สหัสวรรษที่ 3

วันนี้โลกยังไม่สิ้นยุค 5 พฤษภาคม 2000

วันนี้พระอาทิตย์ยังสดใสขึ้นทางทิศตะวันออกเหมือนเดิม ท้องฟ้าก็ยังคงงดงามแบบไทย ๆ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นกน้อยก็ยังโบยบินออกมาหากินตามปกติ

วันนี้คือวันที่ 5 พฤษภาคม ปี ค.ศ.2000 วันที่คำทำนายทั้งโลกหลายร้อยปีพูดไว้ถึงความน่าสพรึงกลัวว่า จะเป็นวันสิ้นยุคหรือวันโลกาวินาศของโลก 

วันนักดาราศาสตร์ชั้นนำของโลกในอดีต คำนวณว่า จะเกิดปรากฏการณ์พิเศษในห้วงจักรวาลนั่นคือ ดาวพระเคราะห์ 5 ดวง ได้แก่ ดวงจันทร์ โลก ดาวพฤหัส และดาวเสาร์ จะโคจรเข้าแถวเรียงหนึ่ง เล็งตรงกันทั้งสองข้างของดวงอาทิตย์

แต่ภายหลังปรากฏว่า คำนวณใหม่ พบว่า มีทั้งหมดทั้ง 7 ดวง ครบ 7 วันพอดี คือ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ มาพร้อมกันทั้งสุริยจักรวาลเลย

สิ่งที่ทำนายด้วยความหวาดกลัวคือ ผลของแรงดึงดูดของกันและกัน อาจทำให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติแก่โลก อาจเกิดเหตุการณ์รุนแรงไปทั่วโลก

นักวิทยาศาสตร์วิเคราะห์แล้วเห็นว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่ ๆ ก็คือ ซีกโลกที่อยู่แนวศูนย์กลางกับดวงอาทิตย์ ความร้อนจะเพิ่มขึ้นกว่าปกติอีกในอัตรา ร้อยละยี่สิบ จะก่อให้เกิด ความร้อน อบอ้าว ความแห้งแล้งที่แผ่กระจายไปกว้าง

พืชพันธุ์ธัญญาหารจะขาดแคลน ที่จะเลวร้ายกว่านั้น ก็คือ โอกาสที่แกนกลางของโลก จะขยับตัวเคลื่อนเปลี่ยนแปลงจากขั้นตำแหน่งเดิม จะทำให้โลกปั่นป่วน โกลาหล อย่างชนิด ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

บริเวณแถบร้อนจะกลายเป็นหนาวจัด และทำนองเดียวกันในแถบที่อากาศหนาวจัด จะกลายเป็นแถบร้อน ถ้าบรรยากาศและอุณหภูมิในที่ต่าง ๆ ของโลก เกิดผันแปรไปใน ลักษณะดังกล่าว

ที่น่าเป็นห่วงที่สุดเห็นจะได้แก่ก้อนน้ำแข็งมหึมาขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ ถ้าเกิดละลายพร้อม ๆ กัน ปริมาณของน้ำที่ไหลลงสู่ที่ลุ่มจะมีมากมายมหาศาล เมื่อถึงวันนั้น ฝืนแผ่นดิน ที่มีอยู่เพียง 1 ใน 4 ของเนื้อที่โลกทุกแห่ง จะไหลเจิ่งนองไปด้วยน้ำ

บวกกับแรงดึงดูดของดวงดาวต่าง ๆ เข้าไปด้วยแล้ว หลาย ๆ แห่งของพื้นผิวโลก จะจมอยู่ใต้แผ่นน้ำอย่างแน่นอน ถ้าเวลานั้นมาถึง คำทำนายของนอสตราดามุสที่บอกว่า แม้แต่บน ยอดโอลัมปัสยังไม่มีที่จะยืนให้พ้นน้ำ ก็จะกลายเป็นจริงขึ้นมาทันที

ฟังแล้วตื่นเต้นดีไหมครับ ท่านผู้อ่าน หนักไปยิ่งกว่านั้น

ถ้าทฤษฎีดังกล่าวเป็นความจริง ในปี ค.ศ.2000 (วันที่ 5 พฤษภาคม) ที่จะถึงนี้ เพียงอิทธิพลแรงดึงดูดนิดเดียวของดาวยูเรนัสมีแรงส่งผ่านมายังดาวเสาร์ ดาวพฤหัส ดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ อย่าว่าแต่เพียงแผ่นดินไหวเลย แต่อาจจะทำให้แกนกลางของโลก เกิดการเคลื่อนย้ายอย่างรุนแรงได้

นักวิทยาศาสตร์วิเคราะห์และสรุปอย่างน่าหวั่นวิตกว่า ถ้าแกนกลางของโลกเกิดเอียง หรือ มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่ง ผลสะท้อนจะมีมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับองศาดีกรีของ การปรับเปลี่ยนของแกนกลางโลก

ความเสียหายมากน้อยอยู่ที่ความเร็วของแรงกระชากบิดหมุนของแกนโลก ที่หลุดจากตำแหน่งเดิม จะเกิดคลื่นลมพายุที่สูงกว่าหนึ่งพันฟุต พัดไปในอัตราความเร็วเกินกว่า หนึ่งพันไมล์ต่อชั่วโมง เป่าพ่นเข้ามาเมืองต่าง ๆ ในเส้นทางอย่างรุนแรงที่สุด แผ่นดินจะสั่นสะเทือนสั่นไหวรุนแรงเกินกว่าเครื่องวัดริคเตอร์ จะบันทึกสถิติได้

นักวิทยาศาสตร์ ได้อนุมานเหตุการณ์และบรรยากาศของโลกมนุษย์ หลังภัยพิบัติทางธรรมชาติ เมื่อแกนโลกขยับเปลี่ยนตำแหน่ง จากการบรรยายของผู้เชี่ยวชาญ โลกมนุษย์ ที่จะตกอยู่สภาพที่ฟังดูแล้วคล้ายกับที่เราได้เห็นจากภาพยนตร์ ประเภทเพ้อฝันทางวิทยาศาสตร์

นี่แหละครับ คือ คำทำนายผสมคำนวณของนักวิทยาศาสตร์ ที่ผมลอกมาเต็ม ๆ จากหนังสือ นอสตราดามุส ของท่านศาสตราจารย์ เจริญ วรรณธนะสิน ที่น่าตื่นตาตื่นใจ

และวันนี้ วันแห่งคำทำนายนั้น ก็มาถึงแล้ว อย่างช่วยไม่ได้

ทั้งอาทิตย์นี้ ผมว่า ท่านผู้อ่านลองเปิดหูเปิดตาดูทีวีต่างประเทศว่า เกิดอะไรขึ้นในโลกหรือไม่ หรือตอนเช้า ๆ บ่าย ๆ ก็เดินออกไปดูท้องฟ้าซิว่า ยังเป็นปกติอยู่หรือเปล่า เพราะดาว ที่จะเข้าแถวเรียงหนึ่งดังกล่าวนี้ จะอยู่กันเกือบอาทิตย์

อาจจะเกิดอะไรหรือไม่เกิดอะไรเลยก็ได้ แต่ผมว่า อย่าตกใจไปเลยครับ 

เพราะคำทำนายคือการล่วงรู้อนาคต ไม่ใช่เป็นเรื่องเสียหาย ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ควรตื่นตระหนกตกใจ ตรงกันข้าม ข้อมูลหลายอย่างน่าจะปลุกใจให้คนเรามีสติสำนึก ไม่ตั้งอยู่บนความ ประมาท ในขณะที่มีโอกาสกลับใจ มีโอกาสสร้างความดีงามให้กับตนเอง ให้แก่คนรอบข้าง ให้แก่สังคม ให้แก่ประเทศชาติ ก็ย่อมจะกระทำได้ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

นี่คือ ข้อคิดที่ผมจำมาจากตัวอาจารย์เจริญ วรรธนะสิน ยอดนักแบดมือระดับโลกของเมืองไทย และตอนนี้กลายเป็นนักเขียนใหญ่ที่เขียนหนังสือขายดีที่สุดในประเทศไทยคนหนึ่ง

จริงครับ โลกจะแตกหรือไม่แตก เป็นเรื่องของธรรมชาติ เราไม่อาจรู้ได้ แต่ที่รู้แน่ๆ ก้๕อ วันนี้พระอาทิตย์ยังคงสดใส ท้องฟ้ายังคงสวยงาม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

แต่ที่สำคัญคือ บรรดานักสร้างบารมี คำทำบุญ ที่ลงทุนข้ามภพข้ามชาติไว้แล้วอย่างดีเยี่ยม นอกจากจะไม่หวั่นกลัวอะไร เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราก็สะสมบุญไว้เต็มอัตรา สำหรับการเดินทางข้ามภพที่หลายคนไม่เข้าใจ มิหนำซ้ำ หลายคนยังสร้างอนุสาวรีย์ประจำตัวไว้ในโลกนี้

อนุสาวรีย์แห่งความดีจะอยู่ยงกว่าพันปี คือ องค์พระประจำตัว อย่างนี้ ไม่ว่า โลกจะแตกหรือไม่แตก เราก็อยู่อย่างสบาย ๆๆๆ ทุกสภาวะ แถมยังร้องว่า ชิตัง เม รวย

สิงห์ขาว