ปีที่ 2 ฉบับที่ 709 ประจำวันอังคารที่ 22 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2542
หน้า 1
กรมการศาสนาป่วนเปิดศึกฟัดกันเอง
"อาคม" มั่นใจตำรวจเอาผิดเจ้าอาวาส
นายมาณพ พลไพรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ กรมการศาสนา กล่าวถึงความผิดพลาด กรณีที่เขาไม่ได้ระบุว่า เป็นพุทธศาสนิกชน ในคำร้องกล่าวหา พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (พระธัมมชโย) เจ้าอาวาส วัดพระธรรมกาย ว่า ไม่มีเจตนาแอบแฝง เนื่องจากรู้อยู่แล้วว่า ก่อนที่เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี จะประทับรับฟ้องหรือไม่ ต้องมีการเรียก ผู้ร้องกล่าวหา ไปพบตาม กฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 11 ข้อ 12 ซึ่งช่วงนี้ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี สามารถตรวจสอบ คุณสมบัติ ผู้ร้องกล่าวหาได้ อย่างไรก็ดี ในวันนี้ จะไปพบเจ้าคณะจังหวัด เพื่อนำหลักฐาน ที่แสดงคุณสมบัติ ของผู้ร้องไปให้ ขอยืนยันว่า เรื่องนี้ทำตามหลักการที่ถูกต้อง
การที่ไม่ได้เขียน การนับถือศาสนา ไม่ได้ถือว่าผิด สามารถนำไปแสดงภายหลังได้ และตนคงไม่เอาเรื่องนี้ มาเสี่ยงกับ ตำแหน่งหน้าที่ราชการ อย่างที่มีคนกล่าวหาว่า มีอะไรแอบแฝง และจะกล่าวหา พระธัมมชโย ให้ถึงที่สุด
นายมาณพ กล่าวด้วยว่า การที่เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ระบุว่า จะรอผลสอบสวนคดีอาญา เรื่องการยักยอก ทรัพย์ก่อน แล้วจะนำไปรวมพิจารณากับ ข้อกล่าวหาทั้งหมด เพื่อตัดสินว่า จะรับฟ้องหรือไม่นั้น ไม่ถูกต้อง เนื่องจาก กฎหมายสงฆ์ ไม่ได้ระบุว่า เรื่องที่มีการพิจารณาในศาล ฝ่ายราชอาณาจักรแล้ว ต้องยุติ กระบวนการ ทางศาลสงฆ์ ทั้งหมด ให้รอการพิจารณา เพียงเรื่องที่ศาลทางโลก มีการพิจารณาอยู่ ส่วนอีก 2 เรื่อง ยุติไม่ได้ ต้องดำเนินการต่อไป และเรื่องที่ได้ฟ้อง เรื่องที่ดินนั้น ไม่เกี่ยวกับการยักยอก แต่เป็นเรื่องของ การทำผิด พระธรรม วินัย
นายอาคม เอ่งฉ้วน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงการดำเนินคดี ในส่วนของกรมการ ศาสนา ที่ไปแจ้งความ ดำเนินคดีอาญากับ พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (พระธัมมชโย) เรื่องการยักยอกทรัพย์ว่า เชื่อว่า ทางพนักงานสอบสวน คงใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน ในการพิจารณา หลักฐานว่า เพียงพอ ที่จะดำเนินคดีหรือไม่ หลังจากนั้น คงมีการเรียก พระธัมมชโย มารับฟัง ข้อกล่าวหา นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ นายมาณพ นำหลักฐาน การนับถือ ศาสนาพุทธ ไปแสดงต่อ เจ้าคณะจังหวัดปทุมฯ วันนี้ เพื่อให้ครบ คุณสมบัติ การเป็นผู้ยื่นฟ้อง กล่าวหา ธัมมชโย ได้ ว่าต้องอาบัติปาราชิก
ข่าวแจ้งว่า การที่เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ยุติการดำเนินการ เพื่อไปสู่ขั้นตอน การลงกฎนิคหกรรม แม้ พ.ร.บ.สงฆ์ จะระบุไว้ว่า ไม่ต้องรอกระบวนการ พิจารณาทางโลกก็ตาม แต่ในความเป็นจริง การฟ้องร้องคดี ทางแพ่ง ของ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เพื่อให้ตรวจสอบที่มา ของที่ดินนั้น ชอบตามกฎหมาย หรือไม่นั้น หากศาลพิเคราะห์เห็นว่า ชอบโดยกฎหมาย คำกล่าวหาต่างๆ ของกรมการศาสนา ก็จะตกไปทันที ซึ่งหากมีการ นำเรื่องนี้ มากล่าวหา พระธัมมชโยอีก ก็เท่ากับ เป็นการละเมิดอำนาจศาล