Twins

Chapter 2 :

 

"..........ความตายเท่านั้น คือหนทางไปสู่พระผู้เป็นเจ้า

ข้าแต่พระองค์ ผู้ทรงความรัก ขอจงโอบกอดข้าพระองค์ ไว้ในอ้อมหัตถ์

เพื่อเป็นดังของบูชา กราบกราน แด่พระนามศักดิ์สิทธิ์.... ....ด้วยน้ำตา...ที่หลั่งออกมา

ในพระนามของพระผู้ช่วยให้รอด...เอเมน...."

นับตั้งแต่ผมกลายมาเป็นผมที่ไม่ใช่ผม โอ๊ย พูดเองก็งงเอง ผมมักฝันว่าเห็นตัวเอง นั่งอยู่เดียวดายในชุดขาวที่ผมมักใส่อยู่เป็นประจำ และสวดมนต์อ้อนวอน ในบทสวดที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน ก็ไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์นี่ จะรู้ได้อย่างไร ส่วนเรื่องประหลาด ๆ ก็เกิดขึ้นเสมอ ๆ ผมก็ยังคงงุนงงกับสิ่งผิดปกติรอบกาย ทั้งพ่อที่หน้าตาไม่ใช่พ่อ ตัวผมเองในกระจก ที่มีผมยาวสีขาวโพลน ผมยังไม่แก่ขนาดมีผมหงอกทั้งหัวสะหน่อย คนรับใช้เยอะแยะ เยอะมากกว่าที่ผมจะจำหน้าได้หมด คฤหาสถ์ใหญ่ที่ผมคิดว่าทั้งชีวิตผมคงเดินไม่ทั่ว และตอนนี้ผมก็ยังเดินหลงทางอยู่

ชีวิตประจำวันของผมมีแค่ ตื่นมาทานอาหารเช้ากับตาแก่หัวล้าน ที่คิดว่าน่าจะเป็นพ่อผมในตอนนี้หล่ะนะ กลับมาอยู่ในห้องส่วนตัว ทานอาหารกลางวันที่คนรับใช้ยกมาให้ และทานอาหารเย็นที่ห้องเดิมนั่น จากนั้นก็กลับมานอน ให้ตายสิ ผมมีชีวิตซ้ำซากจำเจนี้มาสามวันแล้วนะ ตอนแรก ๆ ก็สนุกดีหรอก แต่ตอนนี้ชักจะไม่สนุกเสียแล้ว ตาแก่นั้น ได้แต่ถามว่า 'งานที่ให้ไปยังเสร็จอีกรึ?' จะเสร็จได้ยังไง ฉันอ่านออกเสียที่ไหนกัน เอกสารทั้งปึกนั้นมีแต่ภาษาอะไรก็ไม่รู้ยาวพรืด กับรูปภาพอัญมณี อีกสองสามรูป แต่รู้สึกว่า ผมคงจะทำงานช้าอยู่เสมอ ๆ พอผมส่ายหน้า เค้าก็แค่บอกว่า 'ไม่เป็นไร นายก็เป็นอย่างนี้เสมอนั่นแหล่ะ'

ไอ้ที่น่าเบื่อไม่ใช่แค่นั้นหรอก ชีวิตผมคงจะสนุกสนานมากกว่านี้ถ้าทุก ๆ วันผมไม่เจอกับเจ้าคนที่มีผมสีทองนั่น ไอ้นิสัยกวนประสาทนั่นคงได้มาตั้งแต่กำเนิด นั่น ๆๆ พูดยังไม่ทันขาดคำ โพล่มาโน้นแล้ว ทำอย่างกับรู้แหน่ะว่าทำผมกำลังนินทาอยู่ในใจ

"ว่าไง hyde งานยังไม่คืบหน้าอีกรึ?" แหน่ะ ทำเสียงเยอะเย้ยกันอีก

"อาฮะ นายนี่ใช้ไม่ได้เลยนะ นิสัยต่อต้านเป็นเด็ก ๆ เนี้ย เมื่อไหร่จะเลิกเสียที" ดูทำหน้าตาเข้าสิ ล้อเลียนฉันรึ

"ทำหน้าตาแบบนี้ใส่ฉันรึ ไม่พอใจอะไร?" เหอะ พอไม่ใจที่คุณอยู่ตรงนี้ไงละครับ ผมหล่ะอยากตอบตะคอกหน้าเจ้า tetsu กลับไปเสียจริง อ่า ที่จริงเจ้านี่ ไม่ได้ชื่อนี้หรอก แต่ผมตั้งให้เองแหล่ะ ก็ teresa ชื่อมันผู้หญิ๊งผู้หญิง ไม่เหมาะกันเจ้านี่เลย

อ่ะ เฮ่ย ทำไรนะ ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ หนอยทำอย่างกับรู้ว่าเราด่าในใจ เล่นแก้แค้นกันอย่างนี้รึ นี่ปล่อยซักทีสิ จะพาฉันไปไหนเนี้ย 'พรึ่บ!!!!' เสียงนั่นดังก้องโสตประสาท ทำเอาผมหูอื้อ มึน ๆ แห่ะ ว้าาาก อยู่ ๆ ก็ปล่อย เจ็บนะเฟ้ย ฉันยังไม่ได้ชำระความตอนนั้นเลยนะ มาเอาเฟริสคิสของฉันไปแบบนั้นนะ ถ้าไม่ได้เตะนายสักป๊าบคงนอนตายตาไม่หลับแน่

"ยังไม่หายโกรธอีกรึ งั้นฉันให้นี่เป็นการขอโทษละกัน" เจ้านั่นพูดแล้วชี้มือไปข้างหน้า อาาาา... สวยสุดยอด!!!!!

ผมมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี๊ย เนินเขาที่ไกลสุดลูกหูลูกตา เต็มไปด้วยดอกไม้สีสดใสแต่งแต้มไปทั่วทุ่งหญ้าสีเขียว เป็นทุ่งดอกไม้ที่งดงามที่สุดที่ผมเคยเห็นมา ผมคงจะมัวแต่โมโหกับเจ้านี่มากไปหน่อย จนลืมไปว่าเจ้านี่พาผมออกมานอกคฤหาสถ์ เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าว่าได้ ผมหันไปมองข้างหลัง ก็เห็นว่าเราอยู่ไกลจากตัวคฤหาสถ์มากทีเดียว ช่วงเวลาแป๊บเดียว ทำไมเราทั้งคู่ถึงมายืนอยู่ตรงนี้ได้นะ ทำไมกัน!? เหอะ ช่างมันเหอะ ดื่มด่ำกับอากาศบริสุทธิ์และลมเย็น ๆ ของที่นี่ดีกว่าเยอะเลย (คิดตื้นดีแห่ะ : ผู้แต่ง)

"เราไม่ได้มาที่นี่ด้วยกันตั้งนานแล้วนะ..." อืม ๆ แปลว่าผมเคยมาที่นี่กับเจ้านี่หลายครั้งแล้ว ผมพยายามเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุด เพราะถ้าผมรู้อะไรเกี่ยวกับตัวผมที่ไม่ใช่ผมคนนี้ได้มากเท่าไหร่ ผมอาจจะได้กลับไปที่ที่ผมอยู่ได้เร็วเท่านั้น

อ๊ะ!! นั่นผีเสื้อ สวยจัง อยากดูใกล้ ๆ จัง ผมคิดและมองผีเสื้อบินไกลออกไปอย่างเสียดาย แต่จู่ ๆ ผีเสื้อมากมายที่ไหนก็ไม่รู้ ก็ค่อย ๆ บินมาล้อมรอบผม มันน่ามหัศจรรย์และสวยงามจนผมตกตะลึง ผมหันไปมอง tetsu เจ้านั่นทำท่าเหมือนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดาเสียเหลือเกิน เอ๋ หรือว่าผีเสื้อแถวนี้จะชอบคนนะ อ๊ะนั่นกระต่ายเต็มไปหมดเลย นกก็ไม่รู้มาจากไหน สุดยอดเลยยย ผมไม่สนใจอะไรแล้วหล่ะ ขอเล่นกับเจ้าพวกนี้ดีกว่า ว้าวเจ้านี่ขนนุ่มชะมัด เพิ่งเคยจับกระต่ายตัวเป็น ๆ นี่แหล่ะ

"ฮะ ฮะ ฮาดชิ้ว~~" แปลกแห่ะ ร่างกายผมตอนนี้ก็เป็นโรคหอบเหมือนกันหรอเนี้ย แย่ชะมัด ผมต้องจำใจปล่อยเจ้ากระต่ายเสียแล้วหล่ะ

"ชอบทำแบบนี้อยู่เรื่อย เดี๋ยวก็ไม่สบายอีก" tetsu พูดกับผมด้วยสายตาที่ห่วงใย สายตานั่นทำให้หัวใจผมเต้นแปลก ๆ

"กลับกันได้แล้วหล่ะ วันนี้นายมีแขก" เขาพูดจบก็จับที่ข้อมือผมแล้วจูงนำไป เขาก้าวยาว ๆ สามก้าว

"พรึ่บ!!!" เสียงแปลก ๆ นั่นก็ดังขึ้นอีกครั้ง แล้วทัศนียภาพรอบตัวผมก็เปลี่ยนไป!!! นะ...นี่ เราอยู่ในคฤหาสถ์แล้วหรือ แค่ 3 ก้าว!!! เจ้านี่ทำเทเลโพสท์ (การเคลื่อนย้ายมวลสาร) ได้หรือเนี้ย!!!

"งง อะไรรึ นายนะแค่ก้าวเดียวก็ไปอยู่ที่ลอนดอนได้แล้ว...อ่ะ ผมต้องขอตัวก่อนครับท่าน hyde อีก 5 นาทีพบกันที่ห้องรับรองแขกนะครับ" เจ้าบ้า พูดให้ค้างคาแล้วจากไปรึ แล้วไอ้ท่าทางแบบนั้น มันหมายความว่าไงห่ะ อ๊ะ อ๋อ มีคนรับใช้เดินผ่านมานี่เอง ถึงทำท่าแปลก ๆ

ใช่แล้วหล่ะ เวลาที่ tetsu อยู่กับผมเป็นการส่วนตัว เค้าจะเป็นกันเองกับผมมากทีเดียว แต่ถ้ามีคนอื่นอยู่ด้วย โดยเฉพาะกับพ่อของผม เจ้าบ้านั่นจะทำตัวเป็นพิธีการเสียจนผมรู้สึกอึดอัดทีเดียว จากที่ผมรวบรวมข้อมูลอันน้อยนิดที่อยู่ที่นี่ tetsu คงเป็นญาติห่าง ๆ กับผม แต่คงจะมีหน้าที่อื่น ๆ ด้วย ผมคิดว่าคงเป็นเลขาของพ่อ กับเป็นผู้ดูแลผม

ผมรวบรวมข้อมูลทั้งหมดจดจำใส่หัวสมองไว้ ขณะที่เดินตามคนรับใช้ Megumi ไปห้องรับแขก ใครนะหรอ ก็คนรับใช้ประจำตัวผมนะสิ (คนที่มาปลุกผมนั่นแหล่ะ) ให้ตายเหอะ หล่อนจะมาเป็นคนรับใช้หรือว่าแม่ของผมกันแน่ เจ้ากี้เจ้าการกับผมตลอดเวลา

ในห้องรับแขก tetsu มารออยู่ก่อนแล้ว เร็วชะมัดสงสัยใช้เทเลโพสท์อีกแหง๋ คนที่นั่งอยู่บนโซฟาคือตาแก่ผู้เป็นพ่อของผม กับอีกคนหนึ่ง อา... คนอะไรเท่เป็นบ้าเลย ผมสีดำยาว ตาคมเข้ม ร่างสูงนั่นนั่งในท่าทางเป็นสง่า

"hyde นี่ท่านลอร์ด Fransur De Sanraye มีศักดิ์เป็นถึงพระมหาอุปราช ท่านมาถามถึงงานที่จ้างวานไว้ " tetsu แนะนำเขาให้ผมรู้จัก ว้าว วันนี้มีแต่เรื่องน่าตื้นเต้นทั้งนั้น นอกจากหมอ yukkie (ที่จริงชื่อ Dr.Blukin) ที่เคยมาตรวจผม คนนี้เป็นคนนอกคฤหาสถ์อีกคนที่ผมได้พบ

"สวัสดี hyde เพิ่งได้พบกันครั้งแรก แต่ชื่อเสียงของท่าน ช่างน่าชื่นชมนัก" sakura พูดพลางก้มศีรษะทักอย่างนอบน้อม (เปลี่ยนชื่อคนอื่นเค้าอีกแล้ว -_-") ผมก้มศีรษะเป็นการตอบรับ

"ทราบมาว่างานชิ้นนี้ ท่านยังไม่ได้ทำนาย ข้าพเจ้า อยากให้เร่งมือก่อนถึงวันสมโภช สำคัญยิ่ง" อ่า ตาย ๆ แล้ว คนนี้ต้องมารับงานที่ให้ไว้แน่เลย แล้วงานนี่มันคืออะไรหล่ะ ทำนาย? เจ้านี่เป็นหมอดูรึ

"ใช่แล้ว ๆ เป็นของที่ต้องใช้ในพิธิเฉลิมฉลอง ครองราชครบ 10 ปีแห่ง king Harry IV นี่นะ..." ตาแกพึมพัม ๆ

"ถูกต้องครับ เป็นของบรรณาการส่งมาจากฝรั่งเศส โดนปล้นไประหว่างเคลื่อนย้ายมา ข้าเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้ ช่างขาดตกบกพร่องในหน้าทีเสียจริง" ชายร่างสูง ทำท่าเสียอกเสียใจ

"โอ่ว... มิใช่ความผิดของท่านดอก ข้าจะเร่ง hyde ในเร็ววัน" ผมฟังคำสนทนาอย่างตั้งใจ การสนทนาผ่านไปได้เวลาพอสำควร

อ่า รู้สึกว่าเขากำลังจะกลับแล้วหล่ะ น่าเสียดายจริง ๆ คนเท่ ๆ แบบนี้ นั่งประดับอยู่ในห้องรับแขกหรูเริ่ด ช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจจริง ๆ ผมที่ยาวสลวย สะท้อนกับแสงแดด ยิ่งดูเงาวับ หน้าตาที่หยิ่งทะนง มองเชิดตรงไปข้างหน้า สะท้อนถึงความกล้าหาญ ไหล่กว้างรับกับสูทสีทำสวย เอ๊ะ นั่น อะไรแว้บ ๆ '!!?'

"ข้าพเจ้าต้องขอตัว ขอบคุณสำหรับน้ำชามื้อนี้" ร่างสูงขยับตัว

"แมวป่าแห่งดินแดนตะวันออก..." จู่ ๆ บางอย่างก็พลุดเข้ามาในสมองผม

"ท่านว่าอย่างไรนะ..." เอ๋ ทำไมทุกคนทำหน้าแปลก ๆ

"แมวป่าแห่งดินแดนตะวันออก ไร้ซึ่งผู้เป็น..." เสียงนั่นยังคงคร่ำครวญเบา ๆ

"แมวป่าแห่งดินแดนตะวันออกรึ !?!" sakura ร้องเสียงสูง อ๊ะ! เขาได้ยินเสียงในสมองผมรึ เอ๋ หรือว่า... ผมกำลังพูด อ่าว ผมไม่ได้เป็นใบ้หรอกรึ !?!

"แมวป่าแห่งดินแดนตะวันออก ไร้ซึ่งผู้เป็นเจ้าของปลอกคอ ยามจันทร์กระจ่าง แสงแห่งทับทิมส่องสะท้อน..." เออ...ผมเปล่าพูดนะ อย่ามองผมแปลก ๆ อย่างนั้นสิ !

"อะฮ่า ใช่จริง ๆ ได้ข่าวคฤหาสถ์ท่านเสนาบดี Karn เปิดต้อนรับชาวซีดาน เมื่อสองสามวันก่อน" พ่อผมพูดขึ้น

"ต้องแจ้งให้ราชสำนักทราบโดยเร็ว !" ตาแก่นั่น ทำท่าลุกลน แต่ก็โดนห้ามไว้

"ผมจัดการกับเรื่องนี้เอง ขอบคุณมาก hyde แล้วพบกันอีก" ร่างสูงนั่นพูดจบ ก็เดินออกไปพร้อมกับ tetsu ชายแก่ผู้เป็นพ่อผม หันมาผมด้วยสายตากระหยิ่มใจ

"เจ้าช่างอัจฉริยะ เหมือนแม่ของเจ้าจริง ๆ ข้าละอยากได้พลังแบบนั้นบ้าง แต่มันเป็นพลังพิเศษเฉพาะผู้มีสายเลือดนี่นะ หึหึ ทำงานได้ดี hyde" เขาพูดจบก็เดินเข้าห้องทำงานที่อยู่ติดกัน ทิ้งให้ผมยืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ในห้องเพียงลำพัง เอ๋ จริงสิ ผมรู้ได้ไงนะ ผมแค่เห็นขนแมวบนเสื้อสูทของ sakura เท่านั้นเอง...

....................

<< back | Intro | naxt >>

Co-link with nana website



By... job_ciel
:job_ciel@yahoo.com

1