นิราศธารทองแดง บทที่๑-๓๐ ] บทที่๓๑-๖๐ ] บทที่๖๑-บทที่๙๐ ] [ บทที่๙๑-บทสุดท้าย ]

๙๑ ปลาแปบแลปลาเป้า   

 ปลาเข้าเม่าปลาคางเบือน

ปลาม้าหน้าคนเหมือน   

 ปลากดกรายสวายหางแดง ฯ

     ปลาดุกปลาแปบเป้า   

 แลเลือน

เข้าเม่าเหล่าคางเบือน   

 มุ่งหม้าย

ปลาม้าหน้าคนเหมือน   

 คนอยู่

ปลากดกรายสวายหว้าย   

 โบกน้ำหางแดง

 

 

๙๒ ตะตรับคอยตรับหู   

 หมู่ปลาบู่ว่ายเวียนแฝง

สร้อยส้าปลาหมอแขยง   

 ปลาแมงภู่หมู่กะทงเหง ฯ

     ปลาตะตรับคอยกะตั้ง   

 หูแขง

ปลาบู่ว่ายเวียนแฝง   

 ฝั่งน้ำ

สร้อยส้าปลาหมอแขยง   

 สังกวาด

แมงภู่ดูโลดล้ำ   

 พรั่งพร้อมกะทุงเหง ฯ

 

 

๙๓ ปลาอ้าวปลาเนื้ออ่อน   

 ว่ายมาก่อนปลาหนามหลัง

กระแหหางแดงหวัง   

 เข้าสู่ทุ่งมุ่งเลมไคล ฯ

     ปลาอ้าวเนื้ออ่อนหญ้า   

 ตัวบัง

มาก่อนปลาหนามหลัง   

 อยู่หน้า

กระแหหางแดงหวัง   

 คลาแหล่ง

เข้าสู่ทุ่งเลมหล้า   

 เหยื่อย้ำกินไคล ฯ

 

 

๙๔ ปลากะโห้ชโดแฝง   

 ช่อนชวาดแชวงแฝงครัน

หน้าสั้นปลานวลจันทร์   

 ปลาอ้องแอ้งปลาเสือหมู ฯ

     ปลาชโดกะโห้ใฝ่   

 แฝงกัน

ช่อนชวาดแชวงสูบครัน   

 ว่ายแว้ง

หน้าสั้นอิกนวลจันทร์   

 หลายเหล่า

ปลาทุกท้องอ้องแอ้ง   

 หมึกเหม้าเสือหมู ฯ

 

 

๙๕ กดคลังปลากสังมี   

 ปลากระดี่ปลาดุกอุย

พ่นน้ำกะจายกะจุย   

 ปลาหูช้างช้างเหยียบซิว ฯ

     กดคลังปลากสังหว้าย   

 ชายงุย

ปลากระดี่ปลาดุกอุย   

 แอบข้าง

พ่นน้ำกะจายกะจุย   

 หลายเหล่า

ปลาชื่อหูช้างช้าง   

 เหยียบบี้ปลาซิว ฯ

 

 

๙๖ เทโพแลเทพา   

 ตะเพียนพาพาพวกจร

ไอ้บ้าปลาสลุมพอน   

 ผักพร้าเพรี้ยแลหนวดพราม ฯ

     เทโพพาพวกพ้อง   

 เทพา

ปลาตะเพียนปลากาพา   

 คู่เคี้ย

สลุมพอนไอ้บ้าปลา   

 หลายหมู่

ปลาผักพร้าม้าเพรี้ย   

 ว่ายไหล้หนวดพราม ฯ

 

 

๙๗ ฝูงนาคมากหมู่มา   

 ดำน้ำท่าหาอาหาร

ฝูงปลามาพะพาน   

 ขบได้ถนัดกัดกินเนือง ฯ

     ฝูงนาคมากหมู่หมั้ว   

 ดาขนาน

ดำน้ำหาอาหาร   

 แกล่กล้ำ

ฝูงปลามาพอพาน   

 พะปาก

ขนถนัดกัดใต้น้ำ   

 ผุดขึ้นกินเนือง ฯ

 

 

๙๘ งูเหลือมคอกระหวัดไม้   

 หางกระหวัดไว้ใฝ่อาหาร

วิดน้ำในห้วยธาร   

 โพงไปมาเอาปลากิน ฯ

     งูเหลือมแบนท้องแผ่   

 คือกะดาน

วิดน้ำหาอาหาร   

 ใฝ่กล้ำ

โครมครุ่นในห้วยธาร   

 เสียงฉ่า

โพงสาดไปให้น้ำ   

 ซ่านสิ้นกินปลา ฯ

 

 

๙๙ งูเหลือมบนกิ่งไม้   

 ใบหนาใส่ซ่อนซอน

แกกาช้างวานร   

 พอมาใกล้ได้ฉวยกิน ฯ

     งูเหลือมบนค่าไม้   

 ใบสลอน

คางซบแนบแอบนอน   

 ซ่อนเร้น

แกกาค่างวานร   

 ลืมร่าง

งูขบถนัดกัดเน้น   

 ค่อยกล้ำกลืนกิน ฯ

 

 

๑๐๐ จรเข้หลายว่ายเคียงคู่   

 เป็ดเปนหมู่ภู่เข้าไป

เป็ดบินสิ้นตกใจ   

 คนพิศเพ่งเลงแลดู ฯ

       จรเข้ใหญ่น้อยว่าย   

 ชลใส

ภู่ตามเป็ดน้ำไป   

 เรื่อยรี้

เป็ดน้ำดำตกใจ   

 บินตื่น

คนคล่ำเลงแลชี้   

 บอกให้กันดู ฯ

 

 

๑๐๑ เป็ดหงส์ลงธารา   

 คล่ำดำหาปลาตะเพียนเวียน

ไล่ลัดฉวัดเฉวียนเวียน   

 หาปลาแปบแทบทันกัน ฯ

       เป็ดหงส์ลงท่องท้อง   

 ธารา

เตร็จคล่ำดำหาปลา   

 ก่ายหว้าย

แชวงแขยงม้ากา   

 กดหลด

ได้แปบแทบกายหม้าย   

 อ่าวค้าวตะเพียนเวียน ฯ

 

 

๑๐๒ ตะพาบน้ำคลานขึ้นไข่   

 ฝังไข่ไว้ในหาดทราย

ตริวตราวเต่าม่านลาย   

 ผุดดำคล้ายว่ายเห็นตัว ฯ

       ตะพาบน้ำคลานขึ้นไข่   

 ตีนตะกาย

ฝังไข่ในหาดซาย   

 กลบเกลี้ยง

ตริวตราวขนุม่านลาย   

 ตระเต่า

ดำผุดคล้ายว่ายเพี้ยง   

 ก่ายกลุ้มหนาตัว ฯ

 

 

๑๐๓ ปูกุ้งลอยก่งก้าม   

 แลเหลือหลามย่ามเหยื่อหา

หอยโข่งหอยขมตา   

 วัวก็มีที่ท้องธาร ฯ

       ปูกุ้งลอยก่งก้าม   

 ไคลคลา

เหลือหลามย่ามเหยื่อหา   

 สู่ส้อง

หอยโข่งหอยขมตา   

 วัวเกลื่อน

สารพัดมีที่ท้อง   

 ท่าน้ำธารสินธุ์

 

 

๑๐๔ เถาวัลย์พันพฤกษา   

 ถีบชิงช้าช้าแกว่งไกว

ทำเพลงวังเวงไพร   

 ส่งเสียงเรื่อยเฉื่อยละคอนเครง ฯ

       เถาวัลย์พันไม้หย่อน   

 ลงมา

สาวนั่งถีบชิงช้า   

 ห่วงห้อย

ทำเพลงวังเวงอา   

 รมณ์ชื่น

เสียงส่งเพราะดอกสร้อย   

 ฉ่ำร้องละคอนเครง ฯ

 

 

๑๐๕ ลมพัดมาเรื่อยเรื่อย   

 เย็นชวยเฉื่อยสำราญใจ

ปูผ้านอนหลับใน   

 ใต้ร่มไม้ไทรสาขา ฯ

       ลมพัดมาเฉื่อยชื้อ   

 เย็นใจ

ปูผ้านอนหลับใหล   

 กลาดกลุ้ม

ฟูกหมอนเรียบกันไป   

 หลายเหล่า

นอนอยู่ใต้ไทรผุ้ม   

 ร่มไม้ไพศาล ฯ

 

 

๑๐๖ ลางนางอาบน้ำท่า   

 ทาขมิ้นเหลืองพึงชม

ทาแป้งแกล้งหวีผม   

 ผัดหน้านวนยวลใจชาย ฯ

       ลางนางตักน้ำท่า   

 อาบองค์

ขัดขมิ้นเหลือบรรจง   

 ลูบน้ำ

หวีเกล้าเอาเทริดทรง   

 ผมปีก

ผัดหน้านวนงามล้ำ   

 ยั่วเย้าใจชาย ฯ

 

 

๑๐๗ จบเสร็จชมนกไม้   

 ในแหล่งไหล้พนัศสถาน

หญิงชายฟังสำราญ   

 ที่ผิดผ่านวานแต้มเขียน ฯ

       จบเสร็จชมนกไม้   

 โคลงการ

ชมแหล่งไพรพนัศสถาน   

 เถื่อนกว้าง

หญิงชายชื่นชมบาน   

 ใจโลกย์

ใครอ่านวานเติมบ้าง   

 ช่วยแต้มเขียนลง ฯ

 

 

๑๐๘ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์   

 ไชยเชษฐสุริย์วงศ์เพียง

แต่งไว้ให้สถิตเสถียร   

 จำเนียรกาลนานสืบไป ฯ

       เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์เจ้า   

 ทรงเขียน

ไชยเชษฐสุริย์วงศ์เสถียร   

 เลิศหล้า

แต่งไว้ให้สถิตเสถียร   

 ในโลกย์

จำเนียรกาลนานช้า   

 อ่านอ้างสรรเสริญ ฯ

 

 

       เจ้าฟ้า หนุ่มน้อยราช   

 กุมาร

ธรรม์ ธำรงกลอนการ   

 ยั่วแย้ม

ธิเบศร์ วราสถาน   

 ไชยเชษฐ

สุริย์วงศ์ ทรงโคลงแต้ม   

 แต่งไว้วานสงวน ฯ

 

 

       เจ้าฟ้า เลิศส้ำโพธิ   

 สมภาร

กรมขุน หลวงพญากราน   

 กราบเกล้า

เสนา นราบาน   

 ใจชื่น ชมนา

พิทักษ์  รักษาเช้า   

 ค่ำด้วยใจเกษม ฯ

 

 

       จบ จนจอมโลกย์เจ้า   

 คืนวัง

บ พิตรสถิตบัลลังก์   

 เลิศหล้า

ริ  ิิร่างกาพย์โคลงหวัง   

 ชนโลก   อ่านนา

บูรณ์  พระโคลงเจ้าฟ้า   

 ธิเบศร์เจ้าจงสงวน ฯ

 

 

       อักษรเรียบร้อยถ้อย   

 คำเพราะ

ผู้รู้อ่านสารเสนาะ   

 เรื่อยหรี้

บรู้อ่านไม่เหมาะ   

 ตรงเทิ่ง   ไปนา

ทำให้โคลงทั้งนี้   

 ชั่วช้าเสียไป ฯ

 

 

       อักษรสวรรค์สร้างช่าง   

 ชุบจาร

โคลงก็เพราะเสนาะสาร   

 แต่งไว้

ผู้รู้อานกลอนการ พาชื่น   

  ใจนา

ผู้บ่รู้อ่านให้   

 ขัดข้องเสียโคลง ฯ

1