ปีที่ 2 ฉบับที่ 632 ประจำวันพุธที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2542

วิวาทะ

ธรรมกาย "ชิตัง เม"

"มหาบุญถึง" กลับคว่ำมติมหาเถรสมาคม

ตามหาแก่นธรรม 4 เดือนไปถึงไหนแล้วครับ ขึ้นเหนือล่องใต้ หากินกับพระวัด ลุยธรรม ลุยถั่วระเบิดระเบ้อ ถึงพระนิพพานหรือยังครับ ถ้ายังไม่ถึง ก็ควรหยุดวิวาทะพระนิพพานเป็นอัตตาหรืออนัตตา

เพราะผู้ที่ออกมาพูดถึงสภาวะนิพพาน กางตำรา อ่านๆๆ ไปไม่ถึงพระนิพพานดอกครับท่านสาธุชน ต้องน้อมนำพระธรรมวินัยมาปฏิบัติ

สื่อมวลชนเสนอข่าวโจมตีวัดพระธรรมกายมากว่า 4 เดือน เมื่อผลการตัดสินของคณะกรรมการมหาเถรสมาคมออกมา ปรากฏว่า ข้อกล่าวหาสกปรกโสมม กลายเป็นโจ๊กล้วนๆ ซ้ำยังไม่มีไข่ หมู ตับ เป็นโจ๊กที่ให้เด็กแรกเกิดรับประทาน เข้าใจหรือยัง สรุปให้ชัดๆ ว่า "โกหกคำโตอย่างไร้สามัญสำนึก" นั้นเอง

ผลการตัดสินมส.บริสุทธิ์ ยุติธรรมที่สุดแล้ว

แต่กลับถูกสื่อมวลชน และกลุ่มบุคคลบางกลุ่มเห็นว่า เป็นเรื่องมวยล้มต้มชาวพุทธ มส.รับปัจจัยอามิสสินจ้าง จากวัดพระธรรมกายครอบงำ
อย่างว่า ผู้ที่ปรารถนาทำลายวัดพระธรรมกาย ไม่แฮปปี้แน่

ผู้ที่กระสันอยากถลกสบง พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ธัมมชโย) ก็ต้องนั่งเก๊กซิม เป็นทุกข์ เป็นร้อนขึ้นมาทันตาเห็น ก็จิตใจของท่าน ขาดตก บกพร่องในเรื่องอุเบกขา โดยเฉพาะเมตตาธรรมลดถอยลงหรือไม่ คงต้องพิจารณาเรื่องนี้ให้หนักทีเดียว

กลุ่มคนพวกนี้ มีอยู่มาก บางคนมากล้นด้วย "อวิชชา" หลงตนหลงตัว คิดการใหญ่อยากให้พระสงฆ์มากราบไหว้ตน ก็ตั้งตนเป็นศาสดา ไปให้มันรู้แล้วรู้รอดเลย ไม่ดีหรือครับ อย่าทำเป็น "อีแอบ" เที่ยวไปดึงพระสงฆ์ รูปนั้น รูปนี้ ซึ่งท่านไม่รู้ตื้นลึกหนาบางมาแปดเปื้อน บาปกรรม เปล่าๆ

พูดมามากแล้ว เรื่องพระพุทธศาสนา หน้า 5 แห่งนี้ ที่เดียวที่ "พิมพ์ไทย" ทั้งๆ ที่ไม่เคยคิดจะเขียวเกี่ยวกับเรื่องศาสนามาก่อนไปๆ มาๆ ก็ติดลมไปไม่รู้ตัว

กราบนมัสการพระเดชพระคุณเจ้าทุกรูป หากข้อคิด ข้อเขียนของผมล่วงเกินพระเดชพระคุณเจ้า จะด้วยความตั้งใจ ไม่ตั้งใจ หรืออวิชชา ต้องขอน้อมรับไว้โดยดุษฎี และได้โปรดอภัยด้วย

เพราะปัญหาวัดพระธรรมกาย ไม่ใช่เรื่องที่จะนำมาโยงใยถึงเรื่องความมั่นคง โดยเฉพาะการดัดแปลงพระไตรปิฎกจนบิดเบี้ยว ตามข้อกล่าวหาของคณะกรรมาธิการการศาสนาฯ

1)พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต)

2)พระพิศาลธรรมวาที (พยอม กัลยาโณ)

3)พระราชธรรมนิเทศ (ระแบบ ฐิยาโณ)

4)ดร.พระมหาบุญถึง (ชุตินธโร)

5)เสฐียรพงษ์ วรรณปก

6)ส.ศิวรักษ์

7)ขรรค์ชัย บุนปาน

8)เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง

9)สุทธิชัย หยุ่น

10)สุภาพ คลี่ขจาย

11)คุณเด่น โต๊ะมีนา

12)อาคม เอ่งฉ้วน

คำตัดสินของมหาเถรสมาคมออกมาแล้ว ทางวัดพระธรรมกาย โดยเจ้าอาวาสฯ ก็น้อมนำไปปฏิบัติแล้ว

ผมหวังใจเป็นอย่างยิ่งว่า คำวินิจฉัยของมส.จะเป็นที่ยอมรับในหมู่สงฆ์ โดยเฉพาะผู้ที่มีรายชื่ออยู่ข้างบนนี้

แต่ก็ต้องเศร้าใจและเสียใจยิ่ง เมื่อผู้ที่ออกมาโวยวายปฏิเสธสถาบันปกครองสูงสุดของสงฆ์เป็นปฐมบุคคล ไม่ใช่ คุณเสฐียรพงษ์ หรือส.ศิวรักษ์ ฯลฯ

เพราะถ้าเป็นบุคคลที่ว่านี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด แต่นี่เป็นพระสงฆ์ ดร.พระมหาบุญถึง (ชุตินธโร) เจ้าเก่า ผู้ช่วยอธิการบดี มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย

คำพูดของท่านไม่ใช่ความคิดเห็นที่ต่างกัน แต่เป็นการไม่ยอมรับมติสถาบันปกครองสูงสุดของสงฆ์ จึงมีคำถามว่า พฤติกรรมบทบาทนี้ หากลุกลามไปถึงขั้น "สังฆเภท" หมู่สงฆ์ต้องแยก พุทธศาสนิกชนที่มีความเห็นต่างกันออกมาใช้กำลัง ความรุนแรง ตัดสินปัญหา แทนปัญญา
ต้องปรับอาบัติท่านดร.มหาบุญถึง (ชุตินธโร) สถานใดดี...

เมื่อเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่คาดฝันเกิดขึ้น เราจะมานั่งเศร้าเสียใจอย่าง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่พาคนไปตายกลางถนนไม่ได้ ครั้งนั้น ท่านมหามื้อเดียวอ้างว่า ประเมินสถานการณ์ผิดพลาด ไม่คิดว่า ทหารใช้ความรุนแรงเพียงนี้

ดร.พระมหาบุญถึง ชุตินธโร ท่านมองอย่างมส.หรือไม่ นี่คือคำถาม ความมุ่งมั่นปกป้องพุทธศาสนา ไม่ให้มัวหมอง จะใช้วิธีการทางโลก แพ้ชนะมาตัดสินต่อสู้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด

บทบาทของพระมหาบุญถึง ถือเป็นหน้าที่อันยิ่งใหญ่ที่ท่านต้องเพียรพยายามสร้างคุณูปการให้แก่สถาบันสงฆ์ไทย คือ ทำอย่างไร ไม่ให้ เนื้อนาบุญ มันสมองสำคัญทางพระพุทธศาสนา ที่ร่ำเรียนจบปริญญาตรี โท เอก ลาสิกขาออกไปใช้ชีวิตเป็นฆราวาส

ถ้าความคิดเห็นที่ว่า ขัดแย้งกับหลักการรัฐธรรมนูญ เรื่องสิทธิเสรีภาพ แล้วไซร้ ก็สมควรอย่างยิ่ง ที่จะพัฒนาพระที่ร่ำเรียน จนจบชั้นสูง ในสถาบันสงฆ์ ออกมาเป็นฆราวาสที่ดีของสังคม

ไม่ใช่เปลื้องจีวรเสร็จ นุ่งกางเกงสวมสูทได้ไม่กี่ปี ก็มีมิจฉาทิฐิเป็นสรณะ นั่งเทศน์ สอนธรรมคนนั้น คนนี้ ตามวงเหล้า ด่าพระด่าเจ้าสนุกมือ สนุกปาก มิใช่หรือพระคุณเจ้า

โซตัส

[หน้าหลัก] [หน้า1] [ปุจฉา] [วิวาทะ] [สหัสวรรษ]

1