ปีที่ 2 ฉบับที่ 719 ประจำวันเสาร์ที่ 3 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2542
ปุจฉา วิสัชนา
699 อาคารกองบุญมา สีลม กรุงเทพฯ
วันที่ 15 มิถุนายน 2542
เรียน ท่านบก.หนังสือพิมพ์ "พิมพ์ไทย" ที่เคารพ
ดิฉันขอแสดงความชื่นชม และขอขอบคุณ ที่ท่านช่วยนำเสนอข้อมูลที่เป็นกลาง ไม่บิดเบือน และถูกต้อง ในกรณีของ วัดพระธรรมกาย ดิฉันรู้สึกว่า สื่อต่างๆ มุ่งโจมตีจนเกินไป เราเป็นชาวพุทธด้วยกัน น่าจะหันหน้าเข้าหากัน มาช่วยกันแก้ปัญหา และมีความเมตตาต่อกัน ให้อภัยกัน จึงอยากให้ท่านคงไว้ซึ่งอุดมการณ์ ของการเป็นสื่อมวลชนที่ดี มุ่งสร้างสรรค์ สังคมให้ดีขึ้นนะคะ
ขอขอบพระคุณอย่างสูง สำหรับหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีนะ
ด้วยความเคารพ
อรพินทร์ ลิ้มชนานุรักษ์
เรียน คุณทิด คอลัมน์ "ปุจฉา-วิสัชนา" หนังสือพิมพ์ "พิมพ์ไทย"
ดิฉันได้ติดตามอ่านหนังสือพิมพ์ "พิมพ์ไทย" มาเป็นเวลาหลายเดือน รู้สึกชื่นชมในการเสนอข่าวเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย ที่ทาง "พิมพ์ไทย" ลงข่าวสวนกระแส กับฉบับอื่นๆ นอกจากนี้ ดิฉันยังชอบอ่านคอลัมน์ "สหัสวรรษที่ 3" ของ "สิงห์ขาว" และคอลัมน์ "วิวาทะ" ของ "โซตัส" ด้วยคะ
ขณะนี้ที่สื่ออื่นๆ เสมือน "สื่อบาป" (ซึ่งผู้เสนอข่าวไม่น่าจะเป็นพุทธศาสนิกชน เพราะวันๆ ลงแต่ข่าวย่ำยีพุทธศาสนา จ้วงจาบพระภิกษุสงฆ์) แต่พิมพ์ไทยเป็น "สื่อบุญ" ท่ามกลาง "สื่อบาป" เหล่านี้ที่มักจะสรรหาข่าวมากล่าวร้ายท่านเจ้าอาวาส ทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิด และได้จงใจบิดเบือนข่าว ไปจากความเป็นจริง โดยไม่กลัวบาปกรรม ไม่กลัวนรกอเวจีกันเลย คิดๆ แล้วก็น่าสงสาร สื่อเหล่านั้นยิ่งนัก เมื่อไหร่ก็ตาม ที่บาปหนักซึ่งเขาได้ทำไว้ส่งผลก็เมื่อนั้น เขาก็จะรู้สึกว่า สายไปเสียแล้ว ไม่อาจแก้ตัวได้แล้ว ต้องก้มหน้ารับกรรม อันหนักนั้นไป
เมื่อช่วงวันวิสาขบูชา 29 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ดิฉันเป็นอีกผู้หนึ่งที่ได้ไปปฏิบัติธรรมอยู่ธุดงค์ ณ วัดพระธรรมกาย (ดิฉันไปอยู่ธุดงค์ตั้งแต่คืนวันที่ 28 พ.ค. ถึงวันที่ 31 พ.ค.) สาธุชน ทั้งชายหญิงเด็กและผู้ใหญ่ได้ให้ความสนใจอยู่ธุดงค์กันมากมายทีเดียว และที่น่าทึ่งมาก ก็คือมีครอบครัวหนึ่ง คุณแม่อุ้มลูก อายุ 2 เดือนมาอยู่ธุดงค์ด้วย ดิฉันไม่ได้เห็นเอง แต่ได้ยินจาก เจ้าหน้าที่ของวัดแจ้งให้ทราบ แต่ว่าบริเวณกลดที่ปักอยู่ใกล้ๆ กับกลดของดิฉันนั้น มีครอบครัวหนึ่ง คุณแม่นำลูกอายุ 7 เดือนมาด้วย ดิฉันเห็นเข้ารีบไป ขออนุโมทนาบุญ ทั้งแม่และลูกเลยคะ เพราะรู้สึกภาคภูมิใจ และยินดีกับ ผู้มีบุญตัวน้อยๆ ที่ได้สร้างบารมี ตั้งแต่ยังเป็นทารก เพราะมีบิดามารดาเ ป็นกัลยาณมิตรที่ดี ให้แก่ลูก คุณเชื่อไหมว่า นักสร้างบารมี ก็ขยันสร้างบารมีกัน จริงๆ ท่ามกลางกระแส พายุร้ายรุนแรง ที่พัดโหมกระหน่ำวัด ลูกแล้วลูกเล่า พวกเรานักสร้างบารมี ก็ไม่หวั่นไหว ยังคงไปปฏิบัติธรรมกันตามปกติ
ดิฉันอยากแจ้งให้คุณทิดทราบว่า ขณะนี้มีรายการวิทยุธรรมะ ซึ่งเป็นพระธรรมเทศนาของพระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ โดยออกอากาศ ทางสถานีวิทยุเสียงมก. (เอเอ็ม) 1107 จันทร์ถึงศุกร์ เวลา 20.00 น. ถึง 20.30 น. ซึ่งเป็นรายการธรรมะที่ดีมาก ออกอากาศมาหลายเดือนแล้วค่ะ อยากให้คุณทิดและท่านผู้อ่านท่านอื่นๆ ติดตามฟังจังเลยค่ะ นอกจากนี้ ยังออก อากาศทางวิทยุทหารอากาศ (เอเอ็ม) 1251 จันทร์ถึงศุกร์ เวลา 4.30 ถึง 5.00 น. คุณทิดลองติดตามฟังนะคะ รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
ท้ายนี้ดิฉันขอให้กิจการของ "พิมพ์ไทย" จงเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้น และคงอยู่คู่ชาติไทย และชาวพุทธตลอดไปตราบนานเท่านานค่ะ
ขอแสดงความนับถือ
ปาริชาติ (29 มิ.ย.2542)
เรียน คุณทิดที่นับถือ
ดิฉันเป็นชาวพุทธเช่นเดียวกับชาวพุทธทั้งหลาย ที่บรรพบุรุษ พ่อแม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ไม่เคยอบรมสั่งสอนให้จาบจ้วงพระสงฆ์ ด้วยตระหนักอยู่เสมอว่า พระสงฆ์ท่านมีบุญคุณต่อพวกเรา ช่วยทำหน้าที่เป็น สื่อกลางถ่ายทอด พระธรรมคำสั่งสอน ขององค์ พระสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้า มาถึงพวกเรา ให้ปฏิบัติตนอยู่ในศีลในธรรม ดิฉันมีโอกาสไ ด้กราบท่านพุทธทาสภิกขุ หลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ หลวงตามหาบัว พระธรรมปิฎก พระพิพิธธรรมสุนทร พระพยอม ได้อ่านหนังสือธรรมะ ฟังการบรรยายธรรม จากพระคุณเจ้าเหล่านี้ แม้ปัจจุบัน จะมีบางองค์ มีพฤติกรรมที่ทำให้ ดิฉัน และชาวพุทธผิดหวัง แต่ดิฉันก็ไม่อาจเอื้อมที่จะวิจารณ์ท่าน
ดิฉันได้มีโอกาสเข้าวัดพระธรรมกาย ตามคำชักชวนของสามีที่มีความศรัทธา ชื่นชม หลวงพ่อธัมมชโย หลวงพ่อทัตตชีโว คณะสงฆ์ และทีมงานของวัดพระธรรมกาย ดิฉันจึงได้เข้าวัด และพบด้วยตนเองว่า วัดพระธรรมกาย เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง โดยมีพระราชภาวนาวิสุทธิ์เป็นต้นแบบผู้นำการพัฒนา ดิฉันตัดสินใจเช่นนี้ เพราะนำหลักเกณฑ์ของพระพิพิธธรรมสุตทร วัดสุทัศน์ฯ มาใช้ ท่านเทศน์ว่า หากจะดูว่าใครเป็นนักพัฒนาหรือไม่ ให้ดูจากบริเวณ บริวาร บริขาร บริการ และบิกรรมกิจ วัดพระธรรมกายเป็นวัดที่สง่างาม สงบเงียบ ร่มรื่น สะอาด เหมาะสมเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม พรั่งพร้อมดด้วยบุคลากรที่มีคุณภาพ พระภิกษุ สามเณร สงบ สำรวม ทำงานหนัก อุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนา เจ้าหน้าที่ของวัด กัลยาณมิตร กิริยามารยาท สุภาพ เรียบร้อย พูดจาไพเราะ อ่อนโยน มีน้ำใจเอื้อเฟื้อ ทรัพย์สินของวัด เกิดจากแรงศรัทธาของสาธุชนที่ร่วมใจถวายมิรู้จบ เพราะมั่นใจว่า เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้รับ หลวงพ่อทุ่มเท ให้กับงานพระพุทธศาสนา บริกรรมกิจที่หลวงพ่อปฏิบัติ นอกจากจะสร้างวัด บริหารจัดการให้เหมาะสมเป็นบุญสถานแล้ว หลวงพ่อยังทุ่มเททั้งชีวิต เพื่อสร้างพระที่ดี สร้างคนดี ปลูกฝัง คุณธรรม ในจิตใจของคนไทยทุกหมู่เหล่า
30 ปี แห่งการอุทิศทั้งชีวิตของหลวงพ่อให้กับงานพุทธศาสนาอย่างผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ดำเนินงานพุทธศาสนาเชิงรุกควบคู่กันไปทั้งด้านสร้างถาวรวัตถุ ให้คุ้มประโยชน์ใช้สอย และพัฒนาจิตใจคนกลับกลายเป็นว่าไม่มีความดีใดๆ เลยในสายตาของสื่อมวลชน นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย ราชบัณฑิต กลุ่มคนโกนหัว กรีดเลือด เผาหุ่น และพวกที่โพนทนาว่า เป็นชาวพุทธที่ปกป้องพุทธศาสนา แท้จริงคือผู้ที่ปกป้องด้วยปาก แต่มีพฤติกรรมที่ตรงกันข้าม ไม่เคยน้อมนำคำสั่งสอน ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาประพฤติปฏิบัติเลย วิเคราะห์วิจารณ์ ตัดสินหลวงพ่อธัมมชโยทั้งๆ ที่ไม่เคยเข้าวัดพระธรรมกาย ไม่เคยรู้จักหลวงพ่อ รับรู้ข้อมูลที่ปนเปื้อนด้วยยาพิษจากสื่อที่ไร้จรรยาบรรณ เป็นประเภทวัดไม่เคยเข้า เย็นกินแต่เหล้า เช้าด่าพระ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของวัดก็เป็นไปด้วย พระพุทธเจ้าไม่เคยสั่งสอนให้เชื่อตามที่ได้ยินได้ฟัง โดยไม่พิสูจน์ด้วยตัวเอง ท่านไม่เคยสอนให้ กล่าวร้ายป้ายสี ด่าทอใคร ผู้ที่ออกมาเต้นก๋า เพราะอยู่ใน วังวน กระแสสื่อที่มอมเมา กรุณาหยุดทำชั่วถามตัวเองสิว่า ศีล 5 ปฏิบัติได้ครบถ้วนไหม ปกป้องพระพุทธศาสนา หรือปกป้องผลประโยชน์ ที่อำนาจมืดครอบงำกันแน่
ดิฉันใคร่จะขอร้องให้อาจารย์ด้านสื่อมวลชนของทุกๆ สถาบัน สอดส่องดูแลพฤติกรรมของสื่อมวลชน ซึ่งล้วนแต่เป็นลูกศิษย์ของท่าน ว่าเขาทรยศต่อจรรยาบรรณ วิชาชีพสื่อมวลชน เพราะอะไร การชี้นำประชาชน ให้รับรู้แต่ข้อมูลด้านลบ รวมหัวกนตั้งศาลเตี้ย พิพากษาพระผู้บริสุทธิ์ ตัดสินว่าผู้ที่มารวมตัวกันนั้น รักษาศีลเจริญสมาธิภาวนา ที่วัดพระธรรมกาย เป็นกลุ่มคน ที่เป็นอันตรายต่อพุทธศาสนา และความมั่นคงของประเทศชาติ การเสนอข่าวเช่นนี้ เป็นเป็นการดูถูกภูมิปัญญา ของชาวพุทธ ซึ่งเป็นลูกค้าของสื่อมวลชน ครั้นนิตยสารระดับโลก "ไทม์" นำเสนอข้อมูลของ วัดพระธรรมกาย หลากหลายมุมมอง อย่างมืออาชีพ แทนที่จะได้สำนึก กลับกล่าวหาว่า หลวงพ่อยืมมือสื่อมวลชนต่างชาติ เข้ามาย่ำยีสงฆ์ไทย หากผู้มีใจเป็นธรรม วิเคราะห์พฤติกรรมของสื่อ ตั้งแต่ต้นแล้ว คงสรุปได้ว่าคนชั่ว จะคิด จะทำแต่เรื่องชั่วๆ แล้วก็ร่วมมือกัน จุดกระแสชั่ว คณาจารย์ทั้งหลาย จะนั่งดูดาย ไม่แสดงความรับผิดชอบ โดยคิดทำอะไร เพื่อช่วยสังคมไทย ให้ได้รับข้อมูล ที่ตรงความเป็นจริง ปราศจากอคติครอบงำ ให้โอกาสประชาชน ให้ใช้สมองของเขา พิจารณาเรื่องราวต่างๆ ด้วยตัวเองบ้างหรือคะ อานิสงส์ที่ตามมาคือ การช่วยดึงลูกศิษย์ของท่าน ไม่ให้ถลำไปสู่อบายภูมิมากกว่านี้ ช่วยพวกเขาก่อนที่จะสายเกินไป
ดิฉันเองยอมรับว่า วัดพระธรรมกายเอง ก็มีสิ่งที่ควรจะต้องปรับปรุงแก้ไข เนื่องจากเป็นองค์กรขนาดใหญ่ มีผู้ศรัทธาเข้าวัดเป็นจำนวนเรือนแสน การประพฤติปฏิบัติ ก็ย่อมจะมี ข้อบกพร่อง เป็นธรรมดา แต่ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายที่แก้ไขไม่ได้ หากสื่อมีจิตใจ ที่เป็นมงคล ก็จะสามารถ ติติงแนะนำได้ เป็นการติเพื่อก่อ ส่งเสริมให้วัดพระธรรมกาย เป็นธรรมสถานของ ชาวพุทธ ทั่วโลก เพราะมีความพร้อมทั้งด้านสถานที่ บุคลากร การบริหารจัดการ มีมหาธรรมกายเจดีย์ เป็นสมบัติล้ำค่าของ แผ่นดินไทย เป็นมรดกของพุทธศาสนา นับเป็นการเผยแพร่ยังล้าหลัง ตัดสินปัญหาทุกๆ เรื่องด้วยความรุนแรง เร่าร้อน ลักษณะลมเพลมพัด ขาดหลักการแล้ว ชาติไหนเขาอยากจะติดต่อ มาลงทุนในยุคโลกาภิวัตน์เล่า เขาคงกลัวที่จะต้อง เจออะไรๆ ที่ป่าเถื่อน เพราะแม้แต่ พระสงฆ์ไทยผู้บริสุทธิ์ ยังต้องเจอกับอำนาจ อิทธิพลเถื่อนเลย อนาคตของประเทศไทย ช่างวังเวงจริงๆ เดี๋ยวนี้ดิฉันเลิกรับหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เดลินิวส์ เปลี่ยนมารับ "พิมพ์ไทย" และ "ดอกเบี้ยธุรกิจ" แทน เพราะหนังสือพิมพ์ของท่าน ทำให้ดิฉันรับข้อมูลข่าวสาร ที่ตรงความเป็นจริง สมองได้พัฒนาด้วย ข้อเขียนที่มีแง่คิด ที่เป็นประโยชน์จาก คอลัมน์ของ "สิงห์ขาว โซตัส ไอ้ทิด" และคนอื่นๆ ด้วย บารมีธรรม ขอให้พิมพ์ไทยเจริญยิ่งๆ ขึ้น เป็นสื่อที่มีจ รรยาบรรณที่สุด ที่หาไม่ได้ในเมืองไทย
ชาวพุทธผู้รักความเป็นธรรม
ดอนเมือง กรุงเทพฯ
24 มิถุนายน 2542
เรียน ท่านบรรณาธิการ "พิมพ์ไทย"
ดิฉันขอกราบขอบคุณท่าน ที่ช่วยลงข่าวเป็นกลางให้กับวัดพระธรรมกาย ซึ่งถือว่าช่วยปกป้องพระพุทธศาสนา ช่วยจรรโลงสังคม เป็นสื่อที่มีความยุติธรรม มีจรรยาบรรณ มีอุดมการณ์ ต่างกับสื่ออื่นๆ ที่ลงข่าวด้วยความมันส์ รุนแรงเผ็ดร้อน จาบจ้วง ก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม ดิฉันขอเป็นกำลังใจและขอสนับสนุนเต็มที่ค่ะ ดิฉันเป็นสมาชิกประจำ และซื้อแจกไป ยังเพื่อนๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อให้เขาได้รับรู้ว่า ในสังคมนี้ ยังมีสื่อมวลชนที่ดีหลงเหลืออยู่บ้าง
เฉลิมศรี หัสเดชะ
ดอนเมือง กรุงเทพฯ
24 มิถุนายน 2542
กราบเรียน คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์
ดิฉันเป็นพุทธศาสนิกชน ที่รักความสงบมีครอบครัวเป็นสัมมาทิฏฐิ รักการปฏิบัติธรรมมาตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ครอบครัวอบอุ่น เพราะทุกคนมีธรรมอยู่ในใจ โดยยึดหลัก คำสอนของพระเดชพระคุณ หลวงพ่อธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ให้ทำแต่ความดี เพราะคนเราเกิดมาสร้างบารมี ฉะนั้น ศิษย์วัดพระธรรมกาย จงมุ่งทำแต่ความดี ทำบุญกุศล หลวงพ่อสอนให้เรา มีแต่ความเมตตา ไม่ว่าร้ายคิดร้ายใคร ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน 10 กว่าปี ที่ครอบครัวของเราไปวัดนี้ เราจะเห็นแต่พระ ที่มีแต่ศีลาจารวัตรที่งดงาม สงบเสงี่ยม เรียบร้อย โดยเฉพาะเจ้าอาวาส ท่านจะมีมโนปณิธาน แกร่งกล้าในการทำความดี ท่านอุทิศชีวิต เพื่องานพระพุทธศาสนา ตั้งใจยกยอ พระพุทธศาสนา ให้เจริญรุ่งเรืองไปทั่วโลก ท่านต้องการ ให้ทุกคน มีสันติสุขภายในใจ เพื่อความเป็นสันติภาพภายนอก โดยเฉพาะสังคมไทยทุกวันนี้ ผุกร่อนเต็มที กิจกรรมของเด็กวัยรุ่น ตี รัน ฟัน แทง หรือไม่ก็ค้ายาบ้า ติดยาเสพติด ข่มขืนกรทำชำเรา ในขณะที่วัดพระธรรมกาย ยังมีวัยรุ่นส่วนหนึ่ง ที่ฝังใฝ่ในพระพุทธศาสนา ปฏิบัติธรรม ให้ทาน ถือศีล นั่งสมาธิ ช่วยงาน พระพุทธศาสนา ละเว้นอบายมุขทั้งปวง ซึ่งก็ด้วยความพยายาม ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่ปรารถนาจะสร้างสังคมไทย ให้มีคุณภาพ
แต่ยังมีบุคคลกลุ่มหนึ่ง ที่พยายามทำลายท่านโดยใช้สถานีโทรทัศน์เป็นสื่อจัดรายการ "ตามหาแก่นธรรม" ซึ่งความจริงแก่นแท้ของรายการ คือการสร้างภาพจัดคนมาด่าว่า ทำลาย วัดพระธรรมกาย ซึ่งแม้ขณะนี้ท่านจะมีข้อกล่าวหามากมาย แต่ก็ได้เข้ากระบวนการของกฎหมายแล้ว จึงควรรอคำพิพากษาของศาลเป็นข้อยุติ บุคคลภายนอกไม่ควรใช้สื่อทางทีวีช่อง 11 ซึ่งเป็นส่วนราชการ มาชี้นำด่าว่าทำลายกันเยี่ยงนี้
ในฐานะที่ดิฉันเป็นคนไทยคนหนึ่ง ดิฉันกราบขอร้องท่าน ในฐานะผู้ดูแลงานส่วนนี้ ได้โปรดห้ามปราม "รายการนี้" หยุดว่าร้ายทำลายพระเสียที หรือไม่ก็ยุบรายการไปเลย เพราะ ไม่เห็นว่าจะก่อประโยชน์ต่อสังคมเลย มีแต่จะทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นในสังคม
ด้วยความเคารพนับถือ
นางเฉลิมศรี หัสเดชะ
ไอ้ทิด