ปีที่ 2 ฉบับที่ 632 ประจำวันพุธที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2542
ปุจฉา - วิสัชนา
ยุติเสียที
เรียน"ไอ้ทิด"
เมื่อวันก่อนมหาเถรสมาคมได้ตัดสินกรณีพิพาทธรรมกายออกมาแล้วและลงความเห็นว่า ให้วัดพระธรรมกาย ปฏิบัติตามข้อวินิจฉัย ของ พระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ผลสรุปออกมามี 4 ข้อคือ
1.ให้ตั้งโรงเรียนสอนพระอภิธรรม
2.ให้ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
3.ให้สำรวมในพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด
4.ให้ปฏิบัติตามกฎของมหาเถรสมาคม
จากผลสรุปดังกล่าวพอสรุปได้ว่าการปฏิบัติของวัดพระธรรมกายในระยะที่ผ่านมา ไม่มีอะไรผิด! ตามที่ขบวนการ มารพยายามยัดเยียด ข้อหา
การตัดสินของมหาเถรสมาคม ถือเป็นข้อยุติ เหมือนการตัดสินของศาลฎีกาในทางโลก ผมจึงคิดว่า เรื่องปัญหาวัดพระธรรมกาย ควรยุติ แต่เพียงเท่านี้
ทว่าพอดูข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์อีกวันต่อมา มีแต่พาดหัวด่ามหาเถร เดี๋ยวนี้สื่อมวลชนไทย เขาเลิกนับถือพระสงฆ์องค์เจ้ากันแล้ว หรือครับ ไอ้ทิด" ช่วยวินิจฉัยเรื่องนี้ให้หน่อย
สุดท้าย เรื่องนิพพานเป็น อัตตา หรือ อนัตตา ทำไมมส.ถึงไม่วินิจฉัยออกมาด้วย
ด้วยความนับถือ
อุบาสกแท้
แฟกซ์ของคุณอุบาสกแท้ มาเร็วตามสถานการณ์จริงๆ "ไอ้ทิด" อยากบอกให้คุณอุบาสกแท้ทราบ ดังนี้คือ การทำงานของสื่อมวลชนนั้น เมื่อเขาจับประเด็นไหน ขึ้นมาเล่นเป็นข่าวแล้ว จะให้เขายอมแพ้ง่ายๆ นั้นไม่มีทางหรอกฃ ตอนนี้คนของวัดพระธรรมกาย ควรจะมานั่งคิดกันว่า ควรจะหาทางออกอย่างไร เพื่อให้สื่อมวลชนที่โจมตีวัดพระธรรมกาย เขามี "รันเวย์" ลงเพราะตอนนี้เขาหา ที่ลงไม่ได้
หากเขาจะเลิกเสนอข่าวไปดื้อๆ อย่างน้อยเขาจะรู้สึกเสียหน้า อีกทั้งลูกค้าของหนังสือพิมพ์ดังกล่าว ที่กำลังติดตามข่าวด้วยความสะใจ ก็จะเสียความรู้สึกกับหนังสือพิมพ์นั้นไปทันที
คงต้องเรียนให้คุณอุบาสกแท้ทราบ นั่งดูต่อไปเฉยๆครับ "ไอ้ทิด" เชื่อว่าอีกไม่กี่วัน ข่าวโจมตีวัดพระธรรมกาย จะค่อยๆเงียบหายไปเอง เพราะมองแล้ว ตอนนี้ เขาไม่เหลือประเด็นจะเล่นที่อยู่ ก็วนเวียนซ้ำซาก ไม่มีอะไรใหม่ ขาดทั้งพยานหลักฐาน
อีกทั้งตัวละครหลักของฝ่ายมารเอง แต่ละตัวมีแผลเหวอะหวะ ไม่มีน้ำหนักพอ ที่จะล้มล้างพระพุทธศาสนาได้หรอกครับ โดยเฉพาะ พระมหาระแบบนั่นน่ะ ถ้าไม่มีผู้ใหญ่ห้ามปรามเอาไว้ ป่านนี้ในกองบก.พิมพ์ไทยคงล่อกันเละแล้ว เพราะว่า ท่านจะต้องไปเคลียร์เงินก้อนหนึ่ง ประมาณ 200 ล้านบาท ให้จบก่อน ก่อนจะมาวินิจฉัยกรณีวัดพระธรรมกาย
ส่วนเรื่องพระนิพพานเป็นอัตตา หรืออนัตตา นั้น "ไอ้ทิด" เชื่อว่าตั้งแต่ต้นแล้วว่า จะไม่มีการวินิจฉัย เพราะถ้ามีคำตัดสินอย่างใด อย่างหนึ่ง ออกมา จะทำให้เรื่องราวบานปลาย และจะเป็นต้นเหตุของการทำ "สังฆเภท" ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง
ขนาดในพระไตรปิฎก ยังไม่เคยชี้ชัดไว้ตรงไหนเลยว่า พระนิพพานเป็นอัตตา หรืออนัตตา เมื่อพระไตรปิฎกไม่ชี้ชัด มหาเถระท่าน คงไม่อยากทำตัว รู้กว่าพระไตรปิฎก ทั้งๆที่บางองค์ บางท่าน ทั้งรู้ทั้งเห็นพระนิพพานมาจนทะลุปรุโปร่งแล้ว
เอาอย่างนี้ครับ พระนิพพานจะเป็นอัตตา หรืออนัตตา นั้นข้อให้พวกเราปฏิบัติให้ถึงกันเองจะดีกว่า เพราะเรื่องนี้เป็น "ปัจจัตตัง" คือรู้ได้ เฉพาะตน บอกคนอื่นไม่ได้หรอกครับ
ไชโย ชนะแล้ว
เรียน "ไอ้ทิด"
ดิฉันดีใจเหลือเกิน ที่มหาเถรสมาคมตัดสินออกมาอย่างนี้ น่าจะถือว่าเราชาวธรรมกาย พ้นเคราะห์พ้นกรรมเสียที การตัดสินในครั้งนี้ ดิฉันรู้สึกซาบซึ้ง ในความเมตตากรุณาของ พระเถระผู้ใหญ่ ที่มีต่อพุทธศาสนิกชนเป็นล้นพ้น
แม้ว่า ทางวัดพระธรรมกายจะต้องตั้งโรงเรียนสอนพระอภิธรรม และจะต้องปฏิบัติตามหลักมหาสติปัฏฐานสูตรก็ตาม แต่หลักการเหล่านี้ ก็ถือว่าควรจะนำมาปฏิบัติอยู่แล้ว
ที่ดิฉันดีใจมากที่สุดก็คือ ไม่มีการจับสึกเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ก็จะยังคงปฏิบัติธรรมต่อไปได้เหมือนเดิม แม้จะมีการสอดส่องดูแล จากท่านเจ้าคุณพระพรหมโมลี มากขึ้นกว่าเดิม แต่ดิฉันมั่นใจในคุณธรรมของท่านเจ้าคุณ ที่เมตตาต่อชาวธรรมกายเสมอมา
ไชโย เราชนะแล้ว ชิตังเมๆๆ
ด้วยความนับถือ
สุนีย์
"ไอ้ทิด" ก็รู้สึกยินดีไปกับคุณสุนีย์ด้วยเหมือนกัน การตัดสินในครั้งนี้คงพอจะสามารถชี้ชัดได้ว่า
มหาเถระสมาคมจะยังคงเป็นหลักชัยของบวรพุทธศาสนาสืบไป เหมือนเดิม เพราะได้เห็นถึงความเมตตาของพระมหาเถระผู้ใหญ่ ในครั้งนี้จริงๆ
ส่วนสื่อมวลชนที่จาบจ้วงเถรสมาคมนั้นขอให้เพลาๆมือลงหน่อยเถอะนะ เพราะในสังคมไทยบรรพบุรุษเราสอนเสมอว่า ให้เคารพผู้ใหญ่ ยิ่งผู้ใหญ่ที่เป็นพระสงฆ์องค์เจ้าแล้ว อย่าไปยุ่ฃกับท่านดีกว่า มหาเถระทุกท่านเต็มไปด้วยภูมิรู้ภูมิธรรม มีจิตวิญญานสูงส่งกว่าเรามากมายนัก เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชน
เลิกได้แล้วล่ะ เดี๋ยว "เจาะคน-เจาะข่าว" ที่หน้า 1 เขาจะว่า "ลามเป็นขี้กลาก" อีก มันไม่ดีต่อตัวพวกท่านเอง
กระซิบจาก...นรก
เรียนคุณ "ไอ้ทิด"
ในสภาวะนี้วัดพระธรรมกาย โดนสื่อทุกแขนงโจมตีอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์บางฉบับ ทีวีบางช่อง วิทยุบางคลื่น รวมถึง ราชบัฑฑิต คือ อวดตัวว่ากูรู้ และพระภิกษุบางรูปที่ว่ากูแน่
ภาพเบื้องหน้าพวกเขาเหล่านี้ ก็คือปกป้องพระพุทธศาสนา อะไรจะงดงามขนาดนี้ ส่วนภาพหลังก็คือ การล้มล้างวัดพระธรรมกาย พวกเขา เหล่านี้จะรู้บ้างไหมว่า หากมหาธรรมกายเจดีย์
ที่วัดพระธรรมกายสำเร็จเมื่อไหร่ นั่นหมายถึงธงชัยแหงพระศาสนาปักลงบนพื้นโลก สาธุชนจำนวนแสน จำนวนล้าน จะมาปฏิบัติธรรม เพื่อให้เข้าถึงธรรม อันเป็นแก่นแท้ของชีวิต เป็นระยะเวลานับพันๆปี
ภาพเหล่านี้จะปรากฎออกไปสู่สายตาชาวโลก ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่ไม่มีอะไรปิดบัง แล้วจะเกิดคำถามว่า เขามาทำไม? มันมีอะไร สำคัญ? แล้ว เขาจะได้อะไร? เมื่อมีคำถามเกิดขึ้น ก็มีการแสวงหา เมื่อมีการแสวงหา เกิดขึ้น ความรู้แจ้งก็จะเกิด และนี้ก็เป็นแรงผลักดัน ให้มวล มนุษย์ชาติหันมาปฏิบัติธรรม เพื่อให้เข้าถึงธรรมะภายใน เมื่อนั้นโลกก็จะพบกับความสันติสุข
ภาพสาธุชนจำนวนเรื่อนหมื่น เรือนแสน เรือนล้านหันหน้ามาปฏิบัติธรรม ณ มหาธรรมกายเจดีย์ บนพื้นที่ 2500 ไร่ ภาพนี้จะเป็น ความ เจริญรุ่งเรืองของศาสนา หาใช่เป็นภาพความสำเร็จของวัดพระธรรมกาย
แต่ช่างเป็นเรื่องน่าสมเพชซะเหลือเกิน ที่คนบางกลุ่มที่มีอำนาจ อยู่กำมือ(หรืออาจจะหลายๆกลุ่ม) ต้องการเห็นมหาธรรมกายเจดีย์ เป็นซากปรักพังเหลือไว้เป็นอนุสรณ์ แห่งความโง่เขลา
ผมเป็นอีกคนหนึ่งในอีกหลาย ๆ คนที่สนใจเรื่องพุทธศาสนา เชื่อเรื่อง นรก สวรรค์มีจริง บางเวลาของวันจะหาโอกาส ปฏิบัติธรรมเจริญ ภาวนานั่งสมาธิ เพื่อให้เข้าถึงธรรมภายใน ถึงแม้จะยังไม่สามารถดูนรก ดูสวรรค์หรือเข้าถึงพระนิพพานอันเป็นธรรมเบื้องสูง แต่วันนี้ขอเปลี่ยน อิริยาบถ จากท่านั่งสมาธิดูบ้าง มาเป็นนั่งกระดิกเท้าและตบโต๊ะ บอกได้เลยว่า ไอ้พวกนี้ตกนรกแน่ๆ และอย่าคิดถึงการเกิดมาเป็นมนุษย์อีก จริงไหมครับไอ้ทิด
นับถือ
สุรศักดิ์ ชมพู
ปล. ไม่ว่าจะมาไม้ไหน แยบยลเพียงใด เราชาวธรรมกายไม่หวั่นไหว เพราะเชื่อคุณในธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะย่อม ชนะอธรรม
เอ ท่าน เปลวไฟลุกท่วมแดงฉาน จนมองไม่เห็นกระทะทองแดงเลย ฤามันจะเกิดอาเพทหรือเปล่าท่านสุวาลย์?
ไม่หรอกท่าน มันเป็นเพียงแค่ลางบอกเหตุว่า อีกไม่นาน พวกมารมันจะชักแถวลงมารับทุกขเวทนา โทษฐานที่พวกมัน ทำให้พุทธศาสนา ต้องแปดเปื้อน นานนับแสนกัปป์ แสนกัลป์ ก็เท่านั้น ไม่มีอะไรหรอกท่านสุวรรณ !?!