ปีที่ 2 ฉบับที่ 816 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 7 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2542

สหัสวรรษที่ 3

บททดสอบเพื่อวัดบารมี ขันติธรรมที่คุ้มค่าหนึ่งปี

ช่วงนี้ไปที่ไหนก็มีแต่คนถามเรื่องของวัดพระธรรมกาย บางคนก็ถามเพราะความอยากรู้อยากเห็น บางคนถามด้วยความเป็นห่วง บางคนเป็นลูกศิษย์ลูกหา ก็ถามด้วยความ ห่วงใยว่า อาจารย์ครับ ไม่กลัวเสียชื่อหรือ เพราะกระแสสื่อมวลชนแรงนะ พายุพัดแรงอย่างนี้ทำไมกล้าออกมาปะทะ ตอนนี้กลายเป็นกระแสสังคมไปแล้ว จะผิดถูกอีกเรื่องหนึ่ง

เพื่อนฝูงทั้งหลายของผมบ่นกันงึมงัม เพราะรู้นิสัย รู้จักมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย แม้จะมีความเชื่อมั่น ในความสุจริตใจ ความสามารถ เชื่อในความเป็นมืออาชีพ และรู้ว่า ถึงห้ามก็คงไม่ฟัง เพราะนิสัยเห็นใครถูกรังแก ไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ทนไม่ได้ แต่ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก ทุกคนเป็นห่วงก็เป็นเรื่องธรรมดา ผมก็ได้แต่ยกมือไหว้ขอบคุณ ไม่ต้องเป็นห่วง

ก็จริงนะ ช่วงนี้ใครออกมาขวางทาง ไม่ว่าหน้าอินทร์หน้าพรหม ใครช่วยธรรมกาย ต้องกลายเป็นคนเลวไปหมด ใครจะมีประวัติดีงามอะไร ก็จะถูกใส่ร้ายป้ายสี ให้กลายเป็นโจร ให้ได้

กว่า 11 เดือน ที่โทรทัศน์ในช่วงข่าวไพรม์ไทม์ และหัวข้าวหน้าหนึ่งทุกวัน ที่สุมเพลิงเผาไหม้วัดพระธรรมกาย หลวงพ่อธัมมชโย และพระภิกษุสงฆ์ในวัด คนเข้าวัดปฏิบัติธรรม ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน ถูกไฟสื่อสุมพยายาม "เผา" ให้ตัวดำๆ ทุกคน ทั้งที่แต่งชุดขาวสว่างไสว

พระเถระผู้ใหญ่องค์ใดที่ออกมาพูดความจริง ก็จะโดนโจมตียับเยิน ถ้าเข้าข้างวัดพระธรรมกาย นักธุรกิจ นักบริหารที่มีชื่อเสียง ข้าราชการ ถ้าหากเป็นผู้เข้าวัดพระธรรมกาย เป็นผู้สนับสนุนวัด ก็จะถูกใส่ร้ายป้ายสี ดิสเครดิต หาเรื่องสกปรกมาเกลือกกลั้ว ใช้วิธีเขียนอักษรย่อบ้าง ใช้ตำแหน่งบ้าง เพื่อให้รู้ว่าเป็นใคร แต่เอาเรื่องสกปรกมดเท็จ แต่งข่าว กุข่าวจะให้กลายเป็นโจรให้ได้

ข้าราชการคนใดกล้าพูดในส่วนที่ดีของวัด ก็จะหาว่าอุ้มวัด จะถูกสับแหลก แต่ข้าราชการหรือนักการเมืองผู้ใด กล้าออกมาด่าวัด ข่มขู่วัด หมิ่นประมาทวัด ก็จะกลายเป็นฮีโร่ จะมีสื่อขานรับกันระนาว และบรรดานักการเมืองอยากดัง อยากเด่นด้วยการทำบาป ไม่กลัวบาป เพราะทำมาเยอะแล้ว ก็ยิ่งกระเหี้ยนกระหือจะทำบาปหนักยิ่งขึ้น สนุกมือยิ่งขึ้น

ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ต้องแปลกใจ ว่าทำไมเมื่อพูดถึงวัดพระธรรมกาย ทุกคนก็จะมองภาพไปในทางเดียวกัน เพราะเป็นการนำเสนอข่าวข้างเดียว ชนิด 11 เดือนเต็ม ข่าวที่มีแต่ ความเลวร้าย ข่าวที่เต็มไปด้วยความเศร้าหดหู่ใจ ข่าวที่ทำให้ผู้อ่านผู้ฟังโกรธ เกลียดชัง และเห็นแต่สิ่งไม่ดีในวัดพุทธศาสนา ก็ดีเหมือนกันครับ สะใจดี ไหนๆ ก็ไหนๆ เอากันให้สุดๆ ไปเลย 

มาถึงวันนี้ ผมมาได้ข้อคิดใหม่ จากเรื่องราวทั้งหมด จากเหตุร้ายทั้งหมด จากวิกฤติการณ์ทั้งหมด ที่เกิดกับวัดพระธรรมกาย กับหลวงพ่อธัมมชโย 

ผมคิดว่า ชาวธรรมกายทั่วประเทศทุกคน ควรจะต้องขอบคุณสื่อมวลชนทุกฉบับ ทุกสื่อ ข้าราชการทุกคน และผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้ายต่อชาวธรรมกายทุกคน

เพราะปี 1999 นี้ เป็นปีที่หลายตำราหมอดู ถือว่าเป็นปีโลกาวินาศ เป็นปีมหันตภัยของโลก เป็นปีสงครามโลกทางเศรษฐกิจ และเป็นปีวินาศภัยทางศีลธรรม 

เป็นปีแห่งความเลวร้าย ทุกชนิดที่จะมาบังเกิดในประเทศไทย เป็นปีที่คนพาลจะเป็นใหญ่ คนดีจะต้องคอยหลบหลีก และเราจะรู้ว่าใครเป็นใครก็ต้องดูจากพฤติกรรม

สิ่งที่บุคคลเหล่านี้แสดงออกมาหนึ่งปีเต็ม ทำให้เรารู้ว่า ใครเป็นใคร ใครเป็นคนพาล ใครเป็นคนดี ใครมีตัวแสดงเท่าไร ก็ปล่อยตัวแสดงออกมาจนหมดสิ้น จะใหญ่โตคับบ้าน คับเมืองแค่ไหน แต่ละคนถือว่าสุดยอดในเมืองไทยทั้งสิ้น ก็ได้เห็นกันในปีที่ผ่านมานี้

ผมว่าเราน่าจะต้องขอบคุณทุกคนที่กล่าวร้ายเราในปีที่ผ่านมานี้

ต้องขอบคุณผู้กล่าวร้ายฝ่ายตรงข้ามทุกคน ที่ช่วยเป็น "ข้อสอบ" ทดสอบพลังใจชาวธรรมกาย เกือบหนึ่งปีแล้วที่พวกเราทุกคนยังยิ้มแย้ม ไม่หวั่นไหว ยิ่งมาวัดกันแน่นขนัดยิ่งขึ้น ยิ่งทำบุญกันมากยิ่งขึ้น ยิ่งรักกันมากขึ้น และมีความอดทนเหนือมนุษย์ มีขันติธรรม บารมีธรรมเพิ่มขึ้นมหาศาล มีพลังแผ่เมตตาเพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ว่าจะได้เห็นจากคนไทย ในยุคนี้

ขอบคุณวิกฤตการณ์ครั้งนี้ ที่ทำให้เราเกิดบ้านกัลยาณมิตรทั่วประเทศ อย่างรวดเร็ว นับหมื่นหลัง บ้านปฏิบัติธรรม บ้านที่มีการสวดมนต์ ทำวัตรเย็น ที่เสียงสวดมนต์เย็น จับใจไปทุกบ้าน นั่งสมาธิกันทั้งบ้าน และขณะนี้กำลังจะขยายไปให้ครบหนึ่งแสนหลัง ขยายไปทั่วโลกด้วย

ขอบคุณสื่อมวลชนไทยที่ช่วยสร้างชื่อเสียงวัดพระธรรมกาย ให้ขจรขจายไปทั่วโลก และทำให้สื่อมวลชนทั่วโลกฉบับดังที่สุด ทีวีช่องที่มีผู้ชมทั่วโลก ได้รู้จักชื่อวัดพระธรรมกาย แห่งประเทศไทย และทำให้เรามีเพื่อนเป็นนักข่าวต่างประเทศ มากที่สุดในชั่วเวลาเพียงปีเดียว

ขอบคุณขบวนการโกนหัวกรีดเลือก ตัดหัวยกป้าย ที่ทำให้มีสีสันในวงการสื่อ ทำให้คนไทยทั้งประเทศได้เห็นว่า ฝ่ายผู้หวังดีต่อพุทธศาสนานั้น น่ากลัว หน้าตาเหี้ยมเกรียม แสดงอาการน่ากลัวให้ปรากฏต่อสื่อมวลชน และทำให้เห็นว่า ฝ่ายธรรมกายนั้นน่าสงสาร เพราะแต่งชุดขาว ยิ้มแย้ม ไม่พูด ไม่สู้ พนมมือไหว้ และนั่งสมาธิลูกเดียว ทำให้ประชาชน ทั่วประเทศตัดสินใจได้ว่า จะเลือกพวกโกนหัวกรีดเลือก หรือพวกนั่งสมาธิก็ชัดเจนดี

นี่ผมก็พยายามจะสรุปเพื่อขอบคุณทุกคน ที่เป็น "บททดสอบ" เป็น "ข้อสอบ" ที่ยากที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่เสริมขันติบารมีให้กับชาวธรรมกาย เพราะถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นี้ ไม่มีพายุ และอันตรายขนาดนี้ เราก็ไม่มีโอกาสได้สร้างบารมี ถวายมหาธรรมกายเจดีย์อันยิ่งใหญ่ขนาดนี้

ผมเชื่อแล้วครับว่า การถวายตัว ถวายชีวิตให้ ยอมอดทน อดกลั้นให้ใครต่อใครเหยียบย่ำ เหมือนบูชายัญครั้งนี้ เป็นการบูชาธรรม เป็นบารมีธรรม เป็นขันติธรรมที่สมศักดิ์ศรี กับการที่จะขยายพุทธศาสนา และวิชชาธรรมกาย ให้ไปทั่วโลก เพราะถ้าในประเทศโดนขนาดนี้ยังทนไม่ได้ สำมะหาอะไร ถ้าไประดับโลก จะหนักกว่านี้อีกเยอะ แล้วจะไปได้ อย่างไร

ขอบคุณทุกคนที่มาช่วยสร้างช่วยเสริมบารมีให้กับวัดพระธรรมกาย ให้กับชาวธรรมกายทั่วโลก ณ วันนี้ เรื่องเข้าสู่กระบวนการศาลแล้ว ก็ขอให้ทุกคนเคารพ บารมีศาลยุติธรรม นะครับ

กาขาว


[หน้าหลัก][หน้า1][สหัสวรรษ][วิวาทะ]

1