วิวาทะ

กลุ่มเถาเหล่ากอของ "ปราดแห่งพุทธ"

คนอย่าง "สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล" มีดีอะไร เหตุใดคนอย่าง "บรรหาร ศิลปอาชา" เจ้าของฉายา "บุรุษ 5 สั้น" จึงให้ความไว้วางใจ ยกตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงศึกษา ธิการ ให้เข้าไปดูแลงานสำคัญถึงเพียงนี้

ตลอดระยะเวลาที่ "เสี่ยตือ" ขึ้นมาทำหน้าที่ "เสมา1" ผมพยายามทำใจให้เป็นกลาง แต่ก็ไม่สามารถทำใจยอมรับการบริหารของ "สมศักดิ์" ได้แม้แต่น้อย

จะไม่ให้ผมมีความรู้สึกอย่างนั้นได้อย่างไร ผลงานฉาวโฉ่หลายเรื่อง มันฟ้องประนามคนที่เป็นรัฐมนตรีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

ไม่ใช่เฉพาะเจาะจงแต่เรื่องกรณีวัดพระธรรมกาย หรือการควบคุมดูแลงานด้านพระศาสนา ที่คนอย่าง สมศักดิ์ แม้แต่อาราธนาศีล 5 ยังขึ้น-ลงไม่ถูก แค่ว่าตามพระยังทำปาก หมุบหมิบ

เสี่ยตือพูดเรื่องธรรมกาย ก็เห็นจะวนเวียนอยู่อย่างนั้น ซ้ำซาก สุดแสนที่จะเซ็ง เล่นนอกกฎกติกาจะหวังอะไรมากมายกันล่ะครับ จะเร่งสะสางกรณีธรรมกาย ก็ขอให้ทำตามตัวบท กฎหมาย พระธรรมวินัย ไม่ใช่เอาความรู้สึกพวกกู อาจารย์กูมาตะแบง เรื่องควรที่จะได้ข้อยุติ ก็กลายเป็นละครน้ำเน่ายืดเยื้อเท่านั้น

ตือ หมูอ่างอง คฤหาสถ์ 30 ล้านฉาวไปจัดการให้เรียบร้อยเสียก่อนไป บัญชีทรัพย์สินหนี้สินที่แสดงต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริงแห่งชาติ ยังเป็นแผลเน่าเหม็น อย่าเพิ่งเสนอหน้าตะหวัดลิ้นล้วงย่ามพระ ก้าวก่ายกิจการของสงฆ์

เพราะอีกไม่นาน พุทธศาสนิกชนเขาก็คงจะรู้กันทั่วหน้าล่ะว่า สมศักดิ์ทำหน้าที่ได้เพียงแค่ไม้กวาด ที่จะพยายามจะปัดกวาดกองขี้หมดให้พ้นจากลานวัด แต่ที่ไหนได้ ลืมนึกถึง ตัวเอง ไปหน่อย เศษมูลกากขี้หมาติดกลับไปพอกพูนเกาะติดอยู่กับไม้กวาดนั้น

นี่แหละครับรัฐมนตรีไม้กวาด

งานกระทรวงศึกษาธิการ ควรที่จะนำผู้ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เข้ามาบริหาร ไม่ใช่เก่าแต่สร้างภาพ ตะหวัดลิ้นเลียแข้งเลียขาประมุขเตี้ย

นักสร้างภาพที่พยายามจะกลบเกลื่อนแผลเน่าของตัวเอง จึงส่อแสดงงานที่ไม่เป็นมงคลแก่ชาติตระกูล ให้ประชาชนพากันสรรเสริญทุกเช้าค่ำหลังอาหาร 3 มื้อ

การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2000 หลายฝ่ายให้ความเป็นห่วงเป็นใย บรรดาเยาวชนเด็กนักเรียนจะตกเป็นทาสของการพนันฟุตบอล ในเกมค้าแข้งที่จะระเบิดศึกเร็ววันนี้

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงความห่วงใยเกรงว่า เด็กนักเรียนจะเอาเวลาไปหมกมุ่นพนันกับฟุตบอลยูโร 2000 เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาแสดงความเป็นห่วงต่อภาพการดังกล่าว

เสี่ยตือกลับปิ๊งไอเดียสั่งกรมพลศึกษาทำคู่มือชมบอลยูโร 2000 เพื่อแจกจ่ายเด็กนักเรียน ไว้ดูประกอบการแข่งขัน พร้อมพวงกุญแจของแต่ละทีมไว้ให้เด็ก ๆ สะสมไว้เป็นของที่ระลึก โดยได้กำชัยให้กรมพลศึกษาพิมพ์ข้อมูล ให้รายละเอียดในการแข่งขันทุกนัดทีเดียว

ฉิบหายปะไรกัน 

ชาวบ้านชาวเมืองเขาตื่นตัว พยายามป้องปรามไม่ให้เด็กเล่นการพนันในฟุตบอลยูโร 2000 แต่รัฐมนตรีศึกษาธิการ กลับดันทุรัง พิมพ์ตารางดูฟุตบาตแจกเด็ก

เอางบประมาณไปทำสื่อเพื่อการศึกษา หรือ พิมพ์โบชัวร์ต่อต้านการเล่นพนันฟุตบอลในสถานศึกษา ดีกว่าที่จะเอาเงินไปล้างผลาญ ทำเรื่องต่ำแฉะไม่ดีกว่ารึ

งานส่งเสริมศีลธรรมอันดีงามให้กับเยาวชน ควรที่จะช่วยกันสนับสนุน ธรรมกายจะเลวอะไรนักหนา จึงเที่ยวแต่เสนอหน้าออกข่าวตามล้างตามเช็ดสำนักแห่งนี้ ทุกเมื่อเชื่อวัน อย่างน้อยเยาวชนที่เข้าวัดพระธรรมกาย รับรองให้ตัดหัวคั่วแห้ง เยาวชนหรือเด็กเหล่านี้ ไม่เล่นการพนันอย่างแน่นอน เข้าใจไว้ด้วยเสี่ยตือ

ประเทศชาติจะอยู่อย่างไร ในเมื่อเรามีรัฐมนตรีศึกษาฯ ประเภทนี้

ส่วนไอ้วุฒิสมาชิกร่างทรง ที่ตกอยู่ในภวังค์ "คางคกขึ้นวอ" ก็ออกมาก่นด่าอริยสงฆ์ แหกปากพูดถึงพระนิพพาน ต้องไม่มีกิเลสอย่างนั้นอย่างนี้ กระบือเอ้ย สันดานบาปหยาบช้า จัญไรแมน

น้ำหน้าอย่างเอ็ง ตามหาอีก 10 ชาติ ก็ไม่เจอแก่นธรรม อย่างมากเอาแค่หางกากกระพี้กามคุณไปสนองตัณหากิเลส ให้บรรพบุรุษชาติตระกูลเอ็งพอชื่นบาน บันเทิงใจก็มากโขแล้ว

สว.คางคกขึ้นวอ วันแรก ก็แสดงความกระสันอยากจะนั่งเป็นประธาน สว. ทุเรศสิ้นดี ได้สว.แค่ 120 คน ยังเหลือ 80 คน จนถึงวันนี้ ก็ยังต้องรอผลการเลือกตั้งรอบที่สาม และไม่แน่อาจจะมีรอบที่สี่ตามมา

ไอ้ขี้เรื้อนปากเปราะ ค้นมาจากไหน หยุดเห่าหอนได้หรือยัง?

ส่วนที่วัดสวนแก้วก็เหมือนกัน ไม่ทราบว่า วันๆ เจริญไตรสิกขาไปถึงไหน พอมีข่าวใหญ่ข่าวโต ก็ตั้งตัวเป็นต้นธาตุ ต้นธรรม ออกมาร้องว่า นิพพานต้องเป็นอย่างนั้น อย่างนี้

พระพยอม อย่าเที่ยวขายตัวโง่ อวดให้ชาวบ้านเค้าได้หัวเราะเยาะกัน จะดีกว่า ครั้งที่แล้ว การันตีวิดีโอไอ้เปรตกู้ ครั้งนี้ออกมาตำหนิหลวงตามหาบัวตีแต่รัฐบาล

ได้ยินว่า ชาวบ้านแถววัดสวนแก้ว ไม่มีใครย่างกรายเข้าไปทำบุญในวัดแห่งนี้ สรุปฟังกันให้ชัด ไม่รู้ว่า วัดเลวหรือชาวบ้านแถวนั้นชั่วกันแน่ ไปหาคำตอบกันเอาเองล่ะกัน

นี่แหละกลุ่มเถาเหล่ากอ "ปราดแห่งพุทธ" คุณภาพคับแก้วทั้งนั้น ไม่ต้องพูดถึงไอ้เวรตะไล ส.ศิวลึงค์ เพราะไอ้นี่มันหมาเห่าฟ้าตัวใหญ่ที่สุด

โซตัส