ปีที่ 2 ฉบับที่ 623 ประจำวันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2542

หน้า 1

ชาวพุทธ นับหมื่นส่งประชาพิจารณ์ กราบอาราธนาหลวงตามหาบัวชี้ทางสว่าง "พระนิพพานเป็นอัตตา อนัตตา" ผ่าน "พิมพ์ไทย" เป็นตัวแทน รวบรวมรายชื่อ ศรัทธาสาธุชนทั่วทั้งประเทศ เข้าลงชื่อ เพื่อเรียกร้อง ขอความบริสุทธิ์ผุดผ่อง ให้กับบวรพุทธศาสนา ด้านราชบัณฑิต เสฐียรพงษ์ได้ใจ กอดอัตตาขึ้นหม้อ ตีพระเกจิ หากเพี้ยนก็ควรตั้งลัทธิใหม่

โดยชมรมศิษย์สุปฏิปันโน ขอให้หนังสือพิมพ์"พิมพ์ไทย" เป็นสื่อกลางให้พุทธศาสนิกชนแสดงความเห็นกราบอาราธนา พระราชญาณ วิสุทธิโสภณ (ท่านอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน)

ซึ่งพระสุปฏิปันโน เป็นพระสายปฏิบัติ ได้ออกมาชี้แจงเรื่องพระนิพพาน ให้เกิดซึ่งความบริสุทธิ์ ถูกต้องชัดเจน และยุติธรรมแก่บวร พระพุทธศาสนา สืบต่อไป

การหยิบยกประเด็นร้อนพระนิพพานเป็นอัตตา ซึ่งวัดพระธรรมกายเป็นอีกวัดหนึ่งกำลังถูกโจมตี เรื่องคำสั่งสอนผิดเพี้ยน โดยหน่วยงาน รัฐธรรม คณะกรรมาธิการ การศาสนาฯ ชุดที่มีนายเด่น โต๊ะมีนา เป็นประธาน หยิบยกความเห็นของ พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต) และนายเสฐียรพงษ์  วรรณปก ยืนยัน พระพนิพพานเป็นอนัตตา

ขณะเดียวกัน พระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 เจ้าอาวาสวัดยานนาวา ก็มีความเห็นจะนำปมประเด็นดังกล่าว ถวายคณะกรรมการ มหาเถรสมาคม (มส.) วินิจฉัยว่า พระนิพพานเป็นอัตตา ผิดเพี้ยนไปจากพระไตรปิฎก คาดว่าในวันที่ 19 มีนาคมนี้ จะมีการประชุม ของมส. เกี่ยวกับเรื่องนี้

"พิมพ์ไทย" พยายามอย่างยิ่งในการเสนอข่าวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนามากกว่า 3 เดือนแล้ว โดยไม่ไหลลื่นไปตามกระแส สื่อมวลชนอื่น ที่มีข้อกล่าวหาต่อ วัดพระธรรมกาย และเจ้าอาวาสแห่งนี้ หลายเรื่องหลายประเด็นผิดจากข้อเท็จจริง และไม่อาจทนได้ หากมีการวินิจฉัยตีความ สิ่ง สูงสุดทาง พระพุทธศาสนา นั่นคือ พระนิพพาน ไขว้เขวไปจากความเป็นจริง ตามคำสั่งสอนของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

วิวาทะเกี่ยวกับพระนิพพานนี้ ไม่สมควรอย่างยิ่งที่ คนทุศีลจะนำมาหยิบยก วิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะสื่อมวลชนที่มากด้วยอวิชชา แต่กลับมี พลังอำนาจชี้ผิด ชี้ถูก นำความคิด เป็นผู้พิพากษาตัดสิน เรื่องละเอียดอ่อนสำคัญเช่นนี้

ล่าสุด นายเสฐียรพงษ์ ออกมาให้สัมภาษณ์ และแสดงความคิดเห็นทางหนังสือพิมพ์ ยืนยันว่าพระนิพพานเป็นอนัตตา อีกทั้งยังเห็นว่า การอ้างอิงพระเกจิชื่อดัง เป็นเรื่องไม่ถูกต้องงมงาย และว่า หากพระเกจิมีคำสั่งสอนที่ผิดเพี้ยน จากพระไตรปิฎก ก็ไม่ควรบวชเป็นพระภิกษุ ในบวรพุทธศาสนา เช่นกัน ควรไปตั้งลัทธิใหม่ตามจริต

"พิมพ์ไทย" เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว จึงได้จัดทำแบบฟอร์มแสดงประชามติ เพื่อให้ชาวพุทธแสดงความเห็นกับปัญหาดังกล่าว ล่าสุด มีพุทธศาสนิกชน ส่งหนังสือนับหมื่นราย ส่งแบบประชาพิจารณ์ มายัง "พิมพ์ไทย" กราบนมัสการ พระเดชพระคุณพระราชวิสุทธิโสภณ หรือ หลวงตาบัว เมตตาชี้ทางสว่าง เกี่ยวกับพระนิพพาน เพื่อไม่ให้พุทธศาสนาต้องมัวหมอง

อย่างไรก็ตาม เพื่อความกระจ่างชัด "พิมพ์ไทย" ขออาราธนาพระธรรมเทศนาของพระราชวิสุทธิโสภณ (บัว ญาณสัมปันโน) วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี เฉพาะเจาะจงแต่เรื่อง พระนิพพานเป็นอัตตา หรืออนัตตา ดังมีสาระน่าสนใจดังนี้

จากพระธรรมเทศนาเรื่องความตายเป็นธรรมดา ในหนังสือชุดเตรียมพร้อม หน้า 435 ว่า

การที่เราบำเพ็ญอยู่เวลานี้ และบำเพ็ญเรื่อยมานี้แล คือการดำเนินเพื่อหลบหลีกปลีกภัยทั้งหลายโดยลำดับ จนบรรลุถึง "มหาสมบัติ อันพึงหวัง"

จากนั้นจะเรียกว่า "นิจจัง" เป็นของเที่ยงก็ได้ เพราะไม่มีอะไรเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่มีอะไรเข้ามาทำลายจิตใจให้เดือดร้อนวุ่นวาย

จะเรียกว่า  "บรมสุข" ก็ไม่ผิด จะเรียกว่า "อัตตา" ก็ไม่น่าจะผิด เพราะเป็น "ตน" แท้ คือตนในหลักธรรมชาติไม่มี "สมมติ" น้อยใหญ่ แม้ปรมาณูเข้ามาเกี่ยวข้องใจ

แต่ไม่ได้หมายถึง "อัตตา" ที่เป็นคู่กับ "อนัตตา" นั้น เป็นความสมบัติอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นทางดำเนินเพื่อพระนิพพาน

จากหนังสือธรรมเทศนา เรื่อง จงกลับบาป บรรยายเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2537 เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม หน้า 7-17 ว่า

นี่เรื่องจิตเราก็เหมือนกันถึงจะออกจากร่างนี้แล้ว ไปเกิดที่ใดก็คือจิตดวงนี้ ไม่มีคำว่าฉิบหาย ไปเข้าร่างใดก็คือ จิตอันนี้อยู่นั่นแล จึงต้องได้ระวัง

เราได้เห็นนรกทั้ง 25 หลุม แล้วออกจากนั้นมาแล้ว ก็เห็นเปราต เห็นผี สัตว์ประเภทต่างๆ ที่เสวยกรรม ตามอำนาจแห่ง วิบากกรรมของตน ที่สร้างเอาไว้ นั้นน่าสัก 5 นาที

เปิดดูให้ชัดเจนตั้งแต่นรก หลุมแรกขึ้นมา สัตว์ตกนรกนั้นเสวยกรรมอย่างไร ประเภทที่หนึ่งเสวยกรรมอย่างไร นรกที่หนึ่งไฟนรกเผา ประเภทที่หนึ่งนั้น เผาแบบไหน มีความร้อนชนิดไหน มีความร้อนประมาณเท่าไร แล้วคำว่าหลุมนรกหลุมที่หนึ่งนั้น เป็นหลุมประเภทใด ให้เห็นชัดเจนในเวลา 5 นาที แล้วก็ย้อนขึ้นดูขึ้นมานรก จนกระทั่งถึงมนุษย์เราได้ 5 นาทีแล้ว ก็ให้ดูตั้งแต่มนุษย์นี้ ขึ้นไปสวรรค์ 6 ชั้น พรหมโลก 16 ชั้น ตลอดถึงนิพพาน ให้เห็นประจักษ์ เช่นเดียวกับผ่ายชั่ว 5 นาที แล้วปิดกึ๊กเลย เหมือนกระทะครอบหัวนั้นแหละ พอปิดกึ๊กแล้ว ประหนึ่ง สะดุ้งตัว กลับฟื้นขึ้นมา เพราะตอนนั้นญาณหยั่งทราบ เปิดโอกาสให้โลกธาตุ ได้เปิดเผยหมด ให้เราเห็นตามสิ่งที่มี ที่เป็นทั้งหลายที่โลกว่า ไม่มีๆ นั่นน่ะ ให้ได้เห็นประจักษ์กับตาของเรา แต่ละดวงๆ อย่างละ 5 นาที ทั้งฝ่ายดีฝ่ายชั่ว

จากหนังสือ คำถาม-คำตอบ ปัญหาธรรม ฉบับพิมพ์ ธ.ค.2540 หน้า 277-279

ถาม ดิฉันได้ยินคนโบราณพูดว่า สวรรค์อยู่ในอกนรกอยู่ในใจ นั่นจริงไหมคะ ถ้าจริง ทำไมท่านสอนให้คนไปสวรรค์กัน แล้วจะไปหา สวรรค์ที่ไหนกันอีก เพราะสวรรค์ก็อยู่ในหัวอกคนอยู่แล้ว และที่มีว่าไว้ในตำราว่า สวรรค์นรกมีจริงไหม ถ้ามีอยู่ที่ไหน?

ตอบ พระพุทธเจ้าไม่เคยบำเพ็ญเพื่อโกหก พระองค์และสัตว์โลก แต่ทรงสร้างความดี เพื่อพระองค์และเพื่อโลกถ่ายเดียว สำหรับอาตมา ไม่มีความรู้ความสามารถ จะคัดค้านคำสั่งสอน ของพระพุทธเจ้าว่า สวรรค์นรกไม่มี

เท่าที่ปฏิบัติและไตร่ตรอง ตามหลักธรรมของท่าน เฉพาะสิ่งที่เราสามารถ ทำให้เกิดศรัทธาเชื่อมั่น ในคำสอนของท่าน ว่าเป็น "สวากขาตธรรม" ที่ตรัสไว้ชอบจริงไม่บกพร่อง จึงเกิดความเชื่อมั่นทั้งฝ่ายมรรค คือ ทางดำเนินทั้งฝ่ายผล คือความสุขเป็นเครื่องตอบแทน
ทั้งสวรรคค์เป็นชั้นๆ ตลอดถึงพรหมโลกอันเป็นที่สถิตย์อยู่ของท่านผู้มีบุญ ได้บำเพ็ญไว้แล้ว และนิพพานอันเป็นธรรมดับทุกข์ โดยสิ้นเชิ้งว่า มีจริงไม่สงสัย

แม้มองไม่เห็นสวรรค์นิพพานด้วยตาเนื้อ พอจะเชิญผู้อื่นมาดูได้ แต่ส่วนลึกของหัวใจ เป็นเรื่องที่ไม่สามารถจะเรียนได้ตามความรู้สึก
พร้อมทั้งคำถามที่คุณถามว่า ถ้ามีอยู่ที่ไหนด้วย รู้สึกเสียใจ ที่ไม่สามารถตอบสนอง ความต้องการของคุณอย่างสมบูรณ์

ทั้งนี้เพราะโลกเรา มีเฉพาะกล้องส่องทางด้านวัตถุอย่างเดียว ไม่มีกล้องส่องนามธรรม คือ สวรรค์นิพพาน จึงจนใจไม่ทราบว่า จะไป แสวงหาอะไร ที่ไหน มาส่องดูสวรรค์นิพพานให้เห็นชัด และหายสงสัยเสียที

ถ้าสมมติอาตมามีกล้องชนิดหนึ่ง โดยเฉพาะส่องดูเห็นสวรรค์นิพพานเป็นชั้นๆ ประจักษ์ใจแล้ว มาบอกคุณว่า ได้ส่องดูเห็นสวรรค์ พรหมโลก และนิพพานโดยตลอดทั่วถึงแล้ว

สวรรค์ชั้นแรกอยู่ห่างจากมนุษย์โลกขึ้นไปประมาณเท่านั้นไมล์ พรหมโลกอยู่ห่างสวรรค์ชั้นสุดท้ายขึ้นไปเท่านั้นไมล์ และพรหมโลก ชั้นหนึ่งๆ อยู่ห่างกันขึ้นไปเท่านั้นไมล์

ส่วนนิพพานอยู่ห่างจากสมมติทั้งปวงขึ้นไป ไม่มีประมาณของสมมติใดๆ จะวัดและนับอ่านได้เลยดังนี้ คุณจะแน่ใจหรือว่าเป็นความจริง
เพราะกล้องก็เฉพาะ สำหรับอาตมาเสียด้วย คนอื่นดูไม่ได้ เรื่องมันเริ่มพิศดารไปตั้งแต่กล้องอยู่แล้ว

มิหนำซ้ำ ยังมองไปเห็นสวรรค์นิพพานเข้าอีก ซึ่งโลกไม่มีใครเห็นเลย แม้แต่พวกนักอวกาศ ซึ่งเป็นนักเหยียบย่ำนอกโลก จนอวกาศ เป็นขี้ตมขี้โคลนเหลวๆ ไปหมด ก็ยังไม่พบเห็น พอได้มาประกาศให้โลกทราบ ถ้าเป็นที่น่าอยู่ ก็จะได้เริ่ม และรีบเร่งทำบุญให้ทาน เพื่อเตรียมไป สวรรค์นิพพานบ้าง

ส่วนอาตมาแอบไปเห็นสวรค์นิพพานคนเดียว ด้วยกล้องอันลึกลับ ซึ่งได้มาจากโลกไหนก็ไม่รู้ โลกไม่เคยมีกันเลย เมื่องเรื่องเป็นอย่างนี้ คุณจะคิดว่ามันเหลือเชื่อหรืออย่างไร โปรดคิดดูก็แล้วกัน

[หน้าหลัก] [หน้า1] [วิวาทะ] [สหัสวรรษ][ปุจฉา]