ปีที่ 2 ฉบับที่ 743 ประจำวันอังคารที่ 27 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2542 |
เรียน "ไอ้ทิด"
ป้าได้หนังสือฉบับนี้จากงานพระราชทานเพลิงศพของอดีตเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพ ที่วัดพระสงฆ์วรวิหาร เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 42 ป้าได้ยินชื่อเสียงของอาจารย์ท่านนี้ มานานแล้ว ท่านจะสนทนาธรรมทางวิทยุเป็นประจำ คนชาวเหนือจะต้องรู้จักท่านดี เพราะชื่อของท่านจะคุ้นหูมาก และลูกศิษย์ของท่านก็คงจะมีมากมายทั่วประเทศ ป้าตั้งใจอยากจะไป กราบเท้าท่าน ถ้ามีโอกาส เพราะชื่นชมในความกล้าของท่านมาก ที่สละชื่อเสียง เกียรติยศ และชีวิตเพื่อพระพุทธศาสนา เพื่อให้ผู้อื่นได้มีโอกาสรู้ข้อมูลเกี่ยวกับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ บ้านเมืองของเราทุกวันนี้ คนจะได้เข้าใจ รู้จักใช้ปัญญาไตร่ตรอง หูตาจะได้สว่างขึ้น ท่านกล้าเขียนด้วยลายมือของท่านเอง ถ้าชาวพุทธในประเทศเรา มีบุคคลเช่นท่านมากกว่านี้ เป็นผู้ใหญ่ ที่ไม่นิ่งเฉยดูดาย กล้าออกมาพูดแสดงความคิดเห็นในทางที่ถูกต้อง เหตุการณ์คงไม่เลวร้ายขนาดนี้
ผู้มีอำนาจหน้าที่โดยตรงเสียอีก หัวหดเข้าไปอยู่ในกระดอง ไม่ยอมโผล่ออกมาเลย ปล่อยให้พวกสื่อทั้งหลายทำตามความพอใจ เรื่องไม่จริงก็นำมาเสนอต่อมวลชน ทั้งๆ ที่สามารถ สืบหา ข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่ยากเลย กล่าวหาซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างต่อเนื่อง คนหูเบา เขาเชื่อไปแล้ว คิดว่าคงเป็นจริง เพราะทุกสื่อพูด เขียนตรงกัน เมื่อไม่มีหลักฐานเอาผิด และสามารถพิสูจน์ ได้ว่า ไม่จริง ก็ไม่เคยแก้ข่าวให้ ผ่านแล้วผ่านเลย ไม่เคยขอโทษ ที่เคยด่าเอาไว้มากมาย แล้วยังตั้งหน้าหาเรื่องใหม่ มาโจมตีต่ออีก ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็น คนหน้าด้านเลวทรามต่ำช้า ชั่วชาติ เลวสุดสุด ไม่สามารถหาคำอะไร มาเรียกให้เหมาะสมได้ ไม่ทราบว่า เขามาจากนรกขุมไหน เขาให้โอกาสมาเกิดเป็นคนแล้ว ยังอยากจะกลับไปสู่ที่เดิมอีก คราวนี้มันยิ่งหนักกว่า เดิมมาก จัดว่าเป็นยุคมืดบอดที่สุด อันตรายที่สุด สื่อตกอยู่ในอำนาจคนชั่ว เขากำลังผยองคิดว่า เขากรอกหู ปิดตาคนได้ทั่วเมือง คนที่มีสติปัญญายังมีอีกมาก เขาไม่รู้หรอกว่า กฎแห่งกรรม มีจริง นรก สวรรค์มีจริง เพราะใจเขามอดบอด เขาทำให้คนอื่นมืดบอดด้วย เป็นกรรมหนักมาก คอยดูกันต่อไป ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับพวกเขาเร็วๆ นี้
เมื่อถึงวันนั้น วันที่ทุกอย่างสามารถพิสูจน์เอาได้ว่า เป็นทองแท้บริสุทธิ์ ต่อไปสื่อจะหมดความสำคัญ สื่อจะไม่มีความหมาย จะไม่มีใครในใจ หมดค่าหมดราคา คนจะมองสื่อ เป็นตัว ที่น่ารังเกียจ ไปไหนเข้าที่ไหนคนก็จะสาบแช่ง ขยะแขยงยิ่งกว่าตัวเห้เสียอีก
ป้ายังสงสัยพวกเขาอยู่ว่า เขามีการศึกษา บางคนทั้งทางโลกและทางธรรม บางคนก็สูงถึงด๊อก แสดงว่าการศึกษาไม่สามารถทำให้คนเป็นคนดีได้ เพราะจิตใจเขาไม่มีคุณธรรม มโนธรรม ความจริงทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี มีเมตตาต่อกัน เอื้อเฟื้อกัน สงสัยพวกเขาคงไม่มีศาสนาแน่ๆ คงเป็นสัตว์นรกมาอาศัยร่างมนุษย์เท่านั้น จึงทำคนในชาติเดียวกันได้ถึงนาดนี้ ทั้งๆ ที่วัดก็ไม่เคยไปทำอะไรให้เดือดร้อนเลย วัดทำแต่ความดี ทุ่มเททั้งชีวิตจิตใจกันทุกคน แต่พวกเขาไม่เคยมองเห็นความดีเลย แม้เพียงเล็กน้อย แปลกจริงๆ ค่ะ
ป้ารัตนา
เรียน บ.ก.พิมพ์ไทย
ได้อ่านข้อเขียนที่เขียนในคอลัมน์ "ปุจฉา-วิสัชนา" ทุกฉบับ ดีใจมากที่พิมพ์ไทยให้โอกาสชาวพุทธที่มีใจเป็นธรรม ทำให้รู้เรื่องขบวนการทำลายพระพุทธศาสนา ยิ่งได้อ่านจาก หนังสือ กัลยาณมิตร เรื่องพุทธศาสนาในเนปาลที่ถูกทำลาย ยิ่งใจหาย ดิฉันเคยอ่านพบหลายที่ ที่กล่าวว่า พุทธศาสนาจะไปรุ่งเรืองในประเทศตะวันตก แต่ในแถบของเราจะตกต่ำ ถึงจะเป็นเพราะ พระพุทธศาสนาลึกซึ่ง ทำให้คนทางตะวันตกที่ชอบเรียนรู้ ใฝ่ศึกษามากกว่าเราหรือเปล่าค่ะ
คนพุทธในประเทศไทย เคยยกย่องท่านพุทธทาส แต่เดี๋ยวนี้กลับหันมายกย่องงานเขียนท่านท่านปยุต ดูเหมือนหนังสือท่านขายดี เห็นบอกว่า พิมพ์ทีละเยอะๆ คนไทยขยันอ่าน ขนาดนี้เลยหรือค่ะ แต่ดิฉันได้เรียนรู้แล้วว่า ท่านเป็นอย่างไร
ขอขอบคุณพิมพ์ไทยมากๆ ที่เป็นเวทีให้มีผู้เขียนความจริง เกี่ยวกับขบวนการทำลายศาสนา ขอให้พิมพ์ไทยอยู่รอดนะคะ
ขอเอาใจช่วยค่ะ
จากคนแถววิภาวดี
เรียน ท่านบรรณาธิการ
ดิฉันได้ข่าวว่า รัฐมนตรีคนใหม่จะแก้ปัญหาวัดพระธรรมกาย ตามแนวของพระธรรมปิฎกนั้น ซึ่งดิฉันไม่เห็นห้วยอย่างยิ่ง การแก้ปัญหาพระพุทธศาสนานั้น มาเอาผู้รู้แบบข้างๆ คูๆ รู้แค่หนอนหนังสือแบกแต่พระไตรปิฎก แล้วจะเอามาเป็นแนวทางแก้ปัญหาวัดพระธรรมกายได้อย่างไร ถ้าท่านรัฐมนตรีคนใหม่ คิดจะแก้ปัญหาวัดพระธรรมกายจริง ก็นิมนต์พระสาย กรรมฐาน จะเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำก็ได้ หรือลูกศิษย์สายหลวงปู่มั่นก็ได้ พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ต้องลงมือปฏิบัติกว่านั้น มิใช่มานั่งนึก นั่งคิด นั่งเดา เอาแค่ปฏิบัติ เห็นกายมนุษย์ละเอียด เป็นธรรมเบื้องต้น ที่วัดพระธรรมกายสอน ก็หายสงสัยแล้ว เรื่องอัตตา อนัตตามันเป็นปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตน ถ้าคนเข้าถึงแล้ว เลิกสร้างกรรมที่เป็นบาป เป็นอกุศล หันหลังให้กับความชั่วทุกชนิดโดยอัตโนมัติ หันหน้ามาทำความดีทุกรูปแบบ ตามดำริที่หลวงพ่อนำทาง แต่คนไม่รู้สิ น่าสงสารมาก คำว่า "ฌาน" 2 3 4 ซึ่งเป็น "ฌาน" เบื้องต้น เป็นธรรม ปฏิบัติ เป็นหัวใจพระพุทธศาสนา เขาเหล่านั้น ยังไม่เคยสัมผัสเลย แถมจิตใจเขาเหล่านั้นทั้งมอด ทั้งบอด บอดในที่นี้คือบอดทางธรรม ในเมื่อผู้ออกมากล่าวหา หลวงพ่อธัมมชโย ถ้าเปรียบ ไปแล้ว เหมือนคนตาบอด ส่วนผู้ไหลไปตามกระแสข่าวบอด ถ้าเปรียบไปแล้ว เอาคนตาบอดจูงคนตาบอด ฉันนั้น
ฉะนั้นดิฉันขอให้ท่านรัฐมนตรีคนใหม่ที่อาสามาเป็นทนายแก้ต่างให้กับพระพุทธศาสนา ดิฉันอยากถามว่า ท่านเข้าถึงธรรมที่ละเอียดขั้นไหน พวกเราในฐานะที่เป็นลูกศิษย์ วัดพระธรรมกาย พวกคุณไม่เข้าใจ หัวข้อธรรมะ ข้อไหน ข้อใด ดิฉันลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ตอบให้คุณได้
ท้ายนี้ขออำนวยพรให้ท่านบรรณาธิการ พร้อมทั้งพนักงานพิมพ์ไทยทุกคน จงประสบความสุขความเจริญ คิดประกอบสัมมาชีพ ธุรกิจการงานอันใดก็ดี ถ้าไม่ผิดศีลธรรมแล้ว ขอให้ท่านทั้งหลาย จงประสบผลสำเร็จสมปรารถนาทุกประการเทอญ
อัมพร แก้ววิมล
คลองถนน เขตสายไหม กทม.10220
ไอ้ทิด
[หน้าหลัก] [หน้า1][วิวาทะ][ปุจฉา][สหัสวรรษ][เจาะคน][กระแสโลก] |