ปีที่ 2 ฉบับที่ 633 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2542

หน้า 1

"ตูมตาม" ทิ้งซี้ กมธ.ฟัดกันยับ อาคมเฉ่งกมธ.มั่วข้อมูล

สำนึกบาปตาเห็นธรรม ถูกสื่อหลอกนาน 4 เดือน

"อวิชชา" แพ้ภัยตัวเอง มารกัดกันนัว สื่อใจบาปโกหกไม่เลิก ยุคคนกราบหมา ฆราวาสด่าพระ คณะกรรมาธิการการศาสนาฯ ประชุมเครียด หลังถูก "ตูมตาม" จวกแหลกฐานชงข้อมูลมั่วนิ่ม ให้มหาเถรสมาคม ปฏิเสธไม่คิดเป็นโจทก์ฟ้อง "พระธัมมชโย" โยนกลองให้ฝ่ายบริหาร ด้าน "ตูมตาม" ตาเพิ่งเห็นธรรมสำนึกบาป หลังถูกสื่อแหกตามานาน 4 เดือน

นายอำนวย สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการศาสนาฯ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการฯ จะเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พระราช ภาวนาวิสุทธิ์ หรือพระธัมมชโย กรณีอวดอุตริมนุษยธรรม เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ว่า เรื่องนี้ ไม่เป็นความจริง กรรมาธิการฯ ไม่มีหน้าที่เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง ใคร มีหน้าที่เพียงรวบรวมศึกษาข้อมูล และนำเสนอต่อฝ่ายบริหาร ให้ดำเนินการแก้ไขเท่านั้น และขณะนี้รัฐบาลทำถูกต้องแล้ว ที่ให้มหาเถร สมาคม แก้ไขและติดตามประเด็นปัญหาของวัดพระธรรมกาย

กรรมาธิการฯ ห่วงว่า หลังจากมหาเถรสมาคมมีมติเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไปแล้ว ใครจะเป็นผู้ติดตามให้ดำเนินการมตินั้น หากให้ กรมการศาสนาคอยติดตามเพียงองค์กรเดียว คงไม่เพียงพอ รัฐบาลต้องลงไปช่วยดูแลด้วย เพื่อให้มีการดำเนินการตามมติอย่างเคร่งครัด

ด้านนายจรวย หนูคง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การกระผิดของสงฆ์ใครก็สามารถยื่นฟ้องได้ โดยทำเป็นหนังสือ ซึ่งถือว่า เป็นโจทก์สาธารณะ ส่วนเรื่องการถือครองที่ดินของ พระธัมมชโยที่ยังไม่มีการพูดถึงในมติของมหาเถรสมาคมนั้น ถือเป็นหน้าที่ของ พระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 สามารถสั่งให้พระธัมมชโยโอนที่ดินให้เป็นของวัดได้

จึงอยู่ที่ว่าพระพรหมโมลีจะสั่งหรือไม่ รวมทั้งเรื่องต่างๆ ที่ประชาชนยังข้องใจจะแนะนำแก้ไขอย่างไร วันเดียวกัน นายอรรถสิทธิ ทรัพย์สิทธิ์ โฆษกคณะกรรมาธิการการศาสนาฯ แถลงผลการประชุมว่า

ที่ประชุมได้พิจารณาปัญหาของวัดพระธรรมกายในประเด็นที่ มหาเถรสมาคมมีมติเกี่ยวกับ การแก้ไขปัญหาของวัดพระธรรมกาย โดยในสัปดาห์หน้า จะพิจารณา 2 ประเด็น คือพิจารณามติของมหาเถรสมาคมที่ออกมาว่า ยังมีประเด็นใดบ้างที่คณะกรรมาธิการฯ ศึกษาแล้ว แต่ทางมหาเถรสมาคมไม่ได้วินิจฉัย และ 2.กรรมาธิการฯ จะติดตามการดำเนินการของฝ่ายบริหารว่า ได้ทำอะไรไปบ้าง

ยันไม่คิดฟ้องเจ้าอาวาส

โดยการพิจารณาเรื่องนี้ ไม่ได้มุ่งหวังต้องการเปลี่ยนแปลงมติของมหาเถรสมาคม แต่ต้องการให้การแก้ไขปัญหา ของวัดพระธรรมกาย เรียบร้อย โฆษกคณะกรรมาธิการการศาสนาฯ ยังกล่าวถึงเรื่องที่มีข่าวว่า ทางกรรมาธิการฯ จะเป็นโจทก์ยื่นฟ้องพระธัมมชโย เจ้าอาวาส วัดพระธรรมกาย ด้วยว่า ทางกรรมาธิการฯ มีมติแล้วว่า เรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่ของฝ่ายบริหารมากกว่า เพราะกรรมาธิการฯ มีหน้าที่เพียงสอบสวน ข้อเท็จจริงและเสนอต่อฝ่ายบริหารเท่านั้น

ด้านนายทวีวัฒน์ ฤทธิลือชัย เลขานุการคณะกรรมาธิการการศาสนาฯ กล่าวว่า ประเด็นที่กรรมาธิการฯ เห็นว่า ทางมหาเถรสมาคม ยังไม่ได้ดำเนินการตามข้อมูลที่กรรมาธิการฯ ส่งให้ไป มีเรื่องการถือครองที่ดินของเจ้าอาวาส วัดพระธรรมกาย เรื่องการอวดปาฏิหาริย์ อวดอุตริมนุษยธรรม และเรื่องศาสนวัตถุ

"ตูมตาม" จวกกมธ.มั่วข้อมูล

ทางด้าน นายอาคม เอ่งฉ้วน รมช. ศึกษาธิการ กล่าวว่า มติมหาเถรสมาคมต่อกรณีวัดพระธรรมกาย ทำให้วัดต้องระมัดระวัง เรื่องการเผยแผ่ คำสอน การเรี่ยไร การโฆษณาให้คนมาทำบุญ หรือจัดกิจกรรมในลักษณะอวดอุตริมนุสธรรมที่เคยทำมาในอดีต

เพราะขณะนี้วัดถูกจับตามองจากสื่อ จากประชาชนที่นับถือศาสนาพุทธและองค์กรเอกชนอื่นๆ จึงคิดว่า ชาวพุทธก็พอใจคำตัดสิน ของ มหาเถรสมาคมระดับหนึ่ง แต่ให้คนทั้งหมดพอใจทันที ทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์คงยาก ส่วนที่มีการร้องไป ที่กรรมาธิการการศาสนาฯ หรือกรรมาธิการ จะหยิบยกประเด็นที่ยังติดใจอยู่ก็เป็นสิ่งที่กรรมาธิการจะทำได้

แต่หากจะทำก็ต้องให้ถูกต้อง ซึ่งตนเห็นว่า ต้องไปร้องเจ้าคณะตำบลตามกฏนิคหกรรมตามลำดับ และหลักฐานที่ยื่น จะส่งเฉพาะรายงาน เหมือนที่ผ่านมาคงไม่ได้แล้ว ต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนแนบไปด้วย

"กมธ. - อาคม" แตกหัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ผลการตัดสินของมหาเถรสมาคมจะเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย และยืนยันว่า จะไม่นำกรณีวัดพระธรรมกาย มาพิจารณา อีก แต่ยังมีสื่อมวลชนหลายฉบับ เสนอข่าวให้เกิดความไขว้เขว ว่า คณะกรรมาธิการการศาสนาฯ ไม่ยอมรับมติมหาเถรสมาคม และจะยื่นเรื่อง ขอเป็นโจทก์ฟ้องพระธัมมชโย ในความผิดทางโลกอีกครั้ง ซึ่งกรรมาธิการทุกคนต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เป็นความจริง และยืนยันว่า หากมีการฟ้องร้องควรให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร นายอาคม เอ่งฉ้วน รมช.ศึกษาธิการ เพราะมีหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมายอยู่แล้ว

ขณะเดียวกัน นายอาคมก็ได้เปลี่ยนท่าทีต่อวัดพระธรรมกาย และยอมรับมติของมหาเถรสมาคม อีกทั้งยังเห็นว่า ข้อมูลที่คณะกรรมาธิการ การศาสนาฯ เสนอมา อาทิ เรื่องสีกา ที่ดิน เป็นข้อมูลที่ไม่มีน้ำหนัก เป็นเหตุให้คณะกรรมาธิการฯ ออกมาแถลงข่าว โยนเรื่องการฟ้องร้อง พระธัมมชโย เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร นายอาคมนั่นเอง

ดวงตาเพิ่งเห็นธรรม

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มสื่อมวลนี้ และผู้ไม่ต้องการเห็นความเจริญของวัดพระธรรมาย พยายามดำเนินการทุกอย่าง เพื่อให้ เจ้าอาวาส พระราชภาวนาวิสุทธิ์ พ้นจากเพศบรรพชิต อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นกรรมาธิการการศาสนา หรือนายอาคม เอ่งฉ้วนเอง ก็เริ่มจะเห็นกระแส และความไม่ชอบมาพากลดังกล่าวแล้ว โดยเฉพาะการเต้นตามความเห็นข้อมูลสื่อมวลชนบางสำนัก ซึ่งล้วนแต่เป็น ข้อมูลเท็จ ทั้งสิ้น

[หน้าหลัก] [หน้า1] [วิวาทะ] [สกู๊ปพิเศษ]

1