ผมตั้งใจตั้งแต่แรกแล้วว่า จะเรียนรู้ การทำเว็บเพจ เผื่อว่าจะได้สร้างเว็บไซต์เป็นของตนเอง ความตั้งใจนี้ อย่างหนึ่งก็เพื่อเอาไว้สอนลูกสาว เพราะเด็กสมัยนี้เขาเรียนคอมพิวเตอร์กันทั้งนั้น ถ้าเราไม่มีความรู้ติดตัวไว้บ้าง หากเกิดจำเป็นขึ้นมา และขอให้เราดูให้ แต่ช่วยอะไรเขาไม่ได้ ก็ดูจะผิดวิสัย เขาก็เคยเห็นเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งอยู่ที่โต๊ะทำงานพ่อ พ่อน่าจะตอบอะไรได้บ้าง

อีกด้านหนึ่งก็อย่างที่กล่าวไปแล้ว เราเรียนรู้ก็เพื่อ"เกาะ"ไปกับชาวโลกเขา ทุกวันนี้ ถ้าใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น ก็ดูจะแปลกพิกลเหมือนกัน และถ้าจะให้ดูดีไปกว่านั้น ก็น่าจะมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง หรือขององค์กร ซึ่งฟังดูคล้ายๆกับว่า บ้านไหนไม่มีโทรศัพท์ ดูจะทำอะไรไม่สะดวก ต่อมาถ้าไม่มีโทรสาร ก็ดูจะค้าขายลำบาก สมัยนี้ก็เช่นกัน ถ้าไม่มี "อินเทอร์เน็ท"ดูจะไม่สะดวกอย่างไงอย่างงั้น(ไม่มีจริงๆก็ไม่ถึงกับตายดอกนะครับทั่น)

เมื่อตัดสินใจเอาเครื่องคอมพิวเตอร์มาลงที่บ้าน ผมก็อยากจะรู้ว่า เขาทำเว็บไซต์กันอย่างไร ก็แอบไปชำเลืองดูที่สำนักงาน แต่ให้ตายเถอะ ดูไม่ออกว่า ใครเขาเขียนเว็บเพจ หรือใครเขาซ่อมเครื่อง เพราะต่างก็นั่งกันอยู่หน้าจอ ชะโงกเข้าไปหน่อยก็ไม่เห็นมีอะไร ก็เหมือนเราเปิดเครื่องใช้งานธรรมดา ดูเหมือนว่า การเขียนเว็บเพจ จะเป็นปริศนา ลึกล้ำเสียจริงๆ

ฟังๆดูได้ความว่า ถ้าจะมีเว็บไซต์ ก็ต้องขอพื้นที่"แขวน"เว็บเพจของเรา และตรงนี้ทำให้เข้าใจ มากขึ้นว่าเจ้านามสกุล .com .or.th .net .oz .org และอื่นๆ หมายถึงอะไร และมีคนบอกว่า ถ้าไม่อยากเสียเงินค่าขอใช้บริการ ทั้งค่าธรรมเนียมแรกเข้า และค่าแขวนสายรายเดือน (อันนี้ภาษาผมเองนะครับ)ก็ต้องไปขอฟรีได้จากผู้ให้บริการ เป็นต้นว่าขอฟรีที geocities.com กับ xoom พอได้กลิ่นมาอย่างนี้เราก็ต้องหาความรู้หน่อย และบังเอิญช่วงที่หานั้น หนังสือเกี่ยวกับ เรื่องนี้โดยตรงไม่มีในตลาด หรืออาจจะมีหลงเหลือที่ไหนก็ไม่ทราบ เอาเป็นว่า หาอย่างไรก็ไม่เจอ แต่ก็เห็นมีเขียนถึงเรื่องนี้ประปราย ในหนังสือเกี่ยวกับเรื่อง คอมพิวเตอร์ จึงมาปะติดปะต่อกันเอา

เจอคนที่รู้จัก และมีความรู้เรื่องคอมฯ ถามว่าที่geocitiesเขาให้พื้นที่เท่าไหร ่ถาม 3 คน ตอบไม่เหมือนกันสักคน ถามว่าที่เขาให้ฟรีนั้น เราจะเขียนได้ประมาณสักกี่เพจ นี่ก็ตอบไม่ตรงกัน เหมือนกัน พอสมมติว่าได้สัก 15 mk จะเขียนได้เยอะไหม บางคนก็บอก 3 จอก็หมดแล้ว บางคนบอก ถ้าเป็นตัวหนังสืออย่างเดียวเขียนได้ประมาณสัก 2 พันเพจ ซึ่งมาถึงตรงนี้ ก็เลยบอกตัวเอง เห็นทีจะต้องพึ่งตนเองเสียแล้ว เขาตอบไม่ได้ก็อาจเป็นเพราะ เราถามผิดคน ลองทำเองดีกว่า

เว็บไซต์geocitiesเขาทำเพื่อให้บริการฟรีจริงๆ ผมใช้บริการเขาไม่เสียสตางค์เลย แต่ก็เห็น ข้อความอยู่เหมือนกันว่า ถ้าพื้นที่เต็มแล้ว buy more ก็ได้ ตอนนี้ยังเขียนไม่กี่เพจเลย ยังไม่รู้ว่า ถ้าจะซื้อเพิ่มต้องทำอย่างไร ของฟรีที่นี่เขาให้ 15 mk ครับ ผมเขียนมา 10 เพ็จแล้ว เพิ่งใช่ไปแสนต้นๆ ยังเหลือ 14 mk นั่นละครับ

ขั้นตอนในการของใช้บริการนั้นไม่มีอะไรยุ่งยากเลยครับ ขอเพียงอ่านภาษาอังกฤษเข้าใจ ก็กรอกแบบฟอร์มที่เขาให้มาบนหน้าจอได้เลย ก่อนอื่นอย่าลืมออนไลน์ก่อนนะครับ เดี๋ยวจะงง เอาอย่างงี้ก็แล้วกัน ไม่ว่าคุณจะใช้Netscape หรือ Internet Exprolor ก็เข้าไปลงทะเบียน ได้ทั้งนี้น

-ก่อนอื่น คนที่จะลงทะเบียนของพื้นที่ฟรี จะต้องมี E-mail address ก่อนนะครับ จะเป็น E-mailของค่ายไหนก็ได้ ขอให้เป็นของเราก็แล้วกัน ที่ต้องมีตรงนี้ก็เพราะ เขาจะยืนยันการอนุมัติให้เรานั่นเอง และความจริงแล้ว เขาก็ควรจะทราบที่มาที่ไปเหมือนกัน เพราะ บางทีคนก็ไม่กรอกข้อมูลตามความเป็นจริง แต่เขาก็เชื่อว่า พอจะตามเจอ หากจะส่งเอกสาร หรือธุรกิจโฆษณามาให้ จะได้ส่งถูกคน

-กรอก URL ของgeocities ลงไปในช่อง ซึ่งเป็นช่องเดียวกันกับที่เราจะดูเว็บไซต์ทั่วๆไป นั่นละครับ โดยพิมพ์ตัวอักษรดังนี้ www.geocities.com พิมพ์เสร็จ ตรวจสอบเขียนถูกหรือไม่ ถ้าถูกต้องก็กด Enter ที่แป้น เหมือนกับเข้าเว็บไซต์ทั่วไป สักพักหน้าจอ Yahoo! GeoCities จะปรากฎแก่สายตา

-หน้าแรกที่เห็นนี่ละครับ เป็นประตูทางเข้าเพื่อการลงทะเบียนขอฟรี ตรงนี้สังเกตุหน่อยนะครับ เขามีข้อความเตะตาอยู่ 3 แห่ง ให้เราเลือก เราต้องเลือกคลิ๊กตรงตำแหน่งที่มีข้อความว่า Build Your Web Site สังเกตุข้อความนี้จะอยู่ใต้คำว่า It's Free,fast and easy ! หลังจากคลิ๊ก ไปแล้ว จะขึ้นหน้าจอใหม่ ซึ่งเป็นประตูใหญ่ทางเข้าไปลงทะเบียน

-หน้าจอใหม่ที่ปรากฎ ต้องสังเกตุให้ดีนะครับ เขาจะมีที่ให้เข้าสำหรับคนที่เป็นสมาชิก แล้ว กันผู้สมัครใหม่ ตรงนี้ผมเคยพลาดมาแล้ว คลิ๊กผิดที่เพราะ มองข้ามช่องที่ตนเองควรจะคลิ๊กไป ต้องถอยกลับมาใหม่ ข้อความตรงนี้อ่านแล้วเข้าใจเลย เขาเขียนว่า I'm a New User และใต้คำที่ว่า จะมีคำว่า Sign me up ให้เราคลิ๊กที่คำหลังนี้ จากนั้น หน้าจอลงทะเบียน จะปรากฎขึ้น ซึ่งหากมีถิ่นที่อยู่ใน 50 รัฐของสหรัฐอเมริกา ก็สามารถกรอกข้อความไปได้เลย แต่ถ้าไม่อยู่ในสหรัฐอเมริกา ต้อง คลิ๊กที่ Non-US Sign up form ข้อความนี้ ไม่ใช่หัวข้อใหญ่ๆ นะครับ ต้องสังเกตุให้ดี ข้อความจะอยู่ท้ายสุดของย่อหน้าแรกนั่นละครับ สังเกตุ ตัวอักษรเป็นสีน้ำเงิน ขณะที่ตัวอักษรพื้นเป็นสีดำ

-คราวนี้ ก็กรอกข้อความได้ตาม อัธยาศัย อย่างแรกก็ให้เราตั้งชื่อผู้ลงทะเบียนเอง อย่างผมใช้ชื่อผม ลงในตอนแรก แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะมีผู้ใช้ชื่อ olarn หรือ oraan ไปแล้ว ชื่อURL ของผมถึงได้ใช้คำว่า Oraans แทนที่จะใช้คำว่า Oraan เฉยๆ ยิ่งถ้าชื่อ สมชาย หรือ วิชัย ยิ่งหายห่วง ต้องปรับแก้กันอุตลุต เพราะคนไทยที่ชื่อสมชาย สมชัย มีเยอะมาก ชื่อวิชัย ก็ลำบากพอกัน เพราะคนอินเดียชื่อวิชัยมีเยอะแยะ อ้อ เขายกตัวอย่างให้ดูด้วย ถ้ากรอกเท่าไหร่ ก็ให้ปรับแก้ใหม่ ก็ลองดูนะครับ ไม่จำเป็นต้องใช้เส้น_ก็ได้ อย่างเพื่อนผมชื่อสมชาย เขาก็ใช้IDเป็น somchaisakul คำหลังเป็นนามสกุลนั่นเอง ส่วนอีกช่องอยู่ข้างใต้ เป็นรหัสครับ ก็ใส่รหัสที่เราไม่หลงลืมลงไป และเขาจะให้เรากรอกรหัส(เดิม)ซ้ำอีกที(กรอกรหัสสองหน)

ขั้นตอนการกรอก บอกได้เลยว่า ไม่มีอะไรยุ่งยากซับซ้อน ถามชื่อ ถามอายุ เราก็กรอกไปตามนั่น เราสนใจทำเกี่ยวกับอะไร ก็บอกไปตามนั้น ความจริงแล้วสมัยนี้ เป็นยุคพัฒนาชองgeocities ครับ ขั้นตอนสั้นมาก และชื่อเว็บไซต์ก็สั่นด้วย สังเกตุชื่อURL ของผมสิครับ www.geocities.com/oraans สมัยก่อน ต้องกรอกแบบสอบถามเยอะ และชื่อURLยาวเฟื้อยด้วย เดี๋ยวนี้สบายมาก และเรียกขึ้นจอเร็วมาก คล้ายกับเปิดปุ๊บติตปั๊บ เว้นแต่ถ้าคุณใช้รุ่นโบราณ ก็ย่อมช้าเป็นธรรมดา สำหรับเครื่องของผมแล้ว มาเร็วแค่ดีดนิ้วครับ

ขอย้ำอีกครั้งว่า ที่ไม่ลงรายละเอียดในการกรอกข้อความ เพราะเห็นว่า กรอกแบบพื้นๆจริงๆ ไม่มีอะไรที่อ่านแล้วไม่เข้าใจ และตอบก็ใช้คำสั้นๆ ความจริงแล้วถ้าเคยกรอกลงทะเบียนชอใช้ อีเมลฟรีมาแล้ว กรอกลงทะเบียน geocities ก็ไม่ต่างกันเลยครับ แถมจะสั้นกว่าด้วย

กรอกข้อความครบถ้วน ไม่ลืมอะไร ก็คลิ๊กที่ข้อความแถวล่างๆ ที่มีคำว่า submit นั่นละครับ ถ้าหากชื่อไม่ซ้ำ ก็เป็นอันว่าจบขั้นตอน แต่ถ้าชื่อซ้ำ หรือลืมกรอกอะไร เขาก็จะแจ้งให้ทราบ อย่างทันทีทั่นใด เราก็ไปแก้ หรือปรับปรุงใหม่ ๆ ตามที่เขาให้แก้ไข ถ้าไม่ซ้ำใครเขาอีก ก็เป็นอันว่า จบขบวนการ แล้วเขาก็เชิญชวนให้เรา ทำโฮมเพจในทันทีทันใดเลยทีเดียว

ถ้าเราอยากรู้ รายละเอียดเกี่ยวกับ ID ของเรา หรือ ความหน้าสนใจที่geocities แนะนำ เราไปเปิด E-mail ของเราอ่านเดี๋ยวนั่นได้เลย เรียกว่าพออนุมัติเสร็จ ก็อัตโนมัติ แจ้งไปยัง E-mail ของเราทันที เราก็ควรจะปริ๊นเอกสารที่แจ้งมา อาจจะ 2-3 ชิ้น ก็ปริ๊นใส่แฟ้มเก็บไว้ และถ้าจะให้ดี เราควรเขียนชื่อ IDของเรา และรหัสผ่านของเราเอาไว้ เพราะมักจะลืมเสมอ อย่านึกว่าตนเองเก่งนะขอรับ พอเอาเข้าจริงๆแล้วลืมสนิท ไม่รู้ว่าตนเองใช้รหัสอะไร ครั้นจะไปให้geocitiesช่วยค้นรหัสให้(คลิ๊กเองนะครับ) ก็กลับลืมคำ"ปุจฉา-วิสัชนา"ของเราเองที่ ให้ไว้ เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ แต่ขอเตือนว่า รหัสต้องปิดเป็นความลับสุดยอดนะครับ ไม่เช่นนั่นคนไม่ หวังดี อาจจะเข้าไปแก้ไขเว็บไซต์ของเราได้ อาจนำความเดือดร้อนมาให้เรา สวัสดี พบกันใหม่