หน้า 1

มหาเดวิทย์นำทีม จี้มส.ทบทวนมติ

วัดพระธรรมกายเตรียมรับชาวพุทธต่างประเทศจากทั่วโลก มาร่วมบุญยิ่งใหญ่ ฉลองธรรมกายเจดีย์ ตรงกับวันคุ้มครองโลกของสหประชาชาติ เผยหมายกำหนดการเตรียม ทอด ผ้าป่า ระดับชาติครั้งที่ 4 รวมทั้งจุดคันธ์ทิพย์ชวาลสราญรมย์ ด้านพระมหาเดวิทย์นำทีม รวมรวบลายเซ็นต์ เสนอรมว.ศึกษา สั่งเลขาฯมส. เสนอมหาเถรฯ ทบทวนมติปลด พระพรหมโมลี หวั่นเหตุการณ์จะบานปลาย

วันที่ 12 เมษายน 2543 สำนักงานประชาสัมพันธ์ วัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า งานพิธีฉลองธรรมกายเจดีย์ ครั้งที่ 1 ที่จะจัดให้มีขึ้น ณ ศูนย์กลาง ธรรมกายแห่งโลก ในวันที่ 22 เมษายน 2543 นี้ ซึ่งตรงกันวันคุ้มครองโลกของสหประชาชาติ ทุกฝ่ายงานของวัดพระธรรมกาย ได้มีการจัดเตรียมงาน และเตรียมการต้อนรับ พุทธศาสนิกจากทั่วโลก ที่จะเดินทางร่วมงานเกือบจะเรียบร้อยแล้ว คาดว่า จะสามารถให้การรองรับจำนวนคลื่นมหาชนนับแสนคน

น.ส.ชุลีพร ช่วงรังษี ได้กล่าวว่า งานด้านฝ่ายสถานที่ได้เตรียมงานมานานกว่า 1 เดือนแล้ว จนถึงวันนี้ยังคงมีการเก็บงานอีกเพียงเล็กน้อย ก็จะแล้วเสร็จ ส่วนงานฝ่ายอาหาร และ เครื่องดื่ม ก็มีความพร้อมที่จะผลิตอาหารออกมาได้ อย่างเพียงพอสำหรับคนจำนวนทั้งหมด ที่จะมาร่วมงานด้วยท่านฝ่ายอาหารมีระบบการผลิตที่ทันสมัย สามารถผลิตอาหาร ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังมีข้าวสุกกระป๋อง ซึ่งผลิตจากข้าวสารอย่างดีของไทยมาเตรียมไว้สำรองในงานอีกสานหนึ่งด้วย

น.ส.ชุลีพร กล่าวต่อไปอีกว่า วัดพระธรรมกายได้มีกาหนดการฉลองเจดีย์ออกมาแล้ว ในวันที่ 22 เมษายนนี้ ที่บริเวณศูนย์ธรรมกายแห่งโลก วัดพระธรรมกาย จะมีพิธีเริ่มตั้งแต่ ภาคเช้าเวลา 09.30 น. เป็นพิธีการปฏิบัติธรรม "วันคุ้มครองโลก" ในภาคบ่าย ก็จะเป็นพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีระดับชาติครั้งที่ 4 ภาคเย็นเป็นพิธีจุดคันธ์ทิพย์ชวาลสราญรมย์ และได้กำหนดให้สาธุชน เข้ามาร่วมในบริเวณพื้นที่ลานมหาธรรมกายเจดีย์ ต่อมา ก็จะเป็นพิธีอธิษฐานจิตบูชาพระรัตนตรัย จากนั้นจะเป็นการแสดงแสง สี เสียง ที่ยิ่งใหญ่ ตระการตา พิธีจะมีต่อไปจนถึงเวลา 21.30 น. เมื่อเสร็จงานพิธีแล้ว ก็จะมีการมอบของที่ระลึกให้อีกด้วย

ทางด้านฝ่ายประสานงานต่างประเทศ นายแพทย์ พรชัย พิญญพงษ์ ได้เปิดเผยว่า จนถึงวันนี้ได้มีสาธุชนชาวพุทธจากต่างประเทศ ได้ติดต่อแสดงการยืนยันที่จะเดินทางเข้ามา ร่วมงานด้วยแล้วประมาณ 1,800 คน และยังได้รับการติดต่อเข้ามาอยู่ทุกวัน ท่านลามะกังเซ็น ก็ติดต่อเข้ามาแล้ว จะมีสาวกจากสาขาต่างประเทศของท่าน ติดตามมา ด้วย ประมาณ 40 รูป ที่วัดมัญชูศรี ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ก็ติดต่อเข้ามาว่าจะมีฆราวาส เดินทางมาด้วยประมาณ 40 คน ที่ศรีลังกาได้ติดต่อมาว่า จะมีพระและฆราวาสมา ร่วมงานประมาณ 100 คน ส่วนที่ไต้หวันสถาบันองค์กรเลย์บุสดิส ได้แจ้งเข้ามาแล้วว่า จะมีจำนวนประมาณ 20 คน ญี่ปุ่นระดับผู้นำชาวพุทธ 2 คน ออสเตรเลียประมาณ 100 คน กัมพูชาประมาณ 150 คน ประเทศลาว 500 คน นอกจากนนี้ยังมีชาวพุทธจากประเทศอเมริกา เบลเยี่ยม ฝรั่งเศส และประเทศอื่น ๆ อีก 10 กว่าประเทศ ที่กำลังอยู่ในระหว่าง การรวบรวมจำนวนผู้ที่จะเดินทางเข้ามา ซึ่งจะสามารถทราบจำนวนที่แน่นอนได้ภายในวันที่ 18 เมษายนนี้

นายแพทย์พรชัย กล่าวอีกว่า คณะชาวพุทธจากต่างประเทศ ที่เข้ามร่วมงานฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ ครั้งที่ 1 นี้ จะเริ่มทยอยกันเดินทางเข้ามาตั้งแต่วันที่ 19 เมษายนนี้ เป็นต้น ไป โดยจะเข้าพักตามโรงแรมต่าง ๆ ทั้งในเขตกทม. และชานเมือง ชาวพุทธต่างประเทศเหล่านี้ เมื่อเสร็จจากงานฉลองนี้แล้ว ก็จะยังคงพักอยู่เมืองไทยต่อไปอีกระยะหนึ่ง บางส่วน ก็จะออกท่องเที่ยว บางส่วนก็จะไปเยี่ยมเยียนพระเถรานุเถระ ที่รู้จักกันมาก่อน และจะออกเดินทางไปทัศนศึกษาด้านศิลปวัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนา ตามวัดวาอารามต่างๆ ที่มีความสำคัญทางพระพุทธศาสนา ในเมืองไทย ซึ่งชาวพุทธต่างประเทศเหล่านี้ เคยเดินทางมาเมืองไทยบ้างแล้ว บางคนก็เคยเห็นภาพพุทธศาสนา ในเมืองไทยจากหนังสือ และ ทาง สื่อต่าง ๆ มาบ้างแล้ว เช่นกัน นอกจากนี้ จะมียุวธรรมทายาทต่างประเทศอีกกลุ่มหนึ่ง ประมาณ 20 คน ซึ่งเคยมาเข้าค่ายอบรมที่วัดพระธรรมกายไปแล้ว ก็ได้แสดงการยืนยัน แล้วว่า จะเดินทางมาร่วมงานครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ได้มีหนังสือจากพระมหาเดวิทย์ ยสสี ประธานองค์การยุวสงฆ์ แห่งประเทศไทย พระครูธรรมธรวันชัย ศูนย์ธุดงควัตรเคลื่อนที่แห่ง ประเทศ ไทย พระครูพิศาลธรรมโสภณ เลขาธิการกองการวิปัสสนาธุระแห่งประเทศไทย และพระอธิการประดิษบ์ สาทโร ประธานกลุ่มสำนักปฏิบัติธรรมแห่งประเทศไทย เข้ายื่นต่อ รัฐมนตรี ว่าการ กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อขอให้สั่งการเลขาธิการ มส.นำความคิดเสนอต่อมหาเถรสมาคม เพื่อขอให้สั่งการเลขาธิการ มส.นำความคิดเสนอต่อมหาเถรสมาคม เพื่อให้ทบทวนมติ โดยมีลายเซ็นของพระภิกษุสามเณรกว่า 16,211 รูป ซึ่งหนังสือระบุว่า ตามมติที่ประชุมมหาเถรสมาคม เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2543 ให้พระพรหมโมลี วัดยานนาวา กรุงเทพฯ พ้นจากตำแหน่งเจ้าคณะภาค 1

จึงได้มีการรวบรวมลายเซ็นจากภิกษุสามเณร ได้พิจารณาด้วยความรอบคอบและได้มีความเห็นร่วมกันว่า พระพรหมโมลีเป็นพระมหาเถระที่มีศีลาจารวัตรดีงาม หนักแน่น และ ซื่อตรงต่อพระธรรมวินัย กฎหมาย กฎมหาเถรสมาคม ที่บรรดาภิกษุสามเณร และพุทธศาสนิกชนทั่วไป มีความเคารพและกราบไหว้ได้ด้วยความสนิทใจ ได้ปฏิบัติหน้าที่ใน ฐานะเจ้าคณะภาค 1โดยยึดความถูกต้องตามพระวินัย กฎหมาย กฎมหาเถรสมาคม และจารีตประเพณีอันดีงามของสังคม มากกว่าที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามความต้องการ ของ กระแสภายนอก ที่มุ่งกดดันคณะสงฆ์ให้เกิดความระส่ำระสาย และแตกร้าวมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ การยืนยันของพระพรหมโมลี ที่จะไม่ดำเนินการ ในเรื่องของวัดพระธรรมกายต่อไปอีก โดยให้เหตุผลว่า หากขืนดำเนินการต่อไป ก็จะเป็นการกระทำที่นอกเหนือจาก พระธรรมวินัย กฎหมาย และกฎมหาเถรสมาคม เป็นเรื่องที่ควรพิจารณาให้รอบคอบมากกว่าที่จะคิดเพียงเพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของมติ จนเป็นเหตุให้ต้องมีมติให้พระพรหมโมลี ออกจากตำแหน่ง เจ้าคณะภาค 1 ถือว่า เป็นมติที่สมเหตุสมผล เป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ในการทำสังฆกรรมทุกประเภท เมื่อมีภิกษุรูปใดรูปหนึ่งทักท้วงขึ้น สงฆ์ที่เข้าร่วมประชุมทำ สังฆกรรม นั้น ๆ ก็จะต้องร่วมกันพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบว่า การทัดท้วงของภิกษุรูปนั้น มีเหตุผลและข้อเท็จจริงตามหลักพระธรรมวินัยมากน้อยเพียงใด มิใช่พิจารณาเพียง ผิวเผิน แล้วด่วนสรุปไล่ภิกษุผู้ทักท้วงรูปนั้นออกจากที่ประชุมสังฆกรรม เพราะอาจทำให้สังฆกรรมที่จะทำต่อไปนั้น ไม่เป็นอันทำได้

ปัจจุบันนี้ บุคคลในชาติ แตกแยกทางความคิดเห็นกันมากอยู่แล้ว ถ้ามหาเถรสมาคม ยังยืนยันตามมติว่า ให้พระพรหมโมลีออกจากตำแหน่งเจ้าคณะภาค 1 เพียงเพื่อรักษา ความศักดิ์สิทธิ์ของมติ โดยมิได้คำนึงถึงความถูกต้องตามพระธรรมวินัย กฎหมาย กฎมหาเถรสมาคม และจารีตประเพณี อันดีงามของสังคมแล้ว ก็จะกลายเป็นชนวนนำไป สู่ ความแตกแยก อย่างกว้างขวางทั่วสังฆมณฑล โดยไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ จึงขอให้รัฐมนตรีว่าการศึกษาธิการ ซึ่งเป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ได้นำ ความคิดเห็นของพระภิกษุสามเณรที่มีสมานฉันท์ เซ็นชื่อร่วมกันเสนอเข้าสู่ที่ประชุมมหาเถรสมาคม เพื่อพิจารณาทบทวนมติให้พระพรหมโมลี ออกจากตำแหน่ง เจ้าคณะภาค 1 ก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลายไปมากกว่านี้