ปีที่ 2 ฉบับที่ 716 ประจำวันพุธที่ 30 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2542
ปุจฉา วิสัชนา
เรียน "ไอ้ทิด" ที่นับถือ
ดิฉันขอแสดงความคิดเห็นในฐานะคนไทย และพุทธศาสนิกชนคนหนึ่ง โดยไม่สังกัดฝ่ายใด ดังนี้
1. ดิฉันเห็นว่า การที่กำหนดให้พระภิกษุสงฆ์ ต้องโอนที่ดิน รวมทั้งสมบัติที่ได้มา ในระหว่าง ครองเพศบรรพชิตให้เป็นสมบัติของวัด เป็นข้อกำหนด ที่เป็นไปไม่ได้ ในทางปฏิบัติ เช่น
- ต่อไปปัจจัยหรือภัตตาหาร หรือสังฆทานที่ญาติโยมถวายมา พระที่ได้รับถวายมา จะใช้ไม่ได้ แล้วพระท่านจะฉัน หรือนุ่งห่ม หรือดำรงอยู่ได้อย่างไรคะ
- หากผู้ใดต้องการบวชในระหว่างหนึ่ง เช่น 7 วัน 10 วัน หรือช่วงเข้าพรรษา และผู้นั้น บังเอิญมีเงินฝากอยู่ ซึ่งจะต้องถอนดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น ในระหว่างบวชให้แก่วัด จะคำนวณ ดอกเบี้ยกันอย่างไรคะ แล้วโดยทั่วไป ดอกเบี้ยเงินฝาก ก็จะคำนวณเมื่อ สิ้นระยะเวลาหนึ่ง ไม่ได้คำนวณและจ่ายทุกวัน พระรูปนั้น ต้องออกเงินทดรอง ให้วัดไปก่อนหรือไม่คะ แล้วหาก พระรูปนั้น ไม่มีเงิน เพราะปัจจัยที่ได้รับ การถวายจากญาติโยม ก็ต้องยกให้วัดหมด จะให้ทำอย่างไรคะ ต้องไปขอยืมเงินจากผู้อื่น มาให้หรือเปล่าคะ
ยังมีตัวอย่างอีกมากมาย ฯลฯ
2. ดิฉันเห็นว่า ไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง ที่กรมการศาสนา หรือผู้เกี่ยวข้องต่างๆ จะดำเนินการใดๆ กับเจ้าอาวาสวัดรพะธรรมกายเพียงวัดเดียว อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ในเมื่อวัดหรือ กลุ่มบุคคลที่พฤติกรรมในทางตรงกันข้าม หรือพฤติกรรมรุนแรงกว่าวัดพระธรรมกาย ยังไม่ถูกดำเนินการใดๆ เช่น
- ข้อกล่าวหาเรื่องเจ้าอาวาสครอบครองที่ดินไม่ได้ ต้องโอนที่ดินให้เป็นของวัด และหากเจ้าอาวาสไม่ทำเช่นนั้น ก็ตั้งข้อกล่าวว่า ยักยอกและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้วัด อีกนับหมื่นที่เจ้าอาวาสต้องโอนที่ดินที่ได้มาโดยชอบธรรม ให้แก่วัด ดังได้กล่าวแล้วในข้อ 1 แต่ที่กล่าวถึงประเด็นนี้ในที่นี้ เพราะต้องการชี้ในแง่ความเป็นธรรมที่เกิดขึ้น)
- ข้อกล่าวหาเรื่องวัดพระธรรมกายกระทำพุทธพาณิชย์ แต่ในขณะที่วัดอื่นๆ มีการโฆษณาให้เช่าพระทางหน้าหนังสือพิมพ์ (โดยที่บางวัด ยังนำรูป และพระนามของ สมเด็จ พระสังฆราชฯ รวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์บางพระองค์ มาอ้างอิงโฆษณาว่า ท่านเป็นองค์ประธาน ในพิธีปลุกพุทธาพิเษกด้วย) แต่กลับไม่ถูกสั่งห้าม หรือดำเนินการใดๆ ดังเช่นที่กระทำต่อ วัดพระธรรมกาย
- ผู้ถือศีลอย่างเคร่งครัด ทำทาน นั่งสมาธิภาวนา บำเพ็ญตนด้วยความสงบสำรวม กลับถูกต้องสงสัยว่า เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ แต่ผู้ที่ก่อการประท้วง ด่าว่าหยาบคาย กระทำการ อันแสดงถึง ความป่าเถื่อนรุนแรง จาบจ้วงพระสงฆ์ แม้กระทั่งเสนอให้สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงลาออกจากตำแหน่ง ฯลฯ กลับไม่ถูกต้อง สงสัยด้วยข้อหาดังกล่าว และไม่มีการดำเนินการ ใดๆ จากเจ้าหน้าที่บ้านเมือง แม้แต่กระทั่ง การตำหนิ หรือตักเตือนก็ตาม
- การที่กล่าวหาหรือตัดสินว่า วัดพระธรรมกายสอนผิดเพี้ยนไปจากพระธรรม คำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งๆ ที่ผู้กล่าวหา หรือ ผู้ตัดสิน ก็ยังไม่ได้บรรลุนิพพาน และบางคน ยังเป็นแค่ปุถุชน จะแน่ใจได้อย่างไรว่า สิ่งที่ตนเองรู้นั้น ถูกต้องและสามารถ ยึดเป็นเกณฑ์ได้ อย่างไม่ผิดพลาด
- ยังมีตัวอย่างอีกมากมาย ฯลฯ
3. ดิฉันเห็นว่า การยัดเยียดข้อหาหรือข้อกล่าวหาให้เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ทั้งๆ ที่ไม่ถูกต้องตามหลักกฎหมายและพระธรรมวินัย แสดงถึงความบกพร่อง และความไม่รู้ของ ผู้รับผิดชอบ หรือผู้กล่าวหา เช่น การที่กล่าวหาว่า ท่านต้องปาราชิก ทั้งๆ ที่ท่านยังไม่เข้าข่ายของ การต้องปาราชิกแต่ประการใด
4. ดิฉันคิดว่า น่าจะมีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นในการเสนอข้อมูล โดยสื่อมวลชน และนักวิชาการส่วนใหญ่ของไทย เกี่ยวกับกรณี เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย รวมทั้งการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เพราะในขณะที่สื่อมวลชนและ และนักวิชาการ ของไทย พากันประณามและนำเสนอข่าวความเสื่อมเสียของเจ้าอาวาสดังกล่าว มานานกว่าครึ่งปี และในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่บ้านเมืองของไทย ก็ฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาต่างๆ ทั้งทางโลกและทางธรรม แต่ปรากฏว่า ข้อมูลที่นำเสนอ โดยสื่อมวลชนและนักวิชาการต่างๆ ในหลายๆ ราย กลับเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม โดยเฉพาะล่าสุด นิตยสารไทม์ฉบับอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย และ เจ้าอาวาส โดยสรุปว่า จากข้อมูลที่เข้าไปศึกษาค้นคว้ามา เขาเห็นว่า เจ้าอาวาสไม่ใช่คนไม่ดี (เขาเขียนว่า He is not a bad man) ซึ่งดิฉันไม่คิดว่า การนำเสนอข้อมูลของนักวิชาการ และสื่อมวลชนระดับโลกเหล่านั้น จะทำโดยไม่มีการศึกษาข้อมูล และหากสิ่งที่เขา เหล่านั้น นำเสนอเป็นข้อมูล เท็จ เหตุใดเขาเหล่านั้น จึงกล้าแสดงข้อมูล ที่ตรงข้ามกับ สิ่งที่สื่อมวลชน และนักวิชาการไทย ส่วนใหญ่ ได้นำเสนอมา เป็นเวลายาวนาน
ด้วยความนับถือ
ชาวพุทธรักความเป็นธรรม
USA
บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทย
ขอขอบคุณคณะหนังสือพิมพ์ไทยและรู้สึกซาบซึ้ง สมควรเป็นที่ยกย่องน่าสรรเสริญ ในความเป็นธรรมของการเสนอข่าวต่างๆ ต่อสังคม และทำหน้าที่ของพุทธศาสนิกชนช่วยปกป้องพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง ไม่เหมือนบางจำพวกที่ไม่หวังดี โดยเฉพาะสื่อมวลชนทั้งหลาย ที่ลงข่าว แต่ในด้านลบอย่างเดียว คงมีเบื้องหลัง ถ้าคณะรัฐบาลจะต้องทำงานตามเสียงข่าวที่คอยเสนอแนะให้ประชาชนหลงผิด โดยไม่ให้ความเป็นธรรม แก่อีกฝ่าย ก็ควรจะยุบคณะรัฐบาลได้แล้ว และไม่จำเป็นต้องเสียเงินจัดการเลือกตั้ง เพราะเท่าที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน สื่อมวลชนทั้งหลาย ทำหน้าที่ คุ้มครองประเทศ น่าสลดใจกับคนไทยด้วยกัน ที่ไม่อาจหาความเป็นธรรมได้ จากรัฐบาลไทย ซึ่งมีหน้าที่ดูแลประชาชน ให้อยู่เย็นเป็นสุข แล้ว ประชาชนคนไทยจะหันหน้าไปพึ่งใคร ก็เลยต้องทำตัวให้ถูกจุดประสงค์ของสื่อมวลชนทั้งหลาย เพื่อความอยู่รอดของตัว รัฐธรรมนูญ ก็ควรจะ ยกเลิก ได้แล้ว ก็แต่งตั้งให้พวกสื่อทั้งหลายที่ไร้คุณธรรมจรรยาบรรณ ไม่ซื่อสัตย์ต่ออาชีพปกคอรงประเทศก็แล้วกัน
และจะขอเสนอแนะความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อเตือนสติพวกเราชาวพุทธทุกคน ให้ตื่นขึ้นแล้ว ช่วยกันพิจารณาด้วยเหตุผล และไตร่ตรองให้ รอบคอบก่อน จะยึดถือ และเชื่อข่าวต่างๆ ตามสื่อมวลชนทั้งหลาย หนังสือพิมพ์ และรายการต่างๆ ที่ออกทีวี
ข้อสังเกต
1. จะเห็นว่า พระสงฆ์ในศาสนาพุทธทุกองค์ที่ท่านปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ จนเป็นที่เชื่อถือของประชาชนคนไทย และเป็นวัดที่มีผู้ศรัทธาสูง จะโดนองค์กรนี้ ทำลายล้างชื่อเสียง จนหมดสิ้นทุกองค์ไป เช่น (พระนิกร พระยันตระ พระภาวนาพุทโธ) เป็นต้น โดยใช้อำนาจเงิน สนับสนุนจาก ต่างชาติ ให้มาทำลายล้างชาติ เพียงแต่เงินที่เขาจ้างให้มีชีวิตที่ฟุ่มเฟือย ไม่รู้จักพอในอำนาจ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ที่ใช้สร้างกิเลส ในการล้างผลาญ คนในชาติเดียวกัน คงคิดว่า ชีวิตจะอยู่ค้ำโลก โดยไม่มีความกตัญญูต่อแผ่นดินที่อาศัยอยู่ที่บรรพบุรุษ ปู่ ย่า ตา ทวด ของเขา ได้ช่วยกันปกป้อง ด้วยชีวิต สืบต่อให้ลูกหลาน เพื่อไม่ให้ใครย่ำยีความเป็นไทย ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ (ซึ่งปรากฏอยู่ในความหมายของธงชาติไทย) บุคคลเหล่านี้ หาได้สำนึกถึงบุญคุณแผ่นดินไม่
2. ได้สร้างกรรมอย่างใหญ่หลวงโดยที่ไม่เชื่อเรื่องกรรมดีกรรมชั่ว นรกสวรรค์ (เพราะยังไม่ตาย) ชีวิตนี้คงไม่นานเกินรอ เราคงได้เห็นกันว่า กรรมมีจริงไหม? ในฐานะที่เป็นคนไทย และพุทธศาสนิกชนคนหนึ่ง จะไม่ยอมอยู่นิ่ง เห็นชาติ และพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติ ถูกคน นอกศาสนา มาบ่อนทำลายล้างคนไทยที่อยู่ทาง USA จะช่วยกันปกป้องรักษาพุทธศาสนาให้ถึงที่สุด จะพยายามสืบหาหลักฐานข้อมูลขององค์กร ที่คิดจะทำลายพระพุทธศาสนาให้ได้ เพราะไม่ต้องการคนอกตัญญูต่อชาติ บ้านเมืองตัวเองมาทำลาย ขออาราธนาให้พระคุณรัตนตรัย และสยาม เทวาธิราช จงช่วยปกป้องคุ้มครองให้พ้นจากมารพวกนี้ ด้วยเทอญ
3. บุคคลในองค์กร อ้างว่า ปกป้องพระพุทธศาสนา อยากทราบว่า เขามีคุณสมบัติอะไร รักษาศีล 5 ยังไม่ได้ ดื่มเหล้า โกหกพูดเท็จ แล้วจะ มา ชี้แนะให้ประชาชน ขาดความเคารพต่อพระสงฆ์พระท่านถือศีล 227 ข้อ คุณธรรมมันต่างกัน ฉะนั้น จะเอาทางโลกมากด้วยกิเลส มาเป็น ศาล ตัดสินเสียเอง หยาบช้ากระทั่งพูดจาล่วงเกินอำนาจสูงสุดขององค์กรสงฆ์ เถรสมาคมซึ่งเป็นที่เคารพสูงสุดของประชาชนคนไทย และองค์พระ สังฆราช ซึ่งเป็นกษัตริย์ปกครองพระสงฆ์ทั้งหมด แสดงให้เห็นว่า พวกนี้ไม่ใช่คนศาสนาพุทธ เพราะศาสนาไม่สอนให้ก้าวร้าว สิ่งที่เคารพอันสูงสุด พระสงฆ์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัย แม้จะมีบางคนเป็นถึงราชบัณฑิต จบเปรียญ 9 เคยอาศัยข้าววัดของสาธุชน การกระทำสอนให้เห็นว่า เป็นพวกใบลานเปล่า คุณธรรมไม่เหลือหาไม่พบในฐานะที่เคยเป็นพระมาก่อน และพระพุทธศาสนาได้สอนให้ทำลายล้างกัน มีแต่ให้อภัย และ ช่วยเหลือ แต่นี้จะทำลายให้สิ้นสูญกันไป หรือเรียกง่ายๆ ว่า ตายกันไปข้างหนึ่ง อันนี้ไม่ใช่วิสัยของชาวพุทธ บวชแล้วสึกทำไม ถ้าจะปกป้อง พระพุทธศาสนา ก็ควรจะอยู่เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา สอนผู้คนไม่ดีกว่าหรือ? คอยแต่จะจาบจ้วงพระสงฆ์เพราะร้อนวิชา Show อิทธิฤทธิ์ ในตำรา ความเก่งกาจของตน
4. พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนว่า การให้อภัยทานเป็นทานที่ประเสริฐ อย่างยิ่ง แต่พวกที่ออกมากล่าวหาข้อความต่างๆ ทั้งที่เป็นพระ (ถ้าสวด โอวาทปาฏิโมกข์) จะทราบว่า มีข้อความตอนหนึ่งว่า อนูปวาโท (ไม่ว่าร้ายกัน) อย่างนี้ ไม่มีใครเห็นว่า พระผิดศีลวินัย ตามกฎต้องอาบัติ คนที่ ไม่มีหิริ คือ ความละอายใจต่อการทำบาป และโอตตัปปะ คือความเกรงกลัวต่อบาป เป็นอันตรายสำหรับชาติบ้านเมืองมาก จึงทำอนันตริยกรรม อันยิ่งใหญ่ ยุให้พระสงฆ์แตกแยกกัน (สังฆเภท) และยังสร้างสถานการณ์ให้พระพุทธศาสนาคนไทย ร่วมวีรกรรมไปกับเขาด้วย โดยไม่รู้ตัว ขอความกรุณาญาติพี่น้องชาวไทยช่วยหยุดคิดพิจารณาให้ดี เพราะท่านจะรับบาปกรรม หรือขณะนี้ ยังรับกรรมกันไม่พอ ที่บ้านเมืองเดือดร้อน ทางเศรษฐกิจ จงอย่างสร้างกรรมอีกเลย สังฆเภทเป็นกรรมที่ร้ายแรงมาก ถ้าใครทำกรรมนี้ไม่ว่า จะทำกรรมดีมากเท่าไหร่ ก็ต้องไปตกนรกก่อน เป็นระยะเวลานานนับไม่ได้เลย โปรดใช้สติสัมปชัญญะ คิดดูก่อนให้ดีๆ จะได้ไม่ตกเป็นเครื่องมือของคนคิดไม่ดีกับพุทธศาสนา หลอกใช้ทำลาย พุทธศาสนาของเราเองพวกนี้ เข้าข่ายทำงานมิจฉาชีพ ในข้อค้าข่าวสารเท็จมอมเมาประชาชน (ควรจะกฎหมาย จัดการกับอาชีพนี้ได้แล้ว เป็น อันตราย ต่อความมั่นคงของชาติ เพราะทำให้คนในชาติหลงผิด) ขออย่าให้คนไทยทั้งหลาย มีอคติกับพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ท่านมีหน้าที่ เผยแผ่ธรรมะให้คนรู้จักชั่วดี ฉลาดขึ้น ทำให้องค์กรพวกนี้ทำงานไม่สะดวก เลยต้องคิดล้มวัดพระธรรมกาย เพราะเป็นวัดที่ ประชาชนศรัทธา มากกว่าวัดอื่นๆ เลย สร้างสถานการณ์ให้ประชาชนเกลียดชังเจ้าอาวาส จะได้จัดการกันเอง แล้วขอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ เมืองไทยคงเป็น เมืองขึ้นโดยสมบูรณ์ทั้งชาติและศาสนา ลองคิดดู แล้วเราจะมีสิทธิ์อะไรเหลือให้เสรีภาพของความเป็นไทย
ขอให้ทุกคนลดทิฏฐิ อย่าสร้างกรรมต่อไปเลย จะเป็นบาปติดตัวเราเอง ใครทำกรรมนั้นไว้ ผู้นั้นจะต้องรับกรรมเอง คนอื่นก็ช่วยไม่ได้ ถ่ายบาปให้กันก็ไม่ได้ จงหันหน้ามาปรองดอง ช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนา และชาติของเราที่กำลังมีภัย อย่ามัวแต่ถือมงคลตื่นข่าวอยู่เลย ภัยกำลังใกล้เข้ามาทุกที
ขอให้ข้อคิดและสังเกต กับพุทธศาสนิกชนชาวไทย โปรดจงพิจารณาสิ่งเหล่านี้ แล้วช่วยกันคิดสิว่า องค์กรชื่อ "แสงธรรม" (คริสต์) ที่สร้าง ขึ้น ที่นครปฐม มีเนื้อที่ประมาณ 10,000 กว่าไร่จริงไหม? ไม่เห็นมีใครไปทำข่าวว่า ซ่องสุมบ่อนทำลายประเทศชาติ ในขณะที่วัดพระธรรมกาย ทำงานเผยแผ่กันอย่างเปิดเผย แสงธรรมกำลังทำอะไรไม่มีใครรู้ และเอาเงินมาจากไหนมาซื้อที่ในเมืองไทย เป็นศูนย์เผยแผ่ได้ตั้ง 10,000 กว่าไร่ (วัดพุทธบางวัดที่มี 2,000 กว่าไร่ ก็เป็นข่าวใหญ่โต) และที่ดินเหล่านั้น เป็นชื่อของใครต่อใครบ้าง? ทำไมถึงมีที่ดินในเมืองไทยมากมายขนาดนั้น ทั้งที่ๆ ที่ไม่ใช่ศาสนาประจำชาติ ข่าวสารมวลชน หนังสือพิมพ์และทีวีไม่เคยปรากฏออกข่าว เกี่ยวกับปัญหาศาสนาอื่น (คริสต์) และกำลังสร้างภาพ ให้พุทธศาสนิกชนเบื่อหน่ายในความไม่ดีของพระสงฆ์ โดยวางแผนทำลายล้างมาตลอด ขอให้ทุกคนจงหวนคิดถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับ พระสงฆ์ทุกรูป ท่านเป็นจริงอย่างนั้นทุกองค์หรือ? จงช่วยกันคิดโดยด่วนว่า อะไรเกิดขึ้นกับพุทธศาสนา จงช่วยกันค้นหาข้อมูล ขององค์กรหรือ วิทยาลัย "แสงธรรม" ว่าทำอะไร? ให้ชาวไทยได้รับรู้ด้วย
ฉะนั้น จึงขอกราบเรียนมายังท่านนายกรัฐมนตรี รวมทั้งคณะรัฐมนตรีทั้งหลาย และข้าราชการไทยทุกหน่วย ที่เป็นพุทธศาสนิกชน จงช่วย กัน สืบหา และป้องกันพุทธศาสนาในชาติของเราด่วน ภัยพิบัติกำลังใกล้เข้ามาทุกที ถ้าพวกเราชาวไทย ยังรักพุทธศาสนา อยากให้ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาประจำชาติต่อไป จงช่วยกันแก้ปัญหาด่วน และขอให้ออกรัฐธรรมนูญให้ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาประจำชาติ ถ้าใครคิดร้ายทำร้ายล้าง ให้มีอาญาให้ต้องโทษตามกฎหมายแผ่นดิน และให้ผู้นำประเทศทั้งหลาย ที่ขึ้นมาบริหารปกครองบ้านเมือง ต้องเป็นศาสนาพุทธเท่านั้น เหมือน พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ อย่ามัวใจกว้างอยู่เลย ถ้าเราไม่คิดปกป้องคุ้มครองเสียแต่ตอนนี้ แล้วเราจะเสียใจภายหลัง และอาจแก้ไขไม่ได้
ดูอย่างชาวมุสลิมทางประเทศ Middle East ทั้งหลาย เขามีกฎหมายคุ้มครองชาติ ศาสนาของเขาอย่างดี ใครก็ตามได้ไปอยู่ในประเทศเขา จะทราบดี เขามีกฎหมายบังคับอย่างเข้มงวด เราอย่ามั่วแต่ใจดี มีเมตตากับคนที่คิดร้ายกับเจ้าของบ้าน รอหวังให้คนต่างชาติมาช่วย เพราะไม่มีใคร ที่เขาลงทุนแล้วไม่หวังผล แสวงหาข้อมูลให้ถูกต้อง อย่าหลงเชื่อผู้ใจดีในคราบนักบุญใจชั่วของศาสนาอื่น ที่เขาหลอกให้ คนในชาติเดียวกัน ล้างผลาญกันเอง แล้วประเทศไทยจะอยู่รอดได้ ด้วยความสามัคคีของคนในชาติเดียวกัน ตราบจนกระทั่งลูกหลานสืบไป ตลอดกาลนาน
ส. จิตสำนึก
กลุ่มผู้ปกป้องพระพุทธศาสนา (อเมริกา)
ไอ้ทิด