แอ่นเคล้าพี่เคล้าพงา     พี่เคล้า
กวักกว่ากว่าจะมา     สมสู่
เห็นนกยางเจ่าเจ้า     เจ่าแล้วเรียมคอย ฯ

 

๑๓๕ ลับแลเร่งแลลับ     นกหว้าขับไปว่าวอน
ชายใดได้ดวงสมร     วานนกหว้าว่าขอคืน ฯ
       นกลับแลเร่งแคล้ว     ลับจร
นกว่าวอนว่าวอน     ด่วนได้
ชายใดได้ดวงสมร     เสมอชีพ
นกว่าวอนว่าให้     ส่งน้องขอคืน ฯ

 

๑๓๖ นกอุกใครอุกนัก     มาลอบลักอรรคชายา
นกกระเวนวานกระเวนหา     วานนกออกออกชื่อเร็ว ฯ
       นกอุกใครอุกพ้น     ควรมา
ลอบลักอัคชายา     ซ่อนไว้
นกกระเวนกระเวนหา     จงทั่ว
นกออกออกชื่อให้     ด่วนด้วยการเร็ว ฯ

 

๑๓๗ ตบยุงเคยโบกยุง     กรานในมุ้งถือแส้วี
ยุงขบพี่ฤามี     เพราะเพื่อเจ้าเฝ้าพยาบาล ฯ
       นกตบยุงนึกน้อง     เทพี
ถือแส้หมอบพัดวี     ค่ำเช้า
ยุงขบพี่ฤามี     สักหยาด
เพราะเพื่อนวลของเจ้า     เฟ่าเฟื้ยมพยาบาล ฯ

 

๑๓๘ ชมดเชียงตรึกกลิ่นเจ้า     ทากระแจะเช้าเย็นวังเวง
กลิ่นน้องของเรียมเอง     พี่รู้อยู่แดนใน ฯ
       ชมดเชียงกลกลิ่นเจ้า     กลเพรง
ทากระแจะวังเวง     กลิ่นเกล้า
กลิ่นน้องของเรียมเอง     หายห่าง
เรียมบ่รู้ว่าเจ้า     อยู่ด้าวแดนใด ฯ

 

๑๓๙ เห็นช้างที่งอนงา     คนึงขนตาเจ้างอนงาม
ครวญใคร่ใจว้ำหวาม     เจ้าสาวสวัสดิ์สารพัดงอน ฯ
       งาคชงอนเฉิดช้อย  ขึงขาม นึกหน้า
ขนเนตรนางงอนงาม     ส่องเสื้อง
ครวญใคร่ใจว้ำหวาม     หาอยู่
เรียมร่ำรำพึงเหนื้อง     พรากน้องนานเห็น ฯ
 

 

๑๔๐ เห็นทองรัดงาช้าง     เรียมคิดบ้างนางตาตรู
แหวนประดับกับแหวนงู     เจ้าสอดใส่ในนิ้วน้อย ฯ
       ทองสวมงาคชไฝ้     ตาตรู
แหวนประดับแหวนงู     รูปแก้ว
ถมยาศิลาทองดู     มีมาก
สวมใส่นิ้วน้องแล้ว     กรายช้อยชมงาม ฯ

 

 

๑๔๑ เห็นสมุนเจ้าอุ่นเนื้อ     คิดสมุนเสื้อเมื่อซับทรง
ขนกลับเข้ากับองค์     เสื้อริ้วทองปล้องน้อยงาม ฯ
       เห็นสมุนอุ่นแอบเนื้อ     แนบนอน
คิดสมุนเสมอสมร     ใส่เสื้อ
ขนกลับเข้ากับอร     องค์อ่า
เสื้อริ้วทองน้อยเนื้อ     เอกปล้องขจิตงาม ฯ

 

๑๔๒ น้ำธารสีเขียวเขียว     ปลาเป็นเกลียวว่ายพรูพัน
รายเรียงเคียงคู่กัน     แต่พี่อยู่ผู้เดียวดาย ฯ
       ชลธินนิลเผื้อเฉก     นิลวรรณ
ปลาว่ายพรูดูพัน     แอบข้าง
ฝูงปลาย่อมชมกัน     เคียงครุ่น
แต่พี่อยู่อ้างว้าง     บ่นบ้าคนเดียว ฯ

 

๑๔๓ นวลจันทร์นึกนวลสมร     ปลาเนื้ออ่อนอ่อนเอวสาย
สมรย่างปลาย่างกาย     นึกโชยชายกรายกรงาม ฯ
       นวลจันทร์นึกผ่องหน้า     เดือนหมาย
เนื้ออ่อนอ่อนเอวสาย     สวาทหยิ้ง
สมรย่างปลานางกราย     คนึงเนื่อง
ยูรย่างช่างเดิรพริ้ง     เพริศพร้อมกรงาม ฯ

 

๑๔๔ ปลาทุกทุกข์โศกละห้อย     เห็นปลาสร้อยสร้อยอาไลย
แก้มช้ำเรียมช้ำใจ     ด้วยไม่พบสบสมศรี ฯ
       ปลาทุกทุกข์โศกด้วย     อรไทย   
ปลาสร้อยสร้อยอาไลย     ขุ่นข้อง
แก้มช้ำพี่ช้ำใจ     ใจฝ่อ
ด้วยไม่พบพานน้อง     คลาศแคล้วสมศรี ฯ

 

๑๔๕ กฤษดิยุคสุขสบายจริง     ทังชายหญิงสิ่งเกษมสรรพ์
นฤไภยไม่พรากกัน     อยู่ชื่นชมสมสำราญ ฯ
       กฤษดิยุคเป็นสุขแท้     ทรงธรรม์
บุรุษสัตรีเกษมสรรพ์     สวัสดิ์ล้ำ
นฤไภยไม่พลัดกัน     รักร่วม
สมสู่สนิทเสน่ห์ซ้ำ     สิ่งสึ้งสำราญ ฯ

 

๑๔๖ ไตรดายุคพระรามา     จากสีดาอ่าโฉมสมร
พระผลาญยักษ์มารมรณ์     ได้สีดาอ่าองค์คืน ฯ
      ไตรดาราเมศร้าง     แรมอร
องค์สีดาดวงสมร     หลากหล้า
พระผลาญหมู่มารมรณ์     ลาญชีพ
ได้สีดาสมรหน้า     อ้าเคล้าคลึงองค์ ฯ

 

๑๔๗ ทวาบรยุคพระอนิรุทธ     จากนงนุชนางอุษา
สองคร่ำร่ำโศกา     นานมาไซ้ได้นางคืน ฯ
       ทวาบรกลอนกล่าวอ้าง     อนิรุทธ
จากอุษาสมรนุช     แหบไห้
สองครวญป่วนโศกสุด     แสนเสน่ห์
ยามเมื่อนานมาได้     แนบน้องครองคืน ฯ

 

๑๒๘ กลียุคเรียมจากเจ้า     เมื่อใดเล่าจะกลับมา
โอน้องของพี่อา     ไกลพี่แล้วแกล้วกลอยใจ ฯ
         กลียุคเรียมจากน้อง     นงพงา
ไฉนจะกลับคืนมา     เร่งแคล้ว
โอ้น้องของเรียมอา     พลัดพราก
ไกลพี่นางน้องแก้ว     สวาทกล้ำกลางใจ ฯ

 

 

๑๔๙ ชมโฉมโลมสมพาส     บทนิราศจากชายา
นักปราชญ์ย่อมแต่งมา     เล่ห์ท่าทางอย่างเรียมทำ ฯ
       ชมโฉมสมพาสแก้ว     ไนยนา
พลัดพรากจากชายา     ชื่นชี้
นักปราชญ์ย่อมแต่งมา     ในโลก
เล่ห์ท่าทางอย่างนี้     ชอบด้วยเรียมทำ ฯ

 

๑๕๐ จบเสร็จคร่ำครวญกาพย์     บทพิลาปถึงสาวศรี
แต่งตามประเวณี     ใช่เมียรักจักจากจริง ฯ
       โคลงครวญกลอนกล่าวอ้าง     นารี
โศรกสร้อยถึงสาวศรี     เษกหว้า
แต่งตามประเพณี     ธิรภาคย์
เมียมิ่งพรั่งพร้อมหน้า     ห่อนได้จากกัน ฯ

 

๑๕๑ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศ     ไชยเชฐสุริย์วงศ์ทรง
นางรักนักสนมองค์     อ่าห้อมล้อมพร้อมบริบูรณ์ ฯ
        เจ้าฟ้าธรรมธิเบศเชื้อ     รพิพงศ์
ไชยเชฐสุริย์วงศ์ทรง     เลิศหล้า
นางรักนักสนมองค์     อภิชาติ
คับคั่งนั่งเรียงหน้า     เฟ่าพร้อมบริบูรณ์

 

๑๕๒ นักปราชญ์หมู่เมธา     มีปัญญาอันฉับไว
พินิจผิดบทใด     วานช่วยแซมแต้มเขียนลง ฯ
       กลกลอนบวรเกลี้ยง     คำแขง ก็ดี
นักปราชญ์ฉลาดวานแปลง     เปลี่ยนให้
กลอนเกินเขินคำแคลง     ขัดข้อง
วานเพิ่มเติมลงไว้     อยู่ยื้นหญิงชาย ฯ

 

       จบ จนจอมโลกเจ้า     คืนวัง
บ พิตรสถิตบัลลังก์     เลิศหล้า
ริ  ร่างกาพย์โคลงหวัง     ชนโลก อ่านนา
บูรณ์ พระโคลงเจ้าฟ้า     ธิเบศร์เจ้าจงสงวน ฯ

 

        เจ้าฟ้า หนุ่มน้อยราช      กุมาร
ธรรม พงศ์ทรงกลอนการ     อยู่แย้ม
ธิเบศร์ วราสถาน     ไชยเชฐ
สุริย์วงศ์  ทรงโคลงแต้ม     แต่งไว้อ่านสงวนฯ

 

        เจ้าฟ้า เลิศล้ำโพธิ     สมภาร
กรมขุน หลวงพญากราน     กราบเกล้า   
เสนา นราบาล ใจชื่น    ชมนา
พิทักษ์ รักษาเช้า     ค่ำด้วยใจเกษม ฯ

  1