ปีที่ 2 ฉบับที่ 816 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 7 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2542

หน้า 1

พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (พระธัมมชโย) นอนอาพาธรักษาตัว ที่รพ.กรุงเทพ

พักชั่วคราว ธัมมชโย
ตั้งทัตตะบิ๊ก
พลิกตำราถล่ม
ก.ศึกษาฯเบลอ
เร่งปลดสมภาร

 

หมู่มารตะลึง พระธัมมชโย ทำหนังสือลาพักการเป็นเจ้าอาวาสวัด ชั่วคราว แต่งตั้งพระทัตตะชีโว รักษาการแทนแทน สานงานในวัด ส่งหนังสือแจ้งถึงเจ้าคณะตำบลคลอง 1 เรียบร้อยแล้ว วีระศักดิ์ ฮาดดา เผยหายป่วยเมื่อไหร่ เจ้าอาวาสจะกลับเข้ารับตำแหน่งเหมือนเดิม ด้านพิศาล ตันตยาพิสุทธิ์ ตะแบงเอาเรื่องถึงที่สุด ไล่บี้เจ้าคณะตำบล สั่งปลด ตำแหน่งเจ้าอาวาส อ้างข้อเปรียบเทียบ ถ้าตนทำผิด อธิบดีสามารถปลดตนได้ทันที แม้ตนจะป่วยก็ตาม พระสมชายแถลง ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ สมภารธรรมกาย ป่วยหนัก ส่งตัวเข้าโรงพยาบาล ตั้งแต่เย็นวันที่ 5 ต.ค. หมอรับรองว่าป่วยจริง ตอนนี้ ถ้าจะเดินทางไปไหน เห็นทีต้องนั่งรถเข็น หมอพรชัย สวนกลับ ให้แพทยสภาช่วยตรวจสอบ หมอโรงพยาบาลตำรวจด้วย ที่หิ้วพระป่วยไปขึ้นศาล จนต้องเข้าโรงพยาบาล ด้านตำรวจควานหาตัว ดร.เบ็ญจ์ อ้างนายกฯ สั่งให้ตรวจสอบ

พระมหาปัญญา เจ้าคณะอำเภอคลองหลวง เปิดเผยว่า เจ้าคณะตำบลคลอง 1 ได้มอบหมายให้พระมหาชัยยะ จันทสโม เลขานุการเจ้าคณะตำบลคลอง 1 นำหนังสือของ วัดพระธรรมกาย ลงชื่อพระธัมมชโย ขอลาพักการเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายชั่วคราว และเสนอให้พระทัตตชีโว รองเจ้าอาวาส อายุ 59 ปี บวชได้ 27 พรรษา ชั้นนักธรรมตรี เป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสแทน มาให้ทราบ โดยหนังสือดังกล่าวให้เหตุผลว่า พระธัมมชโยสุขภาพไม่สมบูรณ์ เป็นโรคเบาหวาน และภูมิแพ้ จึงขอพักจากการเป็นเจ้าอาวาส

สอบประวัติพระทัตตะชีโว
เจ้าคณะอำเภอคลองหลวงกล่าวว่า ต้องหารือเรื่องนี้กับเจ้าคณะตำบลคลอง 1 และตรวจสอบประวัติของพระทัตติชีโวก่อนว่า ควรอนุมัติหรือไม่ ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าคณะอำเภอ คลองหลวงโดยตรง หากไม่อนุมัติพระธัมมชโยจะต้องเสนอชื่อพระรูปอื่น ซึ่งอาจเป็นพระนอกวัดพระธรรมกาย ก็ได้

พระมหาปัญญา ยังกล่าวว่า ได้รับหนังสือจากเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี กรณีที่กรมการศาสนาเสนอให้สั่งพักการเป็นเจ้าอาวาสของพระธัมมชโย เนื่องจากต้องคดีอาญา ตกเป็น จำเลยใน 2 ข้อหา คือ เป็นเจ้าพนักงานเบียดบังยักยอก เงินจำนวน 6.8 ล้านบาท ของวัดพระธรรมกายเป็นของตัวเองกับพวก และข้อหาเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติและละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 

สำหรับความแตกต่างของการสั่งพักตำแหน่งเจ้าอาวาส กับกรณีที่เจ้าอาวาสขอถอนตัวเองว่า หากถูกสั่งพัก ต้องรอจนคดีสิ้นสุด และพิสูจน์ตนเองว่าบริสุทธิ์ จึงจะกลับเข้ารับ ตำแหน่งได้อีก แต่กรณีการถอนตัวเอง ด้วยเหตุผลทางสุขภาพเมื่อหายดีแล้ว สามารถกลับเข้ารับตำแหน่งเจ้าอาวาสได้อีก

ด้านพระมหาชัยยะ จันทรสโม เลขานุการเจ้าคณตำบลคลอง 1 จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นผู้แทนเจ้าคณะตำบลคลอง 1 รับหนังสือที่กรมการศาสนา พักตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดพระธรรมกายของพระธัมมชโย เปิดเผยว่า เนื่องจากพระครูปทุมกิจโกศล เจ้าคณะตำบลคลอง 1 เจ้าอาวาสวัดสว่างภพ ชรามากแล้ว และสุขภาพไม่ดี จึงมารับหนังสือแทน ขอยืนยันว่า เจ้าคณะตำบลคลอง 1 จำพรรษาอยู่ที่วัดตลอด 

สำหรับอาตมานั้น ยอมรับว่า เคยอยู่ที่วัดพระธรรมกายจริง เมื่อปี 30-35 แต่หลังจากนั้น ได้ไปจำพรรษาอยู่ที่ภาคอีสาน ที่เกรงกันว่า อาตมาเป็นพระวัดธรรมกาย แล้วจะคอย ประกบเจ้าคณะตำบลคลอง 1 จนท่านไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกตินั้น ขอยืนยันว่า ไม่จริง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของหนังสือถอดถอนเจ้าอาวาส ที่กรมศาสนาส่งมาให้นั้น ท่านเจ้าคณะคลอง 1 ได้รับทราบแล้ว

หายป่วยกลับรับตำแหน่งได้อีก 
นายวีระศักดิ์ ฮาดดา หัวหน้ามูลนิธิวัดพระธรรมกาย กล่าวว่า ต้องขอยืนยันว่า เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ไม่ได้ลาออก เพียงแต่ขอ "ลาพักชั่วคราว" เท่านั้น เพราะขณะนี้ ท่านสุขภาพไม่ดี จึงปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ แต่เพื่อให้งานของวัด และมูลนิธิฯ เดินหน้าต่อไป ต้องมีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน และหลังจากที่ท่านหายอาการป่วย ก็จะกลับมารับตำแหน่งใหม่

รอเจ้าคณะตำบลคลอง 1 เห็นชอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. เจ้าคณะอำเภอคลองหลวงจะนำหนังสือจากกรมการศาสนา ไปแจ้งให้กับ พระครูปทุมกิจโกศล เจ้าคณะตำบลคลอง 1 เจ้าอาวาส วัดสว่างภพ ซึ่งมีหน้าที่โดยตรง ในการวินิจฉัย สั่งพักการเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ของพระธัมมชโย แต่กฎมหาเถรสมาคม ข้อ 56 ไม่ได้กำหนดเวลาไว้ แต่คิดว่า หาก เจ้าคณะตำบลคลอง 1 เห็นชอบให้พักตำแหน่ง คงใช้เวลาเพียง 3-5 วันในการตอบหนังสือ แต่ถ้าเรื่องเงียบหายไปก็ แสดงว่า ไม่ให้ความเห็นชอบ สำหรับเจ้าคณะอำเภอ มิได้มีหน้าที่พิจารณา พักการเป็นเจ้าอาวาสของพระธัมมชโย

เจ้าคณะอำเภอคลองหลวง กล่าวด้วยว่า ไม่รู้สึกหนักใจ หากทุกอย่างทำไป ตามกระบวนการ และปฎิเสธที่จะออกความเห็นในเรื่องนี้ เพราะไม่อยากให้เป็นการชี้นำ ส่วนข้อปฎิบัติ ในการสั่งพัก การเป็นเจ้าอาวาสวัด มีขั้นตอนคือ เจ้าคณะตำบล ต้องออกหนังสือสั่งพัก กลับไปยังชั้นปกครองเจ้าคณะสงฆ์ และแจ้งกรมการศาสนาใน 30 วัน หลังจากนั้น จึงแต่งตั้ง ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส ตามข้อเสนอของพระธัมมชโย และการอนุมัติของเจ้าคณะอำเภอ

สมศักดิ์ไล่บี้พระตามเคย
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีข่าวพระครูปทุมกิจโกศล เจ้าอาวาสวัดสว่างภพ และเจ้าอาวาสตำบลคลอง 1 ซึ่งเป็นผู้บังคับ บัญชา ใกล้ชิดพระธัมมชโย ไม่ยอมรับหนังสือจากกรมการศาสนาที่เสนอให้พักตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดพระธรรมกายของพระธัมมชโย ว่า ต้องถามความจริงก่อนว่า เป็นอย่างไร ดูรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น อย่าเพิ่งด่วนสรุปกันเองว่า พระครูปทุมกิจโกศลไม่ยอมรับหนังสือ แต่หากท่านไม่ยอมทำตามที่กรมการศาสนาเสนอ จะมีความผิดอย่างไรนั้น ก็ตอบยาก อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่า อย่าเพิ่งแปรเจตนาเป็นอย่างอื่น เพราะพระครูกิจโกศลอ าจไม่อยู่ที่วัดก็ได้

นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า พระสงฆ์จะต้องรับผิดชอบร่วมกับสังคม ต้องรู้ว่า ขณะนี้เกิดอะไรขึ้น เพราะพระต้องทำเพื่อศาสนา มิใช่ทำเพื่อคนใดคนหนึ่ง ศาสนาอยู่ได้ พระก็อยู่ได้ ศาสนาอยู่ไม่ได้ พระก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน ดังนั้น พระต้องคำนึงศาสนามากกว่าตัวบุคคล

ดร.วิชัยขู่เจ้าคณะคลอง 1
ดร.วิชัย ตันศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กรมการศาสนา ได้ทำหนังสือการให้พักตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดพระธรรมกายของพระธัมมชโย ให้เจ้าคณะ จังหวัดปทุมธานี และ เจ้าคณะตำบลคลอง 1 เพื่อให้เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี กำกับดูแลในการดำเนินการ และคาดว่า น่าจะดำเนินการได้ทัน ก่อนศาลนัดสืบพยานปากแรก ในวันที่ 18 พฤศจิกายน นี้ 

ส่วนการที่เจ้าคณะตำบลคลอง 1 ไม่ยอมรับหนังสือนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่ของวัดสว่างภพ รับหนังสือ ก็แสดงว่ารับทราบ ต้องปฎิบัติตาม ถ้าฝ่าฝืนจะมีโทษวินัยทางสงฆ์

เจ้าคณะจังหวัดได้กำชับลงไปที่เจ้าคณะตำบล ให้ดำเนินการ ตรงนั้น จะมีวินัยสงฆ์เกิดขึ้น ถ้าไม่ดำเนินการตามที่เจ้าคณะจังหวัดได้สั่งการลงไป มีความผิดอีกเหมือนกัน เป็นความผิดของสงฆ์

จับตาประชุมมส. 14ต.ค.
กรมการศาสนาได้ประสานกับนายวิษณุ เครืองาม เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และนายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานวุฒิสภา เพื่อให้ตีความกฎนิคหกรรมที่ระบุว่า คฤหัสถ์สามารถฟ้องร้อง กล่าวโทษพระได้ ในการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 14 ตุลาคมหรือ 19 ตุลาคมนี้ 

อ้างระบบราชการบังคับพระ
นายพิศาล ตันตยาพิสุทธิ์ รองอธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า การที่พระธัมมชโย สั่งพักการเป็นเจ้าอาวาสของตนเอง โดยอ้างเหตุว่า ป่วย แล้วเสนอแต่งตั้งพระทัตตะชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย รักษาการเป็นเจ้าอาวาสแทนนั้น เป็นคนละประเด็นกับการที่เจ้าคณะตำบลคลอง 1 พิจารณาสั่งพักตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดพระธรรมกาย ซึ่งยังสามารถพิจารณาได้ และแต่งตั้ง พระรูปใดที่เหมาะสมเป็นเจ้าอาวาสแทนได้

อย่างไรก็ตาม เป็นอำนาจของพระธัมมชโย ที่สามารถเสนอได้ เพราะว่า ป่วยจริง จะให้มานั่งทำงานได้อย่างไร อย่างตนถ้าป่วย จะให้ใครรักษาการหัวหน้ากองแทนก็ได้ แต่ถ้าตนผิด อธิบดีก็มีสิทธิ์ตั้งคนอื่นมาแทนตำแหน่งได้

รองอธิบดีกรมการศาสนา กล่าวด้วยว่า พระธัมมชโย ใช้กฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 19 ข้อ 5 ระบุว่า กรณีที่เจ้าอาวาสวัด ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เพราะเหตุใดเหตุหนึ่ง ให้เจ้าคณะตำบล ด้วยความเห็นชอบของเจ้าคณะจังหวัด สั่งแต่งตั้งเจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาสหรือพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง ตามเห็นสมควรเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสแทนได้

ธัมมชโยเข้าโรงพยาบาล
ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ถ.พระราม 9 พระสมชาย ฐานวุฒโฑ ผู้อำนวยการฝ่ายเผยแพร่ธรรม ในประเทศและต่างประเทศ วัดพระธรรมกาย พร้อมด้วยนางกริยา วิชัยธนะพัฒนา ผู้จัดการฝ่าประชาสัมพันธ์ โรงพยาบาลกรุงเทพ แถลงรายละเอียด การเข้ารับการตัวของพระธัมมชโย ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ เมื่อวานนี้(5 ต.ค.)

พระสมชาย กล่าวว่า ขณะนี้พระธัมมชโย มีอาการกล่องเสียงและหลอดลมอักเสบ อาการป่วยเริ่มต้น จากการที่พระธัมมชโยถูกละอองฝน แต่อาการไม่หนัก จึงลงเทศน์ตามปกติ แต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อาการเป็นมากขึ้น เวลาพูดฟังไม่รู้เรื่องจนต้องใช้การเขียนแทน และฉันข้าวไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อวันอังคาร(5 ต.ค.)ช่วงเช้าไข้ขึ้น ฉันอาหารและยาไม่ได้ อาเจียนออกหมด และพยุงตัวยืนไม่ไหว จึงได้นำส่งโรงพยาบาลกรุงเทพ 

ห้ามใช้เสียง 2 สัปดาห์
สำหรับการรักษาตัวของพระธัมมชโย จะอยู่โรงพยาบาลจนกว่าอาการจะดีขึ้น โดยขณะนี้ แพทย์ได้สั่งห้ามใช้เสียงเป็นเวลา 2 สัปดาห์และอีก 5 วันข้างหน้า จะใช้กล้องส่อง ตรวจคอว่า เป็นอย่างไรบ้าง และจากการพักดูอาการในโรงพยาบาล 1 วันที่ผ่านมา ได้รับการบอกเล่าจากแพทย์ด้านโรคปอด ว่า ฟังเสียงการไอแล้ว แย่ลง ก็จะให้ยาขยายหลอดลม แต่ภาพรวมอาการสดชื่นขึ้น มีแต่เรื่องไอ และปอดอักเสบที่แย่ลง ทั้งนี้ พระธัมมโชยพักที่ห้อง D918 ชั้น 9 ทางโรงพยาบาลกรุงเทพ ได้ตั้งคณะแพทย์ขึ้นมาดูแลพระธัมมชโย ประกอบด้วยแพทย์ อายุรกรรม ปอดหูคอจมูก โดยมี พ.ญ.ยิ่งดาว ไกรฤกษ์ เป็นประธานคณะแพทย์

ป่วยจริง ต้องนั่งรถเข็น
นางกรียดา กล่าวว่า อาการของพระธัมมชโย มีอาการป่วยจริง โดยทางโรงพยาบาลได้ระดมแพทย์ ที่มีความรู้ทุกด้าน เข้ามาตรวจ อย่างไรก็ตาม อาการของพระธัมมชโยในขณะนี้ เริ่มดีขึ้น แต่จะให้เดินทางไปไหนมาไหนนั้น คงต้องนั่งรถเข็นไป

ส่วนการวินิจฉัยของโรงพยาบาล จะขัดกับการวินิจฉัยของแพทย์โรงพยาบาลตำรวจหรือไม่นั้น คงต้องดูคำวินิจฉัยว่า แพทย์ตำรวจวินิจฉัยว่า เป็นอย่างไร แต่ทางโรงพยาบาล ยืนยันว่า ได้ตรวจสอบทุกอย่าง อย่างตรงไปตรงมา โดยยึดถือจรรยาบรรณแพทย์ เป็นหลัก

ขอให้สอบแพทย์ตำรวจ
นายแพทย์พรชัย พิญญพงษ์ แพทย์ประจำมูลนิธิธรรมกาย กล่าวถึงกรณีคณะอนุกรรมการจริยธรรม ของแพทยสภาเตรียมพิจารณา เรื่องการออกหนังสือรับรองอาการ ของ พระธัมมชโย ที่ขัดแย้งกับแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจ ในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ว่า พร้อมและยินดี ที่จะให้ตรวจสอบ เพราะถือว่า ทำตามหน้าที่ดูแลสุขภาพผู้ป่วย ยึดความปลอดภัย ของผู้ป่วยเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมา พระธัมมชโยก็ป่วยจริง อย่างไรก็ตาม หากมีการตรวจสอบจรรยาบรรณตน ก็อยากให้ตรวจสอบแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจด้วย

กรณีที่หมอคนหนึ่งดูแลผู้ป่วยคนหนึ่ง พยายามรักษา กับแพทย์ที่คิดว่า ถ้าไปแล้วไม่ตาย ก็ให้เอาไป คิดว่าจะฟังใคร แพทย์ทุกคน ควรยึดประโยชน์ผู้ป่วยเป็นหลัก ตามสิทธิ ผู้ป่วยและ ตามกระบวนการยุติธรรมเอง ผู้ตกเป็นจำเลย ถ้าเกิดมีการเจ็บป่วย โดยมีแพทย์รับรอง ก็สามารถผัดผ่อนไปได้

นายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า ได้ทราบจากเจ้าหน้าที่กรมการศาสนาว่า พระธัมมชโยได้ขอลาพักการเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย โดยเหตุป่วยเป็น โรคเบาหวานและภูมิแพ้ ซึ่งต้องใช้เวลารักษาอีกนาน จึงได้เสนอขอไปที่เจ้าคณะตำบลคลอง 1 ถึงเจ้าคณะอำเภอคลองหลวง ให้ความเห็นชอบ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่า อนุมัติหรือยัง ส่วนเรื่องที่กรมการศาสนา เสนอให้พักการเป็นเจ้าอาวาสของพระธัมมชโยนั้น จะติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด แต่ต้องให้เวลากับเจ้าคณะตำบลคลอง 1 สักระยะ ส่วนกฎมหาเถรสมาคมฉบัยที่ 24 ข้อที่ 56 ที่ให้พักการเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายของพระธัมมชโยนั้น ยังคงดำเนินการต่อไป ตนเชื่อว่าขณะนี้เรื่องต่าง ๆ ได้เข้าสู่กระบวนการแล้ว ผู้ที่เกี่ยวข้องย่อมต้องดำเนินการตามกฏอย่างเคร่งครัด

ตร.ควานหาตัวดร.เบญจ์
เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ (6 ต.ค.) พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ ผู้บัญชาการ สำนักงาน คณะกรรมการ ข้าราชการตำรวจ (ผบช.สง.ก.ตร.) หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีพระธัมมชโย พล.ต.ต.โยธิน มัธยมนันทน์ ว่าที่ผู้บัญชาการ ตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ผกก. 1 ป. พร้อมคณะทำงาน ได้ประชุมหารือกรณีที่มีหนังสือ และบทความโจมตี พระธรรมปิฎก ที่สำนักงาน พล.ต.อ.อัยยรัส เวสสะโกศล อดีต รอง ผบ.ตร. อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 โรงพยาบาลตำรวจ โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง

รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่มีหนังสือเขียนโดย นายเบญจ์ บาระกุล ชื่อเรื่อง “เปิดโปงขบวนการล้มพุทธ” ซึ่งเขียนถึงพระธรรมปิฎกนั้น นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี จัดทำหนังสือถึง กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา ตรวจสอบหนังสือดังกล่าว และตัวผู้เขียนด้วย

ดังนั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงแต่งตั้งให้ พล.ต.ท.สมบัติ อมรวิวัฒน์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการ ตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน สืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ โดยมี พล.ต.ท.วาสนา และ พล.ต.ต.โยธิน เป็นกรรมการ เพื่อหาข้อมูลตรวจสอบถึงที่มาที่ไปของหนังสือดังกล่าว

ยังหาตัวไม่เจอ
ด้าน พล.ต.ต.โยธิน กล่าวว่า ที่ประชุมมอบหมายให้ตำรวจสันติบาล ไปตรวจสอบว่า ดร.เบญจ์ มีตัวตนจริงหรือไม่ และมีประวัติส่วนตัว ผลงานอย่างไร จบ ดร.จริงไหม และจบ จากที่ใด นอกจากนี้ ยังมีวัตถุประสงค์อย่างไร ในการโจมตีพระธรรมปิฎก ซึ่งตำรวจสันติบาลกำลังตรวจสอบ ทั้งแหล่งต้นตอของบทความที่ตีพิมพ์ ในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง

รวมทั้งจะพิจารณาควบคุม ไม่ให้มีการเผยแพร่ เนื่องจากอาจสร้างความสับสนให้กับประชาชน และพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่ได้รับความร่วมมือ เท่าที่ควร จากหนังสือพิมพ์ดังกล่าว ต่อไปต้องทำการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด หรือหากผู้ใดทราบว่า นายเบญจ์เป็นใคร ก็ขอให้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบด้วย เพื่อที่จะเชิญตัว มาสอบปากคำ


[หน้าหลัก][หน้า1][สหัสวรรษ][วิวาทะ]

1