สำนักข่าวต่างดาว

"โซรอส" ฮุบไท

รัฐบาลปล้นคลังหลวง
ทะลุทะลวงเอาเงินถลุง
ประเทศไทยมีหวังจุ๊ง
มหาบัวสะดุ้งไม่รุ่งแล้วไทย

สำนักข่าวต่างดาวเปิดแถลงแจงสี่เบี้ยว่าด้วยเรื่อง หลวงพ่อมหาบัว ท่านออกมาป้องทรัพย์สินของแผ่นดิน ตอนนี้รัฐบาลกำลังทำเรื่องให้ดูเล็ก แต่จริง ๆ แล้ว มันกำลังสูบเลือดบรรพบุรุษออกมาใช้ อยากรู้เราจะเล่าให้ฟัง

ข่าวคราวที่ออกมาในช่วงนี้เกี่ยวกับเรื่อง เงินกองทุนช่วยชาติของ หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน รัฐบาลกำลังทำให้คนไทยทั้งประเทศดูว่า เป็นเรื่องเล็กน้อยขี้ปะติ๋ว

แต่จริง ๆ แล้ว มันเป็นเรื่องใหญ่โตกว่าที่คิดไว้เยอะ คือมันเป็นอย่างนี้ท่านผู้ชม

การที่ หลวงตามหาบัว ท่านออกมาเทศน์อัดรัฐบาลนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับเงินที่ท่านรับบริจาคเอาไว้หรอก แต่ท่านเทศน์เตือนรัฐบาลว่า

อย่าเอาเงิน "คลังหลวง" ไปใช้

ตรงนี้ต่างหากที่เป็น "สาระ" ของเรื่องราวทั้งหมด

ท่านผู้ชมอาจสงสัยว่า คลังหลวงคืออะไร เราขอจาระไนให้ฟังดังนี้

"คลังหลวง" ก็คือทรัพย์สมบัติ ที่บรรพบุรุษ ปู่ ย่า ตา ยาย ของเรา สะสมไว้นานหลายร้อยปี เป็นเงินของแผ่นดิน คนโบราณท่านเรียกว่า "เงินถุงแดง"

ตอนหลัง เรามีการตั้งแบงก์ชาติขึ้นมา คลังหลวงก้อนนี้ ก็เลยตกไปอยู่กับแบงก์ชาติ

ทีนี้แบงก์ชาติเขามี 3 บัญชีคือ

บัญชีที่ 1 มี 3 ประเภท แบ่งเป็น บัญชีทุนสำรองเงินตราบัญชีผลประโยชน์ประจำปี และบัญชีเงินสำรองพิเศษ

ทั้ง 3 บัญชีนี้เป็นบัญชี "ต้องห้าม" เพราะ พ.ร.บ.การเงินปี 2501 เขาระบุไว้ชัดเจนว่า ห้ามใช้ในทุกกรณี

บัญชีที่ 2 คือ บัญชีทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นบัญชีของเงินที่แบงก์ชาติเอาไปทำธุรกิจกับฝรั่งมังค่า

แต่ปรากฏว่า ในบัญชีนี้ "เงินหมด" ตั้งแต่สมัยถูก "จอร์จ โซรอส" โจมตีค่าเงินบาท ตัวเลขในบัญชีเป็นตัวแดง คือ ติดลบนั่นเอง

บัญชีที่ 3 คือ บัญชีใช้จ่ายประจำวัน เป็นบัญชีที่แบงก์ชาติ ทำธุรกรรมกับแบงก์พาณิชย์ทั่วไป เช่น แบงก์เอาเงินหรือเช็คมาแลก เป็นต้น

บัญชีนี้ ก็เป็น "ตัวแดง" ด้วยเหมือนกัน เพราะว่า แบงก์ชาติเอาไปอุ้มไฟแนนซ์หมดแล้ว แถมยังเป็นหนี้สินอิรุงตุงตัง

ในช่วงที่ผ่านมา แบงก์ชาติเขาเห็นบัญชีของตัวเองไม่สวย เพราะเป็นตัวแดง ก็เลยคิดที่จะรวมบัญชีให้ดูดีขึ้นมา คือ เอาบัญชีเน่า ๆ 2 บัญชี ไปรวมกับบัญชีที่ 1 

พอกระทรวงการคลังรู้เรื่องเข้า และเห็นว่า มีเงินเหลือ ก็เลยขอ "เอี่ยว" จะเอาเงินส่วนเกินมาใช้ จึงเกิดเรื่องทะเลาะกันขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ มีข่าวว่า ทั้งแบงก์ชาติ และกระทรวงการคลังจูบปากกันเรียบร้อย และเห็นพ้องต้องกันว่า "หมู่เฮาจะร่วมใจกันถลุงเงินแผ่นดิน" โดยจะมีการสัมมนากันอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 24 พ.ค.2543 อีกไม่กี่วันข้างหน้านี้

พอดี หลวงตามหาบัว ท่านรู้เรื่องนี้ ท่านก็เลยโดดออกมาคัดค้าน แสดงความไม่เห็นด้วยอย่างเต็มที่

หลวงตาพูดชัดเจนว่า เราเป็นห่วงคลังหลวงมาก เพราะพี่น้องชาวไทยจะอยู่ใต้ด้วยอำนาจของสมบัติในคลังหลวง ที่เป็นลมหายใจทั่วหน้ากัน

"ถ้าคลังหลวงนี้ได้ขาดสะบั้นลงไป คนไทยเราก็เหมือนสัตว์ตัวหนึ่ง ไม่มีความหมายเลย"

เป็นไงครับ เห็นวิชั่นของหลวงตาแก่ ๆ บ้างหรือยัง ใครที่ออกมาพูดว่า หลวงตาบัว ไม่รู้เรื่องเศรษฐศาสตร์ คิดผิดคิดใหม่ได้

ที่สำนักข่าวต่างดาวเขียนมาตั้งแต่ต้น ก็ได้รับความรู้มาจากลูกศิษย์หลวงตามหาบัวล้วน ๆ ขืนไปถามจากคนแบงก์ชาติ ก็คงไม่ได้รับความกระจ่างแต่อย่างใด มีแต่ อู้ๆ อี้ๆ อ้อมๆ แอ้มๆ ตามประสาคนขี้กลัว

สำหรับสาเหตุที่ หลวงตามหาบัว ท่านอยากจะให้เอาเงินกองทุนผ้าป่าช่วยชาติ เข้าไปบรรจุอยู่ในบัญชีที่ 1 ก็เพราะว่า ท่านต้องการ "ขวาง" ไม่ให้เอาเงิน "คลังหลวง" ไปใช้

ไม่ใช่หวงเงินกองทุนผ้าป่า แบบที่ฝ่ายรัฐบาลกำลัง "ทาสี" ให้กับท่าน

ดังนั้น เพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติ และแผ่นดินไทย "พิมพ์ไทย" จึงอยากขอวอนคนไทยผู้มีใจเป็นธรรมทั้งหลาย จงช่วยกันออกมาขัดขวาง อย่าปล่อยให้ "พวกขายชาติ" มันทำการได้ตามอำเภอใจ

วันนี้ พวกเราทุกคนก็ย่ำแย่สาหัสกันอยู่แล้ว ขืนเอาสมบัติของบรรพบุรุษออกมาถลุงกันอีก ไม่อายวิญญาณบรรพบุรุษกันบ้างหรืออย่างไร?

คนรุ่นเก่าสร้างบ้านสร้างแผ่นดินให้เราอยู่ แต่มีเดรัจฉานไม่กี่ตัว มันพยายามจะทำลายสิ่งที่สร้างสมมาทั้งหมด

ถ้าคนไทยไม่ลุกฮือกันในวันนี้ วันหน้าก็จะสายเกินไป ที่จะพูดคำว่า "เสียใจ"