ปีที่ 2 ฉบับที่ 709 ประจำวันจันทร์ที่ 21 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2542

หน้า 1

เจ้าคณะปทุมฯ รอศาล หยุดพิจารณา กฎนิคหกรรม

พระธัมมชโยยันบริสุทธิ์ เตือนญาติโยมอย่าหวั่น

เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เมินเสียงด่าทอกรมการศาสนา ชี้ชัดเรื่องธรรมกายขึ้นศาลแล้ว หยุดดำเนินคดีชั่วคราว รอผลพิพากษาก่อน ค่อยเดินนิคหกรรม ศิษย์วัดยังแน่นเหนียว หลวงพ่อธัมมชโย เทศน์โปรดญาติโยมหมื่นคน อย่าได้ห่วง เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตนเอง ส่วนเรื่อง สภาธรรมกาลสากลที่ถูกโจมตีว่า ใหญ่โต พิจารณาแล้วไม่ได้ใหญ่โตอะไร เฉลี่ย 1 คน/ตารางเมตรเท่านั้น

ที่สภาธรรมกายสากล วัดพระธรรมกาย วันที่ 20 มิ.ย. พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (พระธัมมชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายแสดงธรรม และนำนั่ง สมาธิตามปกติ โดยมีญาติโยม ไปร่วมปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิประมาณ 10,000 คน

พระราชภาวนาวิสุทธิ์เทศน์ช่วงเช้า มีสาระสำคัญ ตอนหนึ่งว่า โลกธรรม 8 มีมาตั้งแต่พุทธกาลแล้ว มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ สุข ทุกข์ สรรเสริญ นินทา เมื่อเรามีปัญหา มีความทุกข์ ที่พึ่งที่แท้จริงของมนุษยืก็คื อพระรัตนตรัย ซึ่งมีอยู่ภายในตัวเรา คนเราจะพ้นจากความทุกข์เหล่านั้น ได้ ต้องถึงพระนิพพาน ซึ่งเป็นที่ที่มีแต่ความสุข เรียกว่า "เอกันตบรมสุข"

สำหรับสถานการณ์ที่สื่อมวลชนโจมตีเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายนั้น พระราชภาวนาวิสุทธิ์ กล่าวกับกัลยาณมิตรว่า "ไม่ต้องเป็นห่วงในตัว หลวงพ่อ เราเชื่อในความบริสุทธิ์ใจของเรา มาตั้งแต่ต้น" เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เทศน์ถึงสมัยพุทธกาล มีการบูชา สักการะ สัญญลักษณ์ของพระบรมศาสดา คือ สร้างเจดีย์ไว้เป็นสิ่งที่ระลึก เตือนใจให้คนรุ่นหลังได้เข้าถึงธรรม

สำหรับข้อกล่าวหาว่า วัดพระธรรมกายเน้น สร้างวัตถุโตฟุ่มเฟือยนั้น เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เห็นว่า ความจริงแล้วสภาธรรมกายสากล ไม่ได้ ใหญ่โตอย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจ หากคำนวณพื้นที่การใช้สอยกับจำนวนผู้คนที่เข้ามาปฏิบัติธรรมแล้ว เฉลี่ย 1 คน/ตารางเมตรเท่านั้น

ทางด้าน นายจรวย หนูคง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า วัดจะตั้งไวยาวัจกรหรือไม่นั้น ไม่ใช่เรื่องสำคัญหรือผิด กฎหมาย สงฆ์ หรือจะตั้งไวยาวัจกรกี่คนก็ทำได้ เพราะมีหน้าที่เพียงเบิกนิตยภัต ซึ่งเป็นเงินเดือนของสงฆ์จากกรมการศาสนาให้พระเท่านั้น

นอกนั้นเป็นหน้าที่การดูแลภายในวัด ซึ่งจะทำอะไรต้อง ได้รับมอบหมายเป็นหนังสือจากเจ้าอาวาส ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมมาสนใจ ประเด็นจุกจิกไม่สำคัญเช่นนี้ เนื่องจากไวยาวัจกรไม่ใช่ใหญ่โตอะไรนักหนา หรือจะตั้งเป็นรูปคณะกรรมการบริหารภายในวัดก็ได้ แต่สิ่งที่ น่าสนใจและต้องเร่งทำคือ การพิจารณารับฟ้องอธิกรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายได้แล้ว ไม่รู้ว่า พระผู้พิจารณาเล่นอะไรกันอยู่

การที่นายมาณพ พลไพรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษกรมการศาสนา ซึ่งได้ยื่นกล่าวหา เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย อาบัติปาราชิก ไม่ได้ระบุว่า ตัวเองนับถือศาสนาใดในคำฟ้อง ไม่ได้ทำให้สำนวนที่ยื่นฟ้องต้องตกไป เพราะยังไม่ได้มีการพิจารณา เรื่องนี้เป็นแค่การขาดคุณสมบัติที่ พระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีสามารถเรียกไปลงรายละเอียดให้ชัดเจน และการประทับรับฟ้อง

ไม่จำเป็นต้องไปอ่านรายละเอียดหรือหลักฐานประกอบการฟ้องในขั้นนี้ การจะฟ้องหรือไม่ พิจารณาเพียงว่า ผู้ยื่นมีคุณสมบัติครบหรือไม่ จากนั้น ก็เรียกผู้ถูกกล่าวมาถามว่า เรื่องที่เกิดจริงหรือไม่ ถ้าไม่รับ จึงค่อยไต่สวนมูลฟ้อง ในคณะผู้พิจารณาชั้นต้น หรือพระที่ดำเนินการเรื่องนี้ ไม่รู้กฎระเบียบปฏิบัติ ก็ควรให้เจ้าหน้าที่ในกรมการศาสนาหรือผู้รู้เข้าไปช่วยได้

"ผมไม่ค่อยมั่นใจพระที่ทำเรื่องนี้อยู่แล้ว ทำไม่เป็นแล้วยังชอบพูดมาก เวลาผ่านมาเดือนกว่าแล้ว ยังไปไม่ถึงไหน อย่างกรณียันตระ มีคนฟ้องเห็นว่ามีมูล 3-4 วันก็รับฟ้องและจับสึกได้ทันที เรื่องนี้ดูแล้วเหมือนมีอะไร ๆ กันอยู่ คุณมาณพ ลืมใส่ว่า นับถือศาสนาอะไรหรือ แกล้งลืม ก็ไม่รู้ แต่ถึงลืมสำนวนก็ยังไม่ตก ตกไม่ได้เพราะยังไม่ทำอะไรเลย พระน่าจะรีบพิจารณาเร็ว ปล่อยเรื่องไว้นาน ให้คนเขาดูถูก ผมถึงไม่ค่อยเชื่อถือ ทั้งคนฟ้องและคณะพิจารณา" ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าว

ขณะที่ พระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า แม้ทางกรมการศาสนาจะเร่งรัดให้อาตมาฟ้อง เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ตาม ข้อกล่าวหา ของกรมการศาสนา โดยที่ไม่ต้องรอผลการพิจารณาคดีแพ่ง ซึ่งทางวัดร้องขออำนาจศาล ให้พิสูจน์ที่มาของที่ดิน ของเจ้าอาวาส วัดพระธรรมกาย ชอบด้วยกฎหมาย คงจะรับไปปฏิบัติตามเช่นนั้นไม่ได้

" อาตมาเห็นว่า ควรรอขบวนการทางศาลให้เสร็จสิ้นก่อน หากกรณีที่ดินนั้นผิด ก็จะนำมารวมเป็นสำนวนฟ้องเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย พร้อมกันไปทีเดียว " เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี กล่าวหลังจากที่ถูกเจ้าหน้าที่ กรมการศาสนา ติติงการทำงานด้วยถ้อยคำที่รุนแรงมากว่า 1 สัปดาห์ แล้ว

ทางด้าน นายวิระศักดิ์ ฮาดดา หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิธรรมกาย เปิดเผยว่า การที่วัดพระธรรมกาย ไม่ตั้งไวยาวัจกรมาก่อนหน้านี้ เพิ่งจะมา ตั้งเมื่อไม่กี่วัน เนื่องจากวัดพระธรรมกายได้บริหารงานในวัดในรูป คณะกรรมการวัด โดยมีตนเป็นตัวแทนวัด ติดต่อประสานงาน ทั้งเรื่อง ที่เกี่ยวกับ วัดและงานอื่นทั่วไป แต่เมื่อเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ถูกกล่าวหาเรื่อง การครอบครองที่ดิน จึงตั้งไวยาวัจกร เพื่อมาดูแลปัญหานี้ โดยเฉพาะ ซึ่งตามกฎหมายคณะสงฆ์ไม่ได้ระบุว่า วัดจะต้องตั้งไวยาวัจกร แต่ได้ระบุไว้ด้วยว่าจะเป็น คณะกรรมการ ที่ทำหน้าที่เหมือนไวยาวัจกร ก็ได้ ทุกครั้งที่ตนไปติดต่อประสานงานกับกรมการศาสนา ก็จะบอกเพียงว่า เป็นตัวแทนวัด ที่ได้รับมอบหมายจาก เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ไม่ได้บอกว่าเป็นไวยาวัจกร

[หน้าหลัก] [หน้า1][วิวาทะ][สหัสวรรษ][ปุจฉา]

1