ปีที่ 2 ฉบับที่ 630 ประจำวันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2542
ปุจฉา - วิสัชนา
เสียงลม
เรียน คุณ...ทิด ที่นับถือ
มีเรื่องให้คุณรำคาญใจอีกแล้วนะคะ คืนนี้เวลาใกล้จะ 24 น. ไดั้งรายการพระพย..พูดธรรมะ (กระแทกธรรมกาย) ดังนี้
อาตมาจำทำสวนเกษตร โยมจะสนับสนุนไหม ปลูกมะม่วง ขนุน ผลไม้ จะให้เด็กๆ เขาทำ พออกผลก็จะเก็บขายเป็นค่าเล่าเรียนเด็กๆ ทำบุญกับคนที่อดอยาก ดีกว่าไปทำบุญให้กับวัดอื่น คนที่ยากไร้มีอีกเยอะ ได้กุศลมาก ดีกว่าจะไปทำตามวัดที่เจดีย์ใหญ่ๆ ไม่เห็นได้ประโยชน์อะไร ทำแล้วไม่รู้ว่า จะได้บุญหรือเปล่า มาทำที่วัดสวนแก้วดีกว่า ไม่มีการบังคับ จะทำบาทสองบาทก็ได้ไม่เป็นไร
ไม่เหมือนวัดพระธรรมกาย ที่สร้างเจดีย์ใหญ่ๆ มีเด็กบางคนขอเงินพ่อแม่ จะเอาไปสร้างพระเป็นหมื่น ถ้าพ่อแม่ไม่ให้ จะฆ่าตัวตาย เมษาฯ นี้ อาตมามองไม่เห็นว่า สร้างเจดีย์ใหญ่ๆ จะแก้ปัญหาสังคมได้อย่างไร คนไปทำบุญที่วัดนี้ ไปทำแล้ว ผัวเมียต้องแตกแยก ครอบครัวมีปัญหา คงไม่เรียกว่า ต้นบุญ เผลอๆ อาจจะเป็นต้นบาปก็ได้ ถ้าโยมสนับสนุนอาตมา เดี๋ยวจบรายการนี้ โทรมา 595-1444 นะ อาตมาจะรอพูดโทรศัพท์สัก 30 นาทีจะจำวัด พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า จะไปเทศน์ที่อื่น หลังจากที่อดทนฟังอยู่เกือบชั่วโมง พอท่านพูดจบก็โทรไปถามเลย ดังนี้
ถาม. การให้ธรรมะจะให้อย่างไร จึงจะให้คนอื่นเขาเลื่อมใสศรัทธา และไม่เป็นการกระทบกระแทกคนอื่นเขา การให้ธรรมะแบบเสียดสี กระทบกระแทกคนอื่นเขาผิดไหม
ตอบ. ต้องดูที่เจตนา จะศรัทธาหรือไม่ ไม่บังคับ แล้วแต่โยม (ไม่มีสิทธิมาบังคับ)
ถาม. การทำธุรกิจในวัดผิดไหม การพูดโกหก พูดจากระทบกระแทกคนอื่น เสียดสีคนอื่น และการกล่าววาจาโปรยเสีย ซึ่งประโยชน์แห่งตน ผิดศีลข้อ 4 ไหม
ตอบ. ต้องดูที่เจตนา ถ้าทำเพื่อคนอื่นไม่ผิด เพราะคนอื่นเขาไปหลงเชื่อวัดพระธรรมกาย ถูกเขาหลอก เราต้องพูดเตือนสติให้เขารู้ เขาจะได้ไม่ถูกหลอก
ถาม. แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า คนเขาโง่ไปหมดทุกคน และรู้ได้อย่างไรว่า คนอื่นไม่มีสมอง คนทุกคนเขาก็ต้องมีความรู้ความคิด มีสมอง ด้วยกันทุกคน จะให้ใครมาหลอก
ตอบ.ไม่จริงหรอก บางคนโง่ ปัญญาอ่อนก็เยอะไป
ถาม. ถามจริงๆ เถอะ ไปจงเกลียดจงชังอะไรกับวัดที่เขามีเจดีย์ใหญ่ๆ เขาจะสร้างก็เรื่องของเขา มีปัญหาอะไร เดือดร้อนอะไร มันผิดตรงไหน
ตอบ. ผิดซิ ถ้าไม่ผิด พระธรรมปิฎกคงไม่ออกมาพูด หนังสือทำแจกไม่ทันแล้ว ไม่เห็นมีประโยชน์ โยมลองคิดดู ที่ประเทศอินโดนีเซีย ก็มีเจดีย์ใหญ่ รบราฆ่าฟันกันตายเป็นเบือที่อินเดีย ที่สุโขทัย อยุธยา ทิ้งผุพังไป ไม่เห็นแก้ปัญหาอะไรให้กับสังคม คนติดยา คนหิวโหย อดอยาก มีเยอะไม่ออกมาช่วย
ถาม. พระพุทธพจน์ทำนายของพระพุทธเจ้าข้อ 13 พวกเปรตอสูรกาย ที่แฝงอยู่ในคราบของนักบุญ และนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่ ถือเอามา เป็นเครื่องยุยงให้คนแตกแยกกัน ถึงกระทั่งเข่นฆ่ากันในที่สุด นักข่าวถูกซื้อตัวไปหมด ใครที่เอาเงินออกไปฝากนอกประเทศนั้น กำลังจะ แหลกสลาย เพราะสงครามศาสนา และเงินที่เอาไปฝากนั้น กำลังจะสูญสลาย เขาเรียกกรรมสนองใช่ไหม
ตอบ. ไม่จริงหรอก ไม่เห็นมีนักข่าวคนไหนถูกซื้อ เอาละแค่นี้ก่อน ให้โยมคนอื่นเขาโทรมาบ้าง เจริญพรนะโยม
นี่เป็นคำถามคำตอบ คิดว่าพระพย..คงจะต้องอัดเทป เสียดายที่ไม่ได้เตรียมเทปไว้อัด ไม่งั้นจะส่งฟ้องมหาเถรสมาคม ให้พิจารณาคดี พระพย.. เป็นพระอะไร ยุแหย่ให้คนเขาเกลียดชังกัน จะหาเอาแต่ประโยชน์แห่งตน สาดโคลนให้คนอื่น คนที่ทำลายพุทธศาสนา ไม่ใช่คนต่างศาสนาหรอก คนศาสนาเดียวกันเอง และก็คนที่เป็นพระด้วยกันนี่แหละ เสียดายที่ดึกไป ถ้าเป็นกลางวันจะลุยให้ถึงวัดเลย และก็พยากรณ์ไว้ล่วงหน้าได้เลย ถ้าพรุ่งนี้พระพย.. ไปเทศน์ที่อื่นจะต้องเอาไปพูดว่า "ธรรมกายสอนศิษย์อย่างไรให้มาด่าอาตมา" ก็ปาก... ชวนให้ด่า
ขอให้ช่วยกันศึกษาข้อมูล อาจจะเป็นพระขายตัวก็ได้นะ ก็ขายตัวให้กับผู้มีอิทธิพลชั่ว ที่กำลังขายชาติอย่างไรล่ะ เขาทำกันเป็นกระบวนการ พวกมันกะจะถล่มวัดให้เละก่อน หมายถึงโค่นศาสนาให้ได้ก่อน พอคนพึ่งวัดไม่ได้แล้ว ก็ขวัญเสีย พอคนขวัญเสียแล้ว คราวหน้า มันจะทำอย่างไร ก็ง่ายขึ้น แผนชั่วของคนทำลายชาติ เด็กป.ก็รู้ทันหรอก พระหรือคนโง่ๆ ที่อวดฉลาดไปเข้าทางเขา ระวังเถอะ สักวันหนึ่งจะเสียใจอย่างแสนสาหัส ถ้าถึงวันที่ต้องสูญขนาดนั้น ใครก็ช่วยอะไรไม่ได้ คุณว่าไหม ถ้าเราไม่พูดอะไรเลย เขาก็จะเห่าให้รำคาญหู ทั้งๆ ที่ยังกัดไม่ได้ คนไม่เคยไปวัด ก็จะเชื่อสื่อชั่วๆ เรื่องมันก็จะบานปลายไม่รู้จบ โบราณว่า เสาศิลาแปดศอกตอกเป็นหลัก ไป มา ผลักบ่อยเข้าเสายังไหว (โยก) ขออัญเชิญบันทึก ของ สมเด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระองค์ท่านบันทึกไว้ดังนี้
"เจอบันทึกนี้ ให้เอาคำต่อไปนี้ของกูไปประกาศให้คนรู้ว่า กูกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้เป็นโอรสของพระปิยมหาราช ขอประกาศ ให้พวกมึงรับรู้ไว้ว่า แผ่นดินสยามนี้ บรรพบุรุษได้เอาเลือดเอาเนื้อ เอาชีวิตเข้าแลกไว้ ไอ้ อี มันผู้ใด คิดบังอาจทำลายแผ่นดิน ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ฤา กระทำการทุจริต ก่อให้เกิดความเดือนร้อนต่อส่วนรวม จงหยุดกระทำการนั้นเสียโดยเร็ว ก่อนที่กูจะสังหารผลาญสิ้นทั้งโคตร ให้หมดเสี้ยนของแผ่นดินสยาม อันเป็นที่รักของกู ตราบใด คำว่า "อาภากร" ยังยืนหยัดอยู่ในโลก กูจะรักษาแผ่นดินสยามของกู ลูกหลายทั้งหลาย แผ่นดินใด ให้เรากำเนิดมา แผ่นดินใดให้ที่ซุกหัวนอน ให้ความร่มเย็นเป็นสุข มิให้อนาทรร้อนใจ จงซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินนั้น"
พระคาถาบูชากรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ นะโม 3 จบ แล้วว่า โอมชุมพรจุติ อิทธิกะระนัง สุโข นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ มะอะอุ (สวดวันละ 9 จบ อธิษฐานจิต บอกท่านให้ช่วยปราบมารร้ายทำลายชาติ)
ขอไม่ลงชื่อ อ.ต.ร. ค่ะ
"ไอ้ทิด" อยากให้คุณ ( ) มองเสียงเทศน์ของพระพยมเมืองนนท์ เป็นเสมือนเสียงลมที่พัดผ่านหู จะไม่เป็นการดีกว่าหรือครับ เพราะถ้าหาก เอามาเป็นอารมณ์ จิตเราก็เป็นบาป เป็นอกุศลเปล่าๆ จะอย่างไรซะ ท่านก็ยังได้ชื่อว่ามี สมณศักดิ์ เป็นพระผู้ทรงศีล พอท่านเหนื่อยท่านก็หยุดเอง เมื่อคิดเช่นนี้ จิตจะได้ไม่ต้องถูกโมหะเข้าครอบงำ จิตก็สบายไม่เป็นทุกข์ ส่วนที่ว่า การเทศน์ของท่านจะส่อเจตนาบริสุทธิ์หรือไม่นั้น ชาวพุทธแท้ เขารู้ด้วยปัญญาครับ
ขึ้นชื่อว่า นักบวชผู้มีส่วนแห่งสามัญญผล หรือผู้ที่จะได้รับประโยชน์จากการบวช จำเป็นต้องขวนขวายในการประกอบเหตุดี นำข้อวัตร ปฏิบัติ ในพระธรรมวินัยมาเป็นหลัก ในการประพฤติปฏิบัติอย่างจริงจัง มิใช่เพียงแค่จำพระคัมภีร์ หรือแตกฉานในพระไตรปิฎก แต่มิได้นำมา ปฏิบัติ ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว นักบวชย่อมไม่ได้รับ ผลดีอันใดแก่ตนเลย ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า "หากกล่าวพุทธพจน์ได้มาก แต่เป็นคน ประมาท ไม่ทำตามพุทธพจน์นั้น ก็ไม่มีส่วนแห่งสามัญญผล เหมือนคนเลี้ยงโค คอยนับโคให้ผู้อื่นฉะนั้น" จึงเปรียบได้กับนักบวชที่รู้ธรรมมาก แสดงธรรมได้มาก ย่อมมีชื่อเสียงมาก แต่ว่าไม่มีโอกาสได้บรรลุผลนิพพานเลย
วัฏฏสงสาร
เรียน คุณทิดที่นับถือ
ผมเป็นชาวพุทธคนหนึ่ง ที่รักการปฏิบัติธรรม และการศึกษาธรรมะ ผมขอแสดงความชื่นชมและขออนุโมทนาบุญ ในการทำหน้าที่เสมือน เป็นทนายแก้ต่างให้กับพระศาสนา ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม เสนอข่าวสวนกระแสของสื่ออื่น ทำให้ประชาชนได้รับข่าวสารข้อมูลอีกแง่มุมหนึ่ง อานิสงส์เหล่านี้ จะส่งผลให้ชาวคณะ และนสพ.พิมพ์ไทยได้เติบโตอย่างมีเกียรติในอนาคตใกล้นี้
ผมได้ติดตามข่าวสื่อมวลชนบางสื่อ รวมทั้งบุคคลที่มีเกียรติ มีความรู้เต็มหัว เป็นครูบาอาจารย์และเป็นนักปราชญ์ราชบัณฑิต เป็นเสนาบดี ที่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบโดยตรง ต่อสถาบันพระศาสนา เข้าแถวออกมากล่าวโจมตีเจ้าอาวาสและวัดพระธรรมกาย แล้วก็ลามปามไปถึง พระเถระ ผู้ใหญ่ในมส. เห็นแล้วสลดใจ นี่หรือผู้ที่เป็นครูอาจารย์ เป็นนักปราชญ์ราชบัณฑิต เป็นผู้ทรงคุณความรู้ เป็นเสนาบดี ที่มีคนยกย่อง เต็มบ้าน เต็มเมือง แต่กลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับ สิ่งที่ผู้คนยกย่อง ท่านทำกันได้อย่างไร คุณทิดคิดอย่างไรครับ
อย่างกรณีวัดพระธรรมกาย ผมได้เข้าไปสัมผัสด้วยตัวเอง เพราะสื่อที่กล่าวโจมตีวัด ผมเลยอยากรู้ ต้องยอมรับครับว่า ไม่มีวัดใดใน ประเทศไทย ที่ทำได้ดีขนาดนี้ครับ พร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรสถานที่ เทคโนโลยี โดยเฉพาะที่ต้องยกย่องคือ เจ้าอาวาสวัด ที่มีวิสัยทัศน์ กว้างไกลเกินกว่าที่บุคคลข้างนอก ที่ไม่ได้เข้าไปศึกษา รับรู้ในสิ่งที่ท่านตั้งมั่น ว่าจะต้องทำให้ได้ให้สำเร็จ เพื่อประโยชน์แก่ชาวโลกทั้งหลาย โครงการต่างๆ เกิดขึ้นเป็นร้อยๆ หลายโครงการประสบผลสำเร็จ เป็นรูปธรรมชัดเจน เป็นประโยชน์ต่อเยาวชน ประชาชน และประเทศชาติ อย่างยิ่ง
วัดพระธรรมกายเป็นวัดใหญ่ ทั้งเผยแผ่ธรรมะไปทั่วโลก ทั้งยังช่วยเหลือสังคมในรูปแบบต่างๆ เป็นร้อยๆ โครงการ ต้องใช้ทุนมากเป็น ธรรมดา ผมได้เห็นการทำงานของบุคลากรในวัดแล้ว เกิดศรัทธาครับ ผมอยากเห็นพระพุทธศาสนาเติบโตขยายไปทั่วโลก เป็นที่พึ่งสำหรับ คนทั้งโลก มีหน้ามีตาทัดเทียมศาสนาอื่นๆ กับเขาบ้าง มาช่วยกันส่งเสริมกันดีกว่าครับ ไม่ใช่พอจะแตกกิ่งก้านสาขาหน่อย ก็ออกมาช่วยกัน เหยียบไว้ไม่ให้โต พวกท่านทำกันได้อย่างไร หรือว่าสมองของท่านถูก... ล้างความคิดที่ดีๆ ออกไปหมดแล้ว สมองมันเลยว่างจากความดี ความเลวๆ 3 จำพวก (โลภ โกรธ หลง) เข้ามาแทนที่
สำหรับเรื่องการตัดสินวัดพระธรรมกายว่า ถูกหรือผิด คดีทางโลกผู้มีหน้าที่รับผิดชอบก็จัดการไปตามหน้าที่ได้เลยครับ แต่ต้องขอร้อง ช่วยเข้าไปสืบหาข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริงด้วยตัวท่านเองหน่อยครับ
หากขี้เกียจแล้วเอาข้อมูลจากสื่อเลวๆ หรือบุคคลเลวๆ ตัวท่านจะเลวไปด้วย คุณงามความดีที่สะสมมานานหลายปี เดี๋ยวจะไม่เหลือ อะไรเลย แถมยังต้องแบกนรกไว้เต็มๆ อีกด้วย ส่วนคดีทางวินัย หรือคำสอน ก็ปล่อยให้มส.ท่านจัดการเถอะครับ ให้เวลาท่านศึกษาวิธีการของมส. ในกาลก่อน ที่ตัดสินคดีที่คล้ายคลึงกัน ในสมัยของหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ (สด จนฺทสโร) ว่าพระเถระผู้ใหญ่ในมส. สมัยนั้น ใช้หลักการตัดสิน อย่างไร ผู้รู้ธรรมตัดสิน ผู้รู้แจ้งธรรม ไม่ได้หรอกครับ ต้องให้ผู้รู้แจ้งธรรม ตัดสินผู้รู้แจ้งธรรม ด้วยกัน ถึงจะถูกและควร พระเถระในมส. ท่านมี ความรับผิดชอบต่อศาสนาเพียงพอ เพราะอนาคตพระศาสนาอยู่ในมือของท่าน ท่านคงไม่บีบทิ้งเหมือนกับสื่อบางฉบับ นักปราชญ์ราชบัณฑิต และมหานอกวัดทั้งหลายหรอกครับ
ขอแสดงความนับถือ
ส.ดอนเมือง
ปล. ผมเพิ่งเขียนครั้งแรกในชีวิต ผมทนไม่ได้ที่เห็นคนมีปัญญาน้อย ที่มาขัดขวางการเจริญเติบโตของพระศาสนา ข้อความที่ผมเขียน อาจขาดตกบกพร่อง ไม่สละสลวย ผมขออนุญาตให้คุณทิดแก้ไขได้ครับ
"ไอ้ทิด" ยินดีเช่นกันครับ ที่ได้รับฟังความคิดเห็นของคุณ ส.ดอนเมืองเป็นฉบับแรก การที่คุณมส.ไม่ตกเป็นทาสสื่อชั่ว และปราชญ์ จอมปลอม พวกนี้ และพร้อมเอาตนเข้ามาพิสูจน์ความจริงนั้น แสดงให้เห็นถึงความมีปัญญา ซึ่งตรงกับหนึ่งในสิบข้อ ของหลักกาลามสูตร 10 ที่ว่า จงอย่าเชื่อ เพราะเป็นคำเล่าลือ
ในสมัยพุทธกาล โกลิตมาณพ กับ อุปติสสะมาณพ ครั้นได้ทราบว่า พระพุทธเจ้าได้บังเกิดขึ้นแล้วในโลก จึงได้ไปลาอาจารย์สัญชัย พร้อมกับ ชวนให้ไปฟังธรรมของพระพุทธองค์
อาจารย์สัญชัย ได้ย้อนถามมาณพทั้งสองว่า "ในโลกนี้คนโง่มากหรือว่าคนฉลาดมาก" มาณพทั้งสอง ซึ่งในภายหลังได้เป็นอัครสาวก ทั้งซ้ายขวา คือ พระโมคคัลลานะ และพระสารีบุตร ได้ตอบอาจารย์สัญชัยว่า "ในโลกนี้ คนโง่มีมากกว่าครับ" อาจารย์สัญชัย จึงกล่าวต่อไปว่า "เธอทั้งสอง จงไปศึกษาธรรมกับสมณโคดมเถิด ส่วนเราจะเป็นอาจารย์สอนคนโง่ต่อไปเอง"
นั้นแสดงให้เห็นว่า บุคคลที่โง่เขลาเบาปัญญา และยังคงทนงว่า ตัวเองนั้นมีภูมิรู้สูงในเรื่องธรรม จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่บุคคลพวกนี้ ยังคงเวียนว่ายตายเกิด เป็นวัฏฏอยู่บนโลกนี้มานานนับพันๆ ปีแล้ว
ไอ้ทิด