นิราศรักหักใจอาลัยหวน ] ถึงบ้านจีนจีนมีที่นี่หรือ ] รำพันพลางทางมาถึงวัดสิงห์ ] [ มาถึงโป่งลูกวัวน่ากลัวผี ] ถึงพระแท่นแสนสนุกทุกข์ค่อยหาย ]

     มาถึงโป่งลูกวัวน่ากลัวผี

เสียงชะนีโหยไห้พิไรหวน

พี่คิดว่าเสียงนางมาครางครวญ

ให้รัญจวนจรมาในอารัญ

เห็นต้นไทรใหญ่โตรโหฐาน

สูงตระหง่านเงื้อมป่าพนาสัณฑ์

พี่หยุดยั้งนั่งนบอภิวันท์

พลางรำพันนึกในฤทัยปอง

คิดถึงเรื่องอุณรุทกับอุษา

พระไทรพาอุ้มสมภิเษกสอง

แล้วเทวาพาพรากมาจากน้อง

พระร่ำร้องหานางเหมือนอย่างเรา

พี่จากนุชสุดใจมาไกลนัก

ไม่เห็นพักตร์ทรามประโลมโฉมเฉลา

เห็นแต่ทิวทางเดินเนินลำเนา

พี่สร้อยเศร้าโศกาลาพระไทรฯ

     ถึงหนองโพธิ์โพธิ์มีที่ริมหนอง

ต้นโพธิ์ทองปากป่าคนอาศัย

ครั้นลมพัดกวัดแกว่งพลิกแพลงใบ

ที่ภายใต้ร่มรื่นชื่นอุรา

พี่นั่งนบอภิวันท์แล้วผันผาย

ไม่เหือดหายโหยหวนรัญจวนหา

เห็นนกไม้ในดงพงพนา

ไม่เห็นหน้านิ่มมวลยิ่งครวญครางฯ

     มาถึงห้วยหมอนทองมองเขม้น

และไม่เห็นหมอนทองยิ่งหมองหมาง

คิดถึงหมอนเคยนอนกับหมอนนาง

ทั้งหมอนข้างหมอนอิงเคยพิงกาย

เจ้าเคยจัดปัดปูไม่รู้ขาด

พี่ไสยาสน์ด้วยทุกคืนไม่ตื่นสาย

มาเดินป่าคราวนี้ไม่มีสบาย

ใบไม้รายรองนอนหมอนไม่มี

โอ้สงสารอาตมานิจจาเอ๋ย

ยังไม่เคยจากน้องจึงหมองศรี

ช่างจำเพาะเคราะห์ร้ายเมื่อปลายปี

ไม่มีดีขัดสนพ้นประมาณ

ด้วยราหูจู่จับเข้าทับลักคมน์

นิราศรักร้อนใจดังไฟผลาญ

พี่รักน้องมิได้อยู่เป็นคู่นาน

มาเกิดการกำจัดวิบัติเป็น

พระเคราะห์พามาไกลถึงไพรสัณฑ์

สักกี่วันจะได้กลับมาเล็งเห็น

โอ้ที่นอนหมอนข้างจะร้างเย็น

ใครจะเคล้นเคล้าน้องประคองนอน

วิตกพลางทางเลยครรไลล่วง

ข้ามห้วยห้วงคงคามาสลอน

บ้างโห่ร้องกับป่าพนานอน

ทุเรศร้อนรีบรัดตัดตำบลฯ

     ถึงห้วยกระบอกซอกธารสถานที่

หนองจะมีคงคาต่อหน้าฝน

ฤดูแล้งแห้งหายสิ้นสายชล

มีแต่ต้นไม้ล้างข้างลำธาร

ต้นซึกซากโศกไทรมะไฟป่า

เคี่ยมมะค่าคางแคแสมสาร

กระเบียนกระบากหมากลิงมะพร้าวตาล

สุดประมาณหมู่ไม้ที่ในดง

ขี้เกียจกล่าวราวป่าจะช้าถึง

รีบตะบึงมาในไพรระหง

จนเบี่ยงบ่ายสายแสงพระสุริยง

อุตส่าห์ทรงกายเดินดำเนินจรฯ

     มาถึงห้วยปลากดเขาปลดเกวียน

เป็นที่เตียนหยุดประทับสลับสลอน

ลงอาบน้ำดำเกล้าบรรเทาร้อน

เห็นสาครลึกซึ้งเป็นบึงโต

ทั้งสองฟากครึ้มครึกล้วนพฤกษา

มีมัจฉาพรั่งพรูอยู่อักโข

ฝูงสวายว่ายเรียงเคียงเทโพ

ดุกชะโดโดดดิ้นเข้ากินไคล

ตะเพียนทองล่องลอยอยู่พ้นน้ำ

กระดี่ดำแหวกว่ายอยู่ไหวไหว

ตะโกกกาปลาสร้อยก็ลอยไป

เข้าแฝงใบจอกกระจับให้ลับกาย

ยิ่งชมปลาอารมณ์ให้ร้อนจิต

นึกถึงคู่ชีวิตแล้วใจหาย

ถ้าน้องมาถึงนี่กับพี่ชาย

จะชวนสายสุดที่รักลงสรงชล

พี่จะชี้ให้ดูหมู่มัจฉา

ที่ว่ายมาเกลือกกลับอยู่สับสน

แล้วจะชวนเก็บฝักหักอุบล

ให้นิรมลชมธารสำราญใจ

โอ้ว่าเหล่าเต่าปลานิจจาเอ๋ย

อย่าผุดเลยหามีใครชมไม่

น้องของเรามิได้ดูด้วยอยู่ไกล

ผุดให้ใครชมเล่านะเต่าปลา

โอ้ว่าน้ำเอ๋ยน้ำในลำห้วย

น้ำไม่ช่วยล้างทุกข์ให้สุขา

ดีแต่ล้างเหงื่อไคลในกายา

กับล้างหน้าล้างร้อนให้ผ่อนเย็น

จะล้างทุกข์ของพี่นี้สุดยาก

พี่ทุกข์มากอยู่ในใจใครไม่เห็น

ชะตาตกอกเอ๋ยไม่เคยเป็น

มิได้เว้นว่ายวายคลายรำคาญ

เห็นสิ่งไรใจหวนให้ครวญคร่ำ

ทุกย่านน้ำแนวหนองคลองละหาน

ใครจะเป็นเช่นพี่ไม่มีปาน

เหลือประมาณที่รักภัคินี

ถึงงามขำทำผิดสักร้อยครั้ง

พี่ก็ยังรักใคร่ไม่หน่ายหนี

ไม่หึงหวงล่วงว่าไม่ด่าตี

ด้วยปรานีอดออมถนอมกัน

ถึงจะรักหญิงอื่นสักหมื่นโกฏิ

ไม่ปราโมทย์เหมือนนุชสุดกระสันต์

มักเบื่อหน่ายหายงามไม่ข้ามวัน

ไม่เหมือนขวัญนัยนาสัจจาจริง

ถึงสุดสิ้นฟ้าดินไม่สิ้นรัก

จะฟูมฟักเฝ้าประคองแต่น้องหญิง

ถึงยากเย็นเข็ญใจก็ไม่ทิ้ง

จะรักมิ่งนิรมลจนวันตาย

ให้น้องรักรักพี่อย่างนี้บ้าง

อย่าเริดร้างรสรักให้หักหาย

จงคิดถึงยามสะเบยเคยสบาย

อย่าลืมวายรสร่วมภิรมย์ชม

รำพันพลางทางแลดูพวกเพื่อน

ออกกล่นเกลื่อนรายเรียงเสียงขรม

ลงอาบน้ำดำดุดบ้างผุดจม

เอาโคลนตนขว้างกันสนั่นไป

พวกผู้หญิงปลิงกัดสะบัดร้อง

ขึ้นจากหนองปลดปลิงวิ่งไสว

ที่บางคนกล้าแข็งแรงสุดใจ

ก็แล่นไล่เอาเถิดเกิดพนัน

พวกผู้ชายว่ายับอยู่สับสน

ได้นางคนหนึ่งแรงแข็งขยัน

ขยุ้มขยำคลำปะแล้วละกัน

เสียงสนั่นเฮฮาในวารี

แล้วขึ้นจากคงคาเวลาบ่าย

ทั้งหญิงชายปรีดิ์เปรมเกษมศรี

ก็ออกเกวียนพร้อมกันด้วยทันที

เกวียนของพี่ออกหน้าพากันจร

ระรวยรื่นชื่นหอมพะยอมสด

คันธรสโรยร่วงพวงเกสร

ต้องพระพายชายช่ออรชร

แมลงภู่ฟอนเฝ้าเคล้าประคองชม

แมลงภู่เป็นคู่ของบุปผา

บูราญว่าเห็นจริงทุกสิ่งสม

หญิงกับชายก็เป็นคู่ชูอารมณ์

ชั่วปฐมกัปกัลป์พุทธันดร

ใครมีคู่พลัดคู่ไม่มีสุข

มักเกิดทุกข์ใหญ่ยิ่งกว่าสิงขร

เหมือนตัวเรียมร่ำรักหนักอุทร

ด้วยจากจรมิได้อยู่เป็นคู่เชย

โอ้แม่ดวงพวงพุ่มปทุมทิพย์

ดูลิบลิบลอยฟ้านิจจาเอ๋ย

พี่ยังจำกลิ่นได้ไม่ลืมเลย

เป็นคู่เชยชื่นจิตชีวิตเดียว

ยิ่งคิดไปใจตื้นสะอื้นไห้

พลางครรไลเลยมาในป่าเขียว

เห็นค่างลิงวิ่งโลดกระโดดเกรียว

บ้างกลับเหลียวหลังหลอกตะคอกคน

บางลิงก็เกาะกิ่งพฤกษาโหน

บางลิงโจนจับคว้าผลาผล

ขี้เกียจดูหมู่ลิงวิ่งซุกซน

ก็รีบรนเร็วมาในป่าดอนฯ

     พระสุริยายอแสงลงแฝงเฝือ

ถึงพระยาพายเรือไม่หยุดหย่อน

ที่ย่านนั้นดูสนุกน่านั่งนอน

เป็นทรายอ่อนขาวสะอาดประหลาดตา

แต่ปางก่อนเป็นลำแม่น้ำกว้าง

ดูสองข้างยังเห็นเป็นฝั่งฝา

แต่น้ำแห้งเหือดหายสายชลา

เป็นสุธารื่นราบดังปราบลาน

ยิ่งพินิจคิดไปแล้วใจหาย

ก็ผันผายล่องลัดพ้นสถาน

พระสุริยงลงลับโพยมมาน

ก็ข้ามบ้านโป่งมาเข้าป่ารังฯ

 

1