![]() |
การตลาดและโฆษณา |
นักขายมือพระกาฬ คำว่า"นักขายมือพระกาฬ" ไม่รู้เหมือนกันว่าใครพากันเรียก แม้นว่าผู้เขียนจะชอบอ่านเรื่องเก่าๆ แต่ก็ไม่เคยอ่านเจอสักครั้งว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร เคยได้ยินแต่เขาเรียก "ศาลพระกาฬ" โดย เฉพาะถ้าเป็นศาลพระกาฬลพบุรี เป็นอันรู้กันว่าที่นั่นสมบูรณ์ไปด้วยลิง(และท่าจะมือไวเสียด้วย) วงการนักขายเขาก็ใช้คำนี้มานานแล้ว ซึ่งจะหมายถึงคนที่ขายเก่งเป็นเลิศ ระดับ"มือเซียน" หรือ ระดับ"มือทอง"นั่นเอง คนในวงการนักขายโฆษณาก็มีหลายระดับเช่นกัน ถ้าจะเรียกให้ถูก ก็ต้องแบ่งเป็นระดับพนักงาน กับระดับบริหาร ในที่นี้จะว่าถึงนักขายระดับพนักงานเป็นสำคัญ เพราะคนส่วนใหญ่ที่เข้าตลาด แรงงานใหม่ๆ ก็ต้องเข้าสู่ระดับนี้ก่อนเป็นเบื้องต้น นักข่าวกับนักขายโดยลักษณะงานมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว บุคลิกภาพก็แตกต่างกัน (แปลกเหมือนกันทำไมต้องแตกต่างกันด้วย) เวลาทำงานก็แตกต่างกัน รายได้ก็แตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้ว รายได้ต่อเดือนพนักงานขายเก่งๆ จะมีรายได้รวมต่อเดือนมากกว่านักข่าว หลายช่วงตัว พนักงานขายเก่งๆ อาจมีรายได้พอๆกับ บ.ก.หนังสือพิมพ์เลยทีเดียว แต่ใน ขณะเดียวกัน ถ้านักขาย"มือสมัครเล่น" รายได้ต่อเดือน จะน้อยกว่านักข่าวเสียด้วยซ้ำ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ นักขายจะมีรายได้มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับความสามารถในการขาย เป็นสำคัญ นักข่าวจะดูเป็นที่น่าสนใจมากกว่าในการพบปะผู้คน เพราะส่วนใหญ่ธุรกิจ หรือองค์กรต่างๆ จะพึ่งพานักข่าว เผยแพร่ข่าวสาร ในขณะที่นักขายนั้นต้องใช้ความพยายามอย่างสูง ที่จะเข้าไปพบปะกับผู้คน เวลาในการทำงานระหว่าง นักข่าวกับนักขายก็จะแตกต่างกัน นักข่าวดูจะเป็นตัวของตัวเอง(ขึ้นกับงาน)มากกว่า ในขณะที่นักขายจะถูกตีกรอบในเรื่อง เวลาทำงานมากกว่า แต่เชื่อหรือไม่ครับ สิ่งที่เหมือนกันระหว่างวิชาชีพสองแขนงนี้ ก็มีมหาศาลเช่นกัน ซึ่งอ่านไปเรื่อยๆก็จะเข้าใจเอง พนักงานก่อนที่จะเป็น"นักขาย" สิ่งที่จำเป็นอันดับแรกก็ไม่แตกต่างจากนักข่าว ซึ่งนั่นก็คือ จะต้องรู้จักองค์กรต่างๆ รู้จักบุคคลในองค์กรต่างๆ รู้จักข้อมูลข่าวสารที่เคลื่อนไหวในแต่ละวัน เรียกว่า ต่างก็มี"การบ้าน"เหมือนกันทั้งนั้น มิหนำซ้ำในเรื่องของบุคคล อาจต้องค้นคว้าเจาะลึก ไปมากกว่านักข่าวเสียอีกในด้าน อุปนิสัย ใจคอ ความชอบ และขอบอกได้เลยว่า คุณไม่อาจ เรียกตนเองว่าเป็นนักขายที่ดีได้ ถ้าคุณไม่รู้ข้อมูลเหล่านี้ของลูกค้า เป็นต้นว่า ไม่รู้วันเกิด ไม่รู้จักสกุล ไม่รู้จักแซ่ ไม่รู้จัก"อาณาจักร" ของลูกค้า นักขายมืออาชีพเขารู้เรื่องเหล่านี้ ของลูกค้าทั้งนั้น รู้พฤติกรรมเข้าออกที่ทำงาน รู้ทะเบียนรถยนต์ รู้ว่าใช้รถอะไรบ้าง รู้ว่าเขาชอบ หรือไม่ชอบอะไรเป็นพิเศษ ความรู้เหล่านี้มีบางเรื่อง ไม่สามารถรู้ได้จากการอ่าน แต่จะรู้ได้จากการสืบเสาะหาข้อมูล สิ่งเหล่านี้จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยทีเดียว ไม่เหมือนกับความรู้เกี่ยวกับองค์กรของลูกค้า เราสามารถเรียนรู้ได้จากการอ่าน และข้อมูลเหล่านี้นักขายอื่นๆ ก็มีความรู้ที่ไม่แตกต่างกัน เมื่อไม่แตกต่าง ความน่าสนใจในตัวเราก็"ไม่แตกต่าง"เช่นกัน ถ้าจะให้ลูกค้าจดจำเราได้ และพอใจจะสนทนาด้วย เราต้องศึกษาลูกค้าของเราให้มาก ซึ่งหมายความว่า นักขายจะต้อง เรียนรู้ "คน" หรือ ต้องสนใจในจิตวิทยาของคนนั่นเอง การขาย(พื้นที่ลง)โฆษณาสื่อสิ่งพิมพ์จะง่ายหรือยาก ขึ้นกับความนิยมของสื่อสิ่งพิมพ์นั้นในตลาด แต่การจะได้เงินมานั้น ย่อมไม่มีอะไรง่ายเหมือนปลอกกล้วย ต้องออกแรง ใช้สมอง ใช้สติปัญญา และใช้เวลาด้วยกันทั้งนั้น เว้นเสียแต่ว่าคุณเป็นพนักงานของสื่อทรงอิทธิพล (ว่ากันว่าปลอกกล้วย เข้าปากยังยากกว่ารับลงโฆษณาเสียอีก)ของประเทศ องค์กรที่ทำธุรกิจเป็น(อินเตอร์) ในแต่ละปีจะจัดสรรงบโฆษณาประชาสัมพันธ์ เอาไว้เรียบ ร้อยแล้ว และมีตัวเลขเคร่าวๆอยู่แล้วว่า จะใช้เงินกับสื่อประเภทใด ประเภทใดมากหรือน้อย หน้าที่ของนักขาย ต้องไปแบ่งเค็กเหล่านั้นมา(ไม่ว่าเขาจะเรียนเชิญหรือไม่ก็ตาม) ก็เหมือนกับ สินค้าหลายๆชนิด ที่มีผู้บริโภคอยู่ในตลาดอยู่แล้ว หน้าที่ของนักขายก็คือ ทำให้ลูกค้าตัดสินใจ ซื้อหรือใช้สินค้าของเรานั่นเอง ก็อย่างที่เคยกล่าวมาแล้วนั่นละครับ การขายโฆษณา นักขายที่ดีจะต้องติดตามดูแล เพื่อให้ บริการลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ไม่เหมือนกับขายสินค้าแบบเบ็ดเสร็จ ขายแล้วขายเลย ไม่ต้องไปติดตามอะไรอีก เว้นแต่จะผูกใจลูกค้าไว้เป็นพิเศษ แต่ขายโฆษณาเหมือนเป็น เกมบังคับ ขายแล้วต้องตามบริการ ห้ามทอดทิ้งเป็นอันขาด(แต่ส่วนใหญ่มักจะทอดทิ้ง เพราะนักขายหนึ่งคนรับผิดชอบลูกค้าเกินร้อย หรือหลายร้อยคน) นักขายจะต้องติดตามความเคลื่อนไหวแวดวงธุรกิจของลูกค้า เรียกว่าต้องขยันอ่านหนังสือพิมพ์ ทุกวันให้ได้ มีข่าวต้องเก็บข่าวหรือตัดข่าวเก็บไว้ และใช่ว่าจะเก็บเฉพาะข่าวสารของลูกค้า เท่านั้น ต้องเก็บข่าวแวดวงของลูกค้าด้วย ข่าวไหนเกี่ยวกับลูกค้าก็ต้องเก็บ และต้องนับรวมเอา ข่าวทั่วไป และเป็นที่สนใจโดยทั่วไปด้วย เพราะสิ่งที่ลูกค้าอาจคาดหมายจากเรา ในฐานะที่เราอยู่ ในองค์กรสื่อคือ ข้อเท็จจริงของข่าว หรือความเป็นไปของข่าว เรื่องนี้จึงไม่ควรละเลย หน้าที่ ของนักขายที่ดี เช้าต้องรีบ"บริโภค"ข่าวสาร เป็นทุน สายออกปฏิบัติการจะได้ผล สำคัญ สำคัญ และสำคัญที่สุด คุณจะประกาศตนเองว่า "นักขายมืออาชีพ" ได้ก็ต่อเมื่อ คุณต้องรู้จักตัวสินค้าของตนเอง ดีกว่าใครและใครในบริษัทด้วย ถ้าไม่รู้จักสินค้าของตนเอง ถึงจะขายได้ นั่นคงไม่ได้เป็นเพราะคุณ แต่เป็ยเพราะภาพพจน์ขององค์กร หรือความศรัทธา ต่อสินค้า นักขายมืออาชีพ และมือพระกาฬ เขาจะขายได้ตั้งแต่ตนเองเสียก่อน ครับ ถ้าขายไม่ได้ คงไม่มีโอกาสเข้าไปคุยกับลูกค้าด้วยความสามารถของคุณเอง อีกสิ่งหนึ่งที่เห็นนักขายมือพระกาฬมักจะกระทำสม่ำเสมอ คือ ทักทาย เยี่ยมเยือนลูกค้า งานเลี้ยง งานราษฎร งานหลวง ไม่เคยเว้น ถึงไม่มี"วาระ"อะไร ก็ไม่เคยไกลหูไกลตา และ รับผิดชอบภารกิจ ให้ลูกค้าอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ข้อสำคัญที่สุด ต้องเตือนตนอยู่เสมอว่า "เราเป็นใคร" และ "เขาเป็นใคร" เพื่อวางตนเองให้เหมาะสม อย่างที่เขาเรียกว่า รู้จักกาลเทศะ นั่นละครับ ต้องให้เกียรติลูกค้าเสมอไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลัง ไม่ว่าวัยวุฒิหรือคุณวุฒิลูกค้า จะเป็นอย่างไรก็ตาม เพราะเราเป็น "นักขายมือพระกาฬ" แล (HOME) (บ.ก.ธรรมดา) (อยากเป็นนักข่าว) (จริยธรรมคนข่าว) (คิดถึงไทยอาหม)
|