ปีที่ 2 ฉบับที่ 744 ประจำวันพุธที่ 28 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2542 |
ธรรมกาย 3 ทศวรรษ กิจกรรมเทศกาลเข้าพรรษา
กว่า 2,500 ปี แห่งการดำรงอยู่ของพระพุทธศาสนา ก่อเกิดพลังศรัทธา ที่พุทธศาสนิกชนยึดมั่นต่อองค์พระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ ยาวนานและต่อเนื่อง จวบกระทั่งบัดนี้
วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 หรือวันอาสาฬหบูชา ซึ่งถือเป็นวันสำคัญอย่างยิ่งทางพระพุทธศาสนา เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันที่พระพุทธเจ้า ทรงประกาศพระศาสนาเป็นครั้งแรกของโลก
โดยแสดงปฐมเทศนา คือ ธัมมจักกัปปวัตนสูตร เป็นผลให้เกิดพระสาวกรูปแรกขึ้นในพระพุทธศาสนา วันนี้ จึงถือเป็นวันแรกที่พระพุทธศาสนาครบองค์พระรัตนตรัย
สำหรับการถือปฏิบัติในวันอาสาฬหบูชา ในประเทศไทยนั้น ได้มีการกำหนดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อพุทธศักราช 2501 โดยพระธรรมโกศาจารย์ (ชอบ อนุจารี) ครั้งดำรงตำแหน่ง สังฆมนตรีช่วยว่าการองค์การศึกษา ได้เสนอคณะสังฆมนตรี ให้เพิ่มวันศาสนพิธีทำพุทธบูชา คือ "วันธรรมจักร" หรือ "วันอาสาฬหบูชา"
ทั้งนี้ ได้ออกเป็นประกาศคณะสงฆ์ไว้เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2501 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งในวันนี้ สำนักสังฆนายก ยังได้กำหนด ระเบียบปฏบัติใน พิธีอาสาฬหบูชาขึ้น ให้ทุกวัดทั่ว ประเทศได้ถือปฎิบัติโดยทั่วกัน
สำหรับเทศกาลวันเข้าพรรษา (เริ่มจากแรม 1 ค่ำ เดือน 8 จนถึงกลางเดือน 11) ได้ถูกกำหนดขึ้นหลังจากนั้นไม่นาน เนื่องเพราะช่วงเวลาดังกล่าว ย่างสู่หน้าฝน ทำให้การสัญจร ไปในดินแดนต่างๆ ไม่สะดวก
กอปรกับเป็นช่วงที่เกษตรทำการเพาะปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหาร หากพระในพุทธศาสนา ยังจาริกเช่นนี้ อาจเป็นเหตุให้ต้องเหยียบย่ำข้าวกล้า หญ้าระบัดสัตว์เล็กๆ จนก่อความเดือดร้อน ต่อเกษตรผู้เพาะปลูกได้
ดังนั้น พระพุทธองค์จึงทรงบัญญัติเป็นธรรมเนียมไว้ว่า เมื่อถึงฤดูฝน ให้ภิกษุจำพรรษา คือ อยู่ประจำที่ในฤดูฝน ในที่แห่งเดียวตลอดฤดูฝน เป็นเวลา 3 เดือน เรียกว่า "เข้าพรรษา" ด้วยเหตุนี้ จึงได้เกิดมีการเข้าพรรษาสืบมาจนทุกวันนี้
ตามประวัติศาสตร์นั้น พบว่าได้มีการจัดกิจกรรมวันเข้าพรรษาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ดังปรากฏตามที่นางนพมาศกล่าวไว้ว่า "ครั้นถึงเดือน 8 นักขัตฤกษ์บูชาใหญ่ การพระราชพิธีอาสาธาส พระวรบุตรพุทธชิโนรส ในพระศาสนาจะจำพรรษา เป็นมหาสันนิบาตทุกพระอาราม.."
ถึงวันนี้ แม้วิกฤติแห่งพระพุทธศาสนาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา จนอาจกล่าวได้ว่า เป็นวิกฤติครั้งร้ายแรงที่สุดอีกครั้งหนึ่ง ในประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ "ศรัทธา" แห่งพระพุทธศาสนาเสื่อมคลายลงแต่อย่างใด
วัดในพระพุทธศาสนาทั่วประเทศ ยังคงจัดกิจกรรมเนื่องในวันสำคัญเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง องค์กรด้านพุทธศาสนา และพุทธศาสนิกชน ยังคงร่วมกิจกรรม ด้วยการทำบุญตักบาตร โดยไม่หวั่นไหวต่อสถานการณ์ที่ถูกยัดเยียด และบิดเบือนจากทายาทเทวทัตแต่อย่างใด
สำหรับวัดพระธรรมกายนั้น เกือบ 30 ปี ที่ได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่องในเทศกาลวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
โดยทุกๆ ปี จะมีพระสงฆ์จากวัดต่างๆ มาจำพรรษาในวัดพระธรรมกาย เพื่อศึกษาพระธรรมจากวัดแห่งนี้ ขณะที่พุทธศาสนิกชน พร้อมด้วยกัลยาณมิตร ก็จะมาทำบุญและปฏิบัติธรรม ดังกิจกรรมที่วัดพระธรรมกาย จัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
ภาคเช้า
8.00-8.30 น. พระภิกษุสงฆ์ ร่วมอธิษฐานพรรษา ณ อุโบสถ
ภาคสาย
9.30 น. พระราชภาวนาวิสุทธิ์ และคณะสงฆ์ นำบูชาพระรัตนตรัย และนำนั่งสมาธิ
11.00 น. จัดมีการอาราธนาศีล 5 และถวายสังฆทาน
ภาคบ่าย
14.00 น. จัดให้มีพิธีหล่อพระธรรมกายประจำตัว
16.25 น. พระราชภาวนาวิสุทธิ์ นำอธิษฐานจิต และนำบูชาพระรัตนตรัย
16.35 น. ถ่ายภาพประวัติศาสตร์ของการจัดกิจกรรม ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา พร้อมกับจัดพิธีอธิษฐานจิต หรือ "ชิตังเม" หมายถึง การประกาศตนว่าเป็นผู้ชนะต่อหมู่มารแล้ว
สำหรับพุทธศาสนิกชนแล้ว การยึดมั่นต่อองค์พระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ย่อมเป็นสิ่งอันควรอย่างยิ่ง ที่จะพึงยึดถือปฏิบัติสืบต่อไป จงอย่าหวั่นไหว ต่อเพทภัยจาก เหล่าเทวทัต ที่พยายามจะบิดเบือนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นต่อพระพุทธศาสนา
พึงทำใจให้สงบ รักษาไว้ซึ่งศีล สมาธิ ปัญญา พร้อมน้อมรับแต่สิ่งดีๆ ในโอกาสที่วันสำคัญทางพระพุทธสาสนามาเยือนอีกครั้งหนึ่ง
โดย .ทีมข่าวศาสนา