ปีที่ 2 ฉบับที่ 630 ประจำวันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2542
บทนำ
อย่าหลงตน
ความเคลื่อนไหวต่อกรณีปัญหาวัดพระธรรมกาย ที่หลายฝ่ายมีความวิตกกังวล มาตลอดนับเป็นเวลาแรมเดือน ในการที่จะพิพากษาความผิด ที่หลายฝ่ายมองว่า วัดแห่งนี้มีพฤติกรรมที่ผิดแปลกไปจากสงฆ์สำนักอื่นๆ มีการสอนที่ผิดเพี้ยนไปจากพระธรรมวินัย รวมทั้งปัญหาทางโลก ที่หลายฝ่ายจ้องมองว่า เจ้าอาวาสวัดมีความผิด
มีการเร่งเร้ามหาเถรสมาคมให้ประชุมตัดสินเรื่องดังกล่าว โดยเฉียบขาด ตามความรู้สึกของฝ่ายที่มองว่า วัดแห่งนี้ผิด ถึงกับมีการว่ากล่าว จาบจ้วง พระสมเด็จมหาเถระ ที่เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม ว่ามีความสนิทแนบแน่นกับทางวัดพระธรรมกาย จึงไม่กล้าที่จะตัดสิน หรือชี้มูล ความผิด ของวัดแห่งนี้ได้
การกระทำ การออกมาเคลื่อนไหวดังกล่าวของกลุ่มบุคคลใดๆ ก็ตาม ที่มีความคิดเห็นเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ไม่เข้าใจ ถึงขั้นตอน การปฏิบัติของ มหาเถรสมาคมแล้ว แต่จิตใจยังเต็มไปด้วยอวิชชา คือ ความไม่รู้ ความมีอคติเป็นที่ตั้ง เพียงเพื่อสนองตัณหาของตนเอง
ที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีการดำเนินการที่เป็นขั้นตอนกับปัญหาดังกล่าว เมื่อไม่มีข้อมูลที่ชัดแจ้ง ที่ประชุมจึงเลื่อนมติที่จะลงความเห็น ใดๆ การเร่งรัดพิจารณา หากเกิดข้อผิดพลาด ใครจะรับผิดชอบ หากมิใช่องค์กรที่ดูแลสถาบันสงฆ์แห่งนี้
ข่าวที่ปรากฏออกมาให้สาธารณชนรับทราบ กลับมองว่า องค์กรแห่งนี้ ซื้อเวลา ล่าสุดที่ประชุมมหาเถรสมาคม เมื่อวันที่ 19 มีนาคม มีมติให้เลื่อนการพิจารณาปัญหาดังกล่าว ออกไปอีกหนึ่งสัปดาห์ ก็มีการนำเสนอข่าวสารในทำนองที่ว่า มหาเถรสมาคม ยังคงลักษณะการทำงาน เดิมๆ แบบที่แล้วมาคือ ใช้วิธีซื้อเวลา และอ้างว่า ต้องรอให้ฝ่ายฆราวาสรวบรวมข้อมูล มาให้ล่าสุด คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร โดยที่ปรึกษากรรมาธิการศาสนาฯ ผู้หนึ่ง กำลังดำเนินการ เพื่อผลักดันให้รัฐบาล ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ เพื่อเข้าไปช่วยเหลือ คณะสงฆ์ ในการแก้ปัญหาวัดพระธรรมกาย ด้วยเหตุผลที่ว่า เรื่องดังกล่าว มีความสลับซับซ้อน และเกี่ยวข้องกับข้อมูลจำนวนมาก หากปล่อยเป็น ภาระสงฆ์ จะทำให้ยืดเยื้อ ไม่สามารถหาข้อยุติได้
สรุปความต้องการของคณะกรรมการชุดนี้ก็คือ ต้องการเห็นความรวดเร็ว ทันอกทันใจ ในการตัดสินปัญหา ให้เป็นไปในแนวทางที่ประสงค์ ให้เกิดขึ้น การกล่าวอ้างว่า จะเข้ามาช่วยเหลือคณะสงฆ์นั้น หากกระทำด้วยความพิสุทธิ์แล้ว ก็คงไม่ว่าอะไร หากแต่จิตที่ถูกครอบงำ ด้วยมิจฉาทิฐิ แอบแฝงแล้ว ก็คงหวังอะไรไม่ได้เลย และจะถูกมองว่า ทำไปเพื่อหาเสียงเท่านั้น