สหัสวรรษที่ 3

อีกสองวันถึงวันเลือกตั้งสว. อนาคตของชาติอยู่ในมือท่าน

วันนี้ ประเทศไทยทั้งประเทศกำลังสาละวนอยู่กับการเลือกตั้ง สว. ตามเสาไฟฟ้า จะมีบุคคลที่มีชื่อเสียง ยิ้มเผล่ รอคะแนนแห่งความเมตตาจากประชาชนที่เดินผ่าน หลานคน ก็ยิ้มน้อย ๆ หลายคนก็โปรยยิ้มเต็มที่ ทั้งส่งยิ้มและสายตา เพื่อสบตาคนเดินผ่าน

บางคนก็ทำหน้าเคร่งขรึมให้สมกับเครื่องแบบที่หนักอึ้งบนบ่า และเหรียญตราเต็มหน้าอก ยิ่งใกล้วันสุดท้าย บรรดาโปสเตอร์ก็ยิ่งแน่นเต็มเสาไฟฟ้า

ตอนี้หาที่ติดไม่ได้ ก็ใช้วิธีทำเป็นธงราว ผูกระหว่างต้นไม้กับเสาอะไรก็ได้ ที่อยู่ข้างถนน นึกไปอีกทีก็สงสารเหลือเกินว่า ทำไมต้องลำบากถึงขนาดนี้

เหมือนมายืนข้างถนนขอความรักจากชาวบ้าน ฝนตกฟ้าร้องก็ยืนตาละห้อยอยู่ตรงนั้น

ตอนนี้ โชคร้ายนิดหน่อย เพราะฝนตกเมื่อวันก่อน เลยทำให้กระดาษอ่อนปวกเปียก มอมแมมร่วงมาที่พื้น กลายเป็นเกลื่อนกลาดถนน คนเดินไปเดินมา ก็เหยียบลงไปบนหน้ายิ้ม ๆ ทั้งหลาย ดูแล้วก็น่าสงสาร

ครับ ประชาธิปไตยก็น่ารักอย่างนี้แหละ

ตอนนี้ยากดีมีจน ทุกคนมีหนึ่งเสียงเท่ากันหมดทั่วประเทศไทย ใครอยากจะได้เสียง ก็ต้องมาอ้อนวอนงอนง้อ จะมาทำตัวเป็นผู้ดีไม่ต้องง้อใครไม่ได้อีกแล้ว ผมเห็นผู้ใหญ่หลายคน เดี๋ยวนี้มืออ่อน ไปที่ไหนก็ยกมือไหว้ดะไปหมด บางครั้งไหว้ไปไหว้มา เผลอไปแม้ภรรยาตัวเอง ก็อาจจะเผลอยกมือไหว้ รวมไปถึงลูกน้องของตัวเองก็ไม่เว้น

ตอนนี้ละครับ ที่เสียงประชาชนคือเสียงสวรรค์ แต่พอเลือกตั้งเข้าไปได้แล้ว เป็นอีกเรื่องหนึ่ง พอได้เป็นวุฒิสมาชิกจริงๆ เข้า นิสัยจะเปลี่ยนไปหรือไม่ อย่างไร อีกสองสามวันนี้ ก็รู้

อันที่จริง ก็ดีเหมือนกันนะครับ ที่มีการเลือกตั้งบ่อย ๆ 

เพราะทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ก็คือการผันเงินจากคนรวยไปสู่คนจนด้วยวิธีที่ตรงที่สุด ทำให้เงินในตลาดสะพัดที่สุด ว่ากันว่า เป็นเงินนับหมื่นล้านบาท ที่จะละลายไปสู่ประชาชน

การซื้อเสียงซึ่งกลายเป็นอาชีพหลักของคนบางคน การทำหน้าที่หัวคะแนน รวบรวมคะแนนเสียง เป็นอาชีพที่มั่งคั่งที่สุด และหาเงินได้ง่ายที่สุด เพราะอาจจะไปบอกว่า ต้องจ่ายหัวละสองร้อยบาท ตัวเองเก็บไว้สักร้อยหนึ่งก็ง่ายมาก

จากนั้น ก็จะไปยุผู้สมัครว่า คะแนนตอนนี้ดีมาก ประชาชนตอบรับดีมาก แต่ถ้าอยากให้แน่นอนกว่านี้ ก็ต้องจ่ายมากกว่านี้ ผู้สมัครพอรู้ว่า ตัวเองมีหวัง เท่าไหร่ก็เท่ากัน เพราะ เสียหน้า ไม่ได้ ก็ทุ่มเทอัดเงินเข้าไป หารู้ไม่ว่า หลายแห่งถูกหลอกให้เสียเงินเปล่า เอาไว้หลังเลือกตั้งถึงจะรู้ว่า เสียรู้ไปแล้ว เมื่อคะแนนออกมาไม่เป็นอย่างที่คิด

และคนรับเงินไปแจก ก็หายตัวไปเรียบร้อยแล้ว

ถือเป็นการเผาแบงก์เล่นไฟ จ่ายเงินให้กับคนจน ๆ หลายครอบครัว ถามคำเพียงว่า จ่ายเท่าไร ถ้าบอกว่า หัวละห้าร้อย มีห้าคนคูณเข้าไป ก็ได้สองพันห้าร้อยบาท ดีเหมือน ถูกล็อตเตอรี่ทุกบ้าน ฉะนั้น จะไปด่าว่าชาวบ้านเขารับเงิน ดูไปแล้วเงินขนาดนี้สำหรับเขามันก็น้อยซะเมื่อไร

ครับ ... หลังวันประกาศผลก็จะรู้ว่า ใครเป็นแมงเม่า และใครเป็นตัวจริง สองสามวันนี้ ห้ามเท่าไรก็คงไม่มีใครเชื่อ บางคนทั้ง ๆ ที่รู้ว่าแพ้ แต่ก็สู้จนขาดใจ ให้ถือว่าได้สู้เต็มที่แล้ว แพ้ไม่เป็นไร ทั้ง ๆ ที่มาคิดทีหลังแล้ว เอาเงินมาทำอย่างอื่นดีกว่า แต่ก็อย่างว่า ตอนี้มันหน้ามืดแล้ว

ครับ ... ถือว่า ซื้อบทเรียนราคาแพง เอาไว้เล่าให้ลูกหลานฟังถึงประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต

แต่ที่น่าจับตาดูอย่างยิ่งคือ การเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นการพิสูจน์ว่า ประเทศไทยพร้อมหรือไม่ สำหรับการเลือกตั้งระบบประชาธิปไตยระดับวุฒิสมาชิก ซึ่งในอดีตใช้ระบบแต่งตั้ง ผู้มีความรู้ ผู้มีวุฒิภาวะสูง มีชื่อเสียง มีประวัติดี ซึ่งหลายคนได้รับการยกย่องอย่างสูง และเป็นที่ยอมรับกันในบ้านเมืองปัจจุบัน

แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ น่าสังเกตว่า บรรดาคนดังที่หลายคนคาดว่า จะลงสมัครเลือกตั้ง ปรากฏว่า ผิดหวัง ไม่มีคนดังระดับชาติชนิดนอนมาสบาย ๆ เพราะชื่อเสียง เกียรติคุณคับแก้ว ปล่อยให้คนดังพอประมาณ มีชื่อพอประมาณ แม้บางคนจะมีเกียรติประวัติอันงดงามบนแผ่นกระดาษ แต่ปรากฏว่า ชาวบ้านไม่ค่อยรู้จัก น่าเสียดายอย่างยิ่ง


ผมแอบเห็นโพลที่บรรดาสำนักต่างๆ ทำแล้ว มองเห็นการเลือกตั้งครั้งนี้ เหมือนกับคำพูดที่ว่า ป่าใดไร้อินทรี แม้นกกระจอกก็เป็นใหญ่ได้

คนที่มาแน่นอนที่สุด คือคนดังที่เป็นที่รู้จักในสื่อมวลชน ออกหน้าทางสื่อบ่อย ๆ และผมว่าที่ไร้มารยาทก็คือ บางคนแม้จะลงสมัครแล้วก็ยังหน้าด้านของสื่อทุกวัน อย่างไม่อาย เป็นการเอาเปรียบผู้สมัครคนอื่นทุกคน ซึ่งถึงแม้จะไม่ผิดกฎหมาย แต่โดยมรรยาทแล้ว เป็นสิ่งที่มิบังควรอย่างยิ่ง แต่กฎหมายก็ควบคุมไม่ถึง

แน่นอนบุคคลเหล่านี้ ก็คงเข้าวินอย่างหน้าไม่อาย

หนักไปยิ่งกว่านั้นก็คือ บรรดาบุคคลที่โด่งดังในการซื้อเสียงเลี้ยงโต๊ะจีนแทบทุกวัน เป็ฯเจ้าของธุรกิจที่ผิดกฎหมาย เป็นเจ้าของบ่อนการพนัน เป็นเจ้าพ่อ นักเลงผู้มีอิทธิพล บรรดา บุคคลเหล่านี้น่าจะเข้าวินหมด

นับเป็นวุฒิสภายุคใหม่ ที่มียีนปะปนกัน หลังวันที่ 4 มีนาคมแล้ว ไปคอยดูหน้ากันเอาเองในสภาก็แล้วกัน ว่าสภาแห่งนี้ยังจะเป็นวุฒิสภาผู้ทรงเกียรติ ที่มีหน้าที่ในการควบคุม รัฐบาล ควบคุมส.ส. จะเป็นตัวแทนของประชาชน หรือตัวแทนของใคร

พรุ่งนี้ คือวันสุดท้ายของการหาเสียงทั่วประเทศ ที่เขาเรียกกันว่า คืนหมาหอน แต่ตอนนี้มีบางคนบอกว่า เชยแล้วละพี่ เขาไม่แจกเงินกันตอนกลางคืนแล้ว ตอนนี้ต้องเรียกว่า วันหมาเห่า เขาแจกกันกลางวันแสกๆ เลยพี่

ครับ .. เตรียมไปใช้สิทธิทุกคนนะครับ เพราะไม่เพียงแต่ถ้าคุณไม่ไป ผีจะไปแทน แต่พลังซื้อเสียงที่น่ากลัวของผู้คิดร้ายต่อประเทศไทย ชะตากรรมวงการพุทธศาสนา ก็แขวนอยู่กับ การเลือกตั้งนี้ด้วย แค่เห็นโพล ผมก็เข่าอ่อนแล้ว

สิงห์ขาว