ปีที่ 3 ฉบับที่ 988 ประจำวันเสาร์ที่ 1 เดือนเมษายน พ.ศ. 2543 |
"เสี่ยสอง" ฟ้อง พระอดิศักดิ์-มติชน
"สอง วัชรศรีโรจน์" แต่งทนายฟ้องพระอดิศักดิ์ - มติชน โดยศาลได้ประทับรับฟ้องคดีหมิ่นประมาทแล้ว ขณะที่องค์การยุวสงฆ์ระบุ
สงฆ์จำนวนมากพร้อมเป็น
แนวร่วม พระพรหมโมลี ยันนิคหกรรมยุติแล้ว
วันที่ 31 มี.ค.2543 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสอง วัชรศรีโรจน์ ได้เข้ายื่นฟ้อง พระอดิศักดิ์ วิริยสักโก (อารย วัฒนพงษ์) ต่อศาลแขวงพระนครเหนือ ในข้อหาหมิ่นประมาท
ต่อศาล แขวงพระนครเหนือ ในข้อหาหมิ่นประมาท เนื่องจากพระอดิศักดิ์ ได้ขึ้นแถลงต่อศาลในวันสืบพยานโจทก์ คดีพระธัมมชโยกับพวก มีความผิดต่อหน้าที่ราชการ เมื่อวันที่ 8 มี.ค.
2543 ที่ผ่านมา โดย พระอดิศักดิ์ ได้กล่าวต่อหน้าพระภิกษุและประชาชนทั่วไปว่า นายสองได้นำเงินของวัดพระธรรมกายไปเล่นหุ้นปั่นหุ้น
ซึ่งการกล่าวของพระอดิศักดิ์นั้น
ไม่เป็น ความจริง และทำให้นายสองได้รับความเสื่อมเสียต่อชื่อเสียง เป็นการหมิ่นประมาทตนต่อหน้าผู้อื่น ศาลแขวงพระนครเหนือได้รับคำฟ้องแล้ว ได้นัดให้มีการไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 1 มิ.ย.2543
ในวันเดียวกัน นายสองก็ได้เข้ายื่นฟ้องบรรณาธิการหนังสือพิมพ์มติชน ต่อศาลอาญา ถนนรัชดาฯ กรุงเทพฯ อีก ในข้อหาหมิ่นประมาทเช่นกัน เนื่องจากหนังสือพิมพ์มติชน
ได้นำ
คำให้การของพระอดิศักดิ์ที่มีต่อศาล ไปตีพิมพ์เผยแพร่ต่อสาธารณชนทั่วประเทศ ทำให้ได้รับความเสียหาย เป็นที่น่าอับอายต่อสาธารณชน แม้ว่า หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว จะได้ประกาศขออภัยในเวลาต่อมาแล้วก็ตาม ซึ่งศาลได้รับคำฟ้องแล้วนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 23 พ.ค.2543
ด้านพระมหาเดวิทย์ ยสสีภิกขุ ประธานองค์กรยุวสงฆ์แห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะพระสังฆาธิการ จากทั่วประเทศ
ได้เดินทางเข้ามาร่วมการสัมมนา
ที่จิตตภาวัน วิทยาลัยแล้ว พระสังฆาธิการบางรูป และพระสังฆาธิการที่ไม่ได้เดินทางมาร่วมสัมมนา ได้ติดต่อขอรับหนังสือเรื่อง "กรณีการสั่งพักพระพรหมโมลี" ที่องค์การยุวสงฆ์ฯ นำไปแจกจ่ายเผยแพร่ในวันสัมมนาดังกล่าว ซึ่งมีไม่เพียงพอและแจกจ่ายได้ไม่ทั่วถึง
พระมหาเดวิทย์ กล่าวต่อไปว่า ทางองค์การยุวสงฆ์ฯ เห็นว่า หนังสือดังกล่าวเป็นประโยชน์และให้ความรู้ต่อพระสังฆาธิการ
จึงได้จัดส่งทางไปรษณีย์ไปให้แก่พระสังฆาธิการ
ระดับเจ้าคณะตำบลทุกตำบล ทั่วประเทศ ซึ่งได้รับคำตอบมาว่า ได้รับทั่วถึงแล้ว นอกจากนี้ พระสังฆาธิการบางรูป ที่ได้รับหนังสือไปแล้ว ได้กล่าวตอบมาว่า
ได้รับทราบ
รายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินนิคหกรรมตอ่พระธัมมชโย และพระทัตตชีโวแล้ว รวมถึงเรื่องการสั่งพักพระพรหมโมลี ออกจากตำแหน่งเจ้าคณะภาค 1 ว่า
มีความเป็นมาเป็นไป อย่างไร นับว่า เป็นเรื่องที่ไม่ชอบมาพากล ที่เกิดขึ้นในวงการสงฆ์ และเป็นการไม่สมควรที่ได้กระทำต่อพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่เช่นนี้ หากเป็นใครบ้างที่ถูกสั่งพักเช่น
พระพรหมโมลี
ก็คงจะต้องเสียใจ ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากวงการสงฆ์ด้วยกัน นอกจากนี้ พระสังฆาธิการอีกหลายรูปยืนยันว่า พร้อมเป็นแนวร่วมกับองค์การยุวสงฆ์ในการเรียกร้องต่อมส. ให้ทบทวนการสั่งพักพระพรหมโมลีในครั้งต่อไป