ปีที่ 3 ฉบับที่ 1017 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 27 เดือนเมษายน พ.ศ. 2543 |
วิ่งล็อบบี้!! เจ้าคณะนนทบุรี ลงดาบ "ธัมมชโย"
กมธ.ไขก๊อกธรรมกาย ยุติบทบาทหมาล่าเนื้อ
"ผ่อง เล่งอี้" แฉกรมการศาสนาส่งเจ้าหน้าที่ล็อบบี้พระธรรมกิตติมุนี เป็นคณะผู้พิจารณานิคหกรรม พระธัมมชโย-ทัตตชีโว เผยเจ้าคณะนนทบุรี สุดอึดอัดใจ ปฏิเสธไปแล้ว 2 ครั้ง แต่ยังตื้อไม่เลิก ด้านคณะกรรมาธิการการศาสนา ไขก๊อกยุติบทบาทหมาล่าเนื้อ ไม่ขอตรวจสอบวัดพระธรรมกายอีก
นายผ่อง เล่งอี้ วุฒิสมาชิกกทม. เปิดเผยเมื่อวันที่ 26 เม.ย.ว่า ขณะนี้ มีข้าราชการประจำในกรมการศาสนาบางคน
ได้ออกมาวิ่งเต้นขอร้องแกมบังคับให้
พระสังฆาธิการระดับ
เจ้าคณะจังหวัด มารับตำแหน่งเป็นคณะผู้พิจารณาชั้นต้น เพื่อดำเนินกฎนิคหกรรมพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (พระธัมมชโย) และพระภาวนาวิริยคุณ (พระทัตตชีโว)
แห่ง วัดพระธรรมกาย วุฒิสมาชิกผู้นี้ระบุว่า รู้สึกผิดหวังต่อพฤติกรรมของข้าราชการกรมการศาสนาเป็นอย่างมาก ที่ใช้ความพยายามไปในทางที่ผิด
ในฐานะที่ผมเป็นพุทธศาสนิกชนคนหนึ่งที่มีความเลื่อมใสศรัทธาตอ่พระพุทธศาสนา เมื่อได้เห็นการปฏิบัติอันไม่ชอบธรรมของข้าราชการ ที่ไม่ตั้งตัวเป็นกลาง อย่างไรก็ตาม ผมอยากเตือนว่า เรื่องนิคหกรรมยุติไปแล้ว ตั้งแต่พระพรหมโมลี และคณะผู้พิจารณาชั้นต้นวินิจฉัย ไม่สามารถนำกลับมาพิจารณาได้ใหม่ เพราะจะขัดต่อหลักพระธรรมวินัย การบีบบังคับพระสังฆาธิการให้รื้อฟื้น ท่านก็ต้องอาบัติหนักถึงขั้นปาราชิก" นายผ่องกล่าว
ทางด้านพระธรรมกิตติมุนี เจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี เจ้าอาวาสวัดเฉลิมพระเกียรติ ยอมรับว่า ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่กรมการศาสนา ให้เป็นคระผู้พิจารณาชั้นต้น
เพื่อ ดำเนินนิคหกรรมพระธัมมชโย ซึ่งครั้งแรกอาตมาก็ได้ปฏิเสธไปครั้งหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ตาม
กรมการศาสนาได้ส่งคนมาขอให้อาตมาร่วมเป็นคณะผู้พิจารณาฯ อีก
ซึ่งอาตมา
ก็ได้ปฏิเสธไปเป็นครั้งที่สอง อย่างเป็นทางการ โดยทำเป็นหนังสือถึงกรมการศาสนาเพื่อยืนยัน ไม่รับเป็นผู้พิจารณาชั้นต้น และจะไม่ขอออกความเห็นใด ๆ
เกี่ยวกับกรณี วัดพระธรรมกาย
อย่างเด็ดขาด
ศิษย์ใกล้ชิดพระธรรมกิตติมุนี เปิดเผยว่า กรมการศาสนาไม่ควรรบกวนพระเดชพระคุณอีกแล้ว เพราะท่านได้ชี้แจงอย่างชัดเจนแล้วว่า จะไม่ขอเป็นผู้พิจารณาชั้นต้น อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่า พระธรรมกิตติมุนีรู้สึกอึดอัดใจต่อท่าทีของกรมการศาสนา เป็นอย่างมาก ที่พยายามผลักดันให้ท่านเป็นผู้พิจารณาฯ จึงใคร่ขอวอนให้เจ้าหน้าที่กรมการศาสนา หาวิธีการอื่นเพื่อแก้ไขปัญหาพระศาสนาต่อไป
อีกด้านหนึ่งที่ จ.กาญจนบุรี ชมรมพุทธสากลแห่งประเทศไทย นำโดย นายอดิศักดิ์ วรรณสิน ประธานชมรมฯ พร้อมด้วยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ อาจารย์แสวง อุดมศรี อาจารย์มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย พ.อ.บรรจง ไชยลังกา ประธานชมรมพุทธสามเหล่าทัพ ได้จัดบรรยายถวายความรู้แก่พระสังฆาธิการจำนวนกว่า 750 รูป
นายแสวงพูดตอนหนึ่งมีความว่า กรณีนิคหกรรมพระทั้งสองรูปนั้น ถือว่าขัดต่อหลักพระธรรมวินัยอย่างชัดเจน และไม่เห็นด้วยกับกรมการศาสนาที่พยายามจะรื้อฟื้นคดีดังกล่าว โดยเฉพาะการบีบบังคับให้พระสังฆาธิการมาทำหน้าที่ผู้พิจารณาชั้นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการสัมมนาปรากฏว่า พระหลายรูปต่างยืนยันว่า ได้รับข้อมูลบางอย่าง ทำให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับพระพุทธศาสนามากขึ้น เพราะที่ผ่านมา
สื่อมวลชน
มักลงข่าวไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ชมรมฯ ระบุด้วยว่า จะเดินสายจัดถวายความรู้พระสังฆาธิการอีกครั้ง ที่ จ.ศรีสะเกษ โดยจะเชิญ นายกุเทพ ใสกระจ่าง ส.ส.ศรีสะเกษ ในฐานะกรรมาธิการการศาสนาฯ มาร่วมบรรยายด้วย
วันเดียวกันนี้ คณะกรรมาธิการการศาสนาฯ ได้แถลงว่า ทางคณะกรรมาธิการขอยุติบทบาทเกี่ยวกับการติดตามกรณีวัดพระธรรมกาย อย่างเด็ดขาด โดยให้เหตุผลว่า ที่ผ่านมา ไม่ได้รับความร่วมมือจากวัดพระธรรมกาย โดยเฉพาะพระธัมมชโย และว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา นายสนธยา โพธิ์แดง
ทนายความวัดปฏิเสธ
ที่จะให้ความร่วมมือกับคณะกรรมาธิการฯ มาโดยตลอด
ผู้สื่อข่าวรายงานจากหอประชุมพุทธมณฑลว่า ตามที่กรมการศาสนาได้จัดสัมมนาเรื่อง การพัฒนางานการศาสนา ตามแนวทางปฏิรูปการศึกษา โดยมีเป้าหมายหลัก
เพื่อผลักดัน พ.ร.บ.ฆราวาสปกครองสงฆ์ ปรากฏว่า พระธรรมปิฎก ซึ่งจะต้องเดินทางมาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ไม่ได้มาร่วมประชุม อย่างไรก็ตาม นายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวยืนยันว่า จำเป็นจะต้องผ่านกฎหมายดังกล่าว โดยมีหลักเพื่ออุปถัมภ์-คุ้มครองพระพุทธศาสนา และศาสนาอื่น ที่ทางราชการรับรอง
อีกทั้งเพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดี
ระหว่าง ศาสนา เพื่อให้เกิคความสมานฉันท์ โดยจะมุ่งเน้นนำหลักธรรมของศาสนานั้น ให้คนในสังคมนำไปปฏิบัติเพื่อพัฒนาประเทศชาติสืบไป