หน้า 1

ตอกหน้าพระพยอม ดี๊ด๊าสวด "ธรรมกาย"

ชาวพุทธยื่นหนังสือ "สมศักดิ์" - รองนายกฯ "บัญญัติ" สั่งเอาผิดศิลปินหนุ่มลูกครึ่ง ตาน้ำข้าว หยามพุทธศาสนา ระบุมองมุมไหนก็ไม่เป็นศิลปะ เชื่อมีขบวนการอยู่เบื้องหลัง ด้าน "วิระศักดิ์" โต้พระพยอมเทศน์บอกชาวบ้าน วัดพระธรรมกายออกเหรียญรุ่นใหม่ หลอกชาวบ้าน จ้างพระเณรมางานฉลองเจดีย์ ย้ำให้ใช้สมองคิดก่อนพูด เตือนใจนึกถึงคำสนอของพระบรมศาสดา สงฆ์ที่สร้างความแตกแยกในหมู่สงฆ์จะอาบัติเช่นไร

วันที่ 9 พ.ค. ที่กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อเวลา 09.30 น. นายอดิศักดิ์ วรรณสิน ประธานชมรมชาวพุทธสากลแห่งประเทศไทย ได้เข้ายื่นหนังสือถึงนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.ศึกษาธิการ เพื่อขอให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อนายไมเคิล เชาวนาศัย ศิลปินลูกครึ่งไทยอเมริกัน ที่แต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ไทย ถ่ายภาพออกมา แสดงในงานนิทรรศ การศิลปะ ชุดมหรสพทางเทคโนโลยี ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตามที่ได้เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ได้ออกมารับ หนังสือดังกล่าวด้วยตนเอง พร้อมกับกล่าวว่า ได้รับทราบเรื่องการออกมาแสดงภาพของนายไมเคิลมาบ้างแล้ว รู้สึกดีใจที่ชมรมพุทธไม่ได้นิ่งดูดาย ช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนา นับว่า เป็นเรื่องที่เหมาะสม พร้อมทั้งรับปากว่า จะประสานงานไปยังกรมการศาสนา เพื่อเร่งให้ดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป

ต่อมา นายอดิศักดิ์ ได้เดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือให้นายบัญญัติ บรรทัดฐาน รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เพื่อสั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ดำเนินการ สืบสวน หาถึงแหล่งที่มาที่ไปของ ขบวนการที่น่าจะมีส่วนชักใยอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ โดยมี นายณรงค์ เนตรหิน รองเลขาฯ นายกเป็นผู้รับเรื่องไว้ พร้อมที่รับปากว่า จะรีบนำเสนอ ต่อนายบัญญัติในทันที

นายอดิศักดิ์ได้กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นตัวแทนของชาวพุทธทุกคนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ หลังจากได้มีการพิจารณาระหว่างสมาชิกชมรมชาวพุทธด้วยกัน รวมถึงได้ กราบ นมัสการเรียนปรึกษากับพระภิกษุสงฆ์หลาย ๆ รูปแล้ว จึงเป็นที่ตกลงให้ทางชมรม ดำเนินการทำหนังสือเข้ายื่นต่อหน่วยงานราชการ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ เพื่อขอให้ดำเนิน การ ตามกฎหมายต่อนายไมเคิล ซึ่งการแสดงออกบ่งชี้ให้เห็นถึงการละเมิดดูหมิ่นต่อศาสนาพุทธ ดูหมิ่นดูแคลนพระสงฆ์ อันเป็นสาวกของพระบรมศาสดา นอกจากนี้แล้ว ตนยัง ไม่เชื่อด้วยว่า นายไมเคิลจะกระทำการเหยียดหยามพระพุทธศาสนาครั้งนี้ ด้วยตัวคนเดียว น่าจะเชื่อได้ว่า ต้องมีขบวนการที่อยู่เบื้องหลังการกระทำในครั้งนี้ อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ คงจะสามารถติดตามผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังออกมาดำเนินคดีได้ในไม่ช้านี้

ส่วนกรณีที่พระพิศาลธรรมพาที หรือพระพยอม กัลยาโณ ประธานมูลนิธิวัดสวนแกว จ.นนทบุรี ได้กล่าวเทศนาที่โรงแรมหัวหินแกรนด์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาใจความว่า วัดพระธรรมกายได้ว่าจ้างให้พระภิกษุสงฆ์จากจังหวัดต่าง ๆเดินทางมาร่วมพิธีฉลองพระธรรมกายเจดีย์นับหมื่น ๆ รูป ซึ่งจะทำให้ศาสนาเละเทะ รวมถึง การที่วัดพระธรรมกาย ออกเหรียญรุ่นเชื่อแล้วรวยออกมาให้คนเช่าว่า เป็นการหลอกลวงประชาชนนั้น 

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นายวิระศักดิ์ ฮาดดา หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิ วัดพระธรรมกาย เปิดเผยว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่พระพยอมจะพูดต่อที่ชุมชนออกมาเช่นนั้น เพราะพระพยอม มีศีล 227 จึงไม่น่าจะละเมิดในศีลห้าอย่างแน่นอน โดยรู้ว่า การพูดปดการพูดส่อเสียด ใส่ร้ายนั้น เป็นอาบัติผิดศีลข้อมุสา จึงไม่น่าเชื่อว่า ท่านยังรักษาไม่ได้ อย่างไรก็ตาม การที่มี ข่าวออกมาทางหนังสือพิมพ์นั้น ย่อมทำให้เกิดความเสียหายขึ้นต่อภาพพจน์ของวัดพระธรรมกาย ทำให้ผู้อ่านได้เข้าใจผิดว่า วัดพระธรรมกายมีการออกวัตถุมงคล มาขายด้วย ราคาถึงเหรียญละ 3 หมื่นบาท และหากพระพยอมได้พูดออกมาอย่างนั้นจริง ตนในฐานะที่มีตำแหน่งหน้าที่หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิวัดพระธรรมกาย ก็มีความจำเป็น ต้องออกมาชี้แจงให้สาธารณชนได้รับทราบข้อเท็จจริง ว่า 

การที่พระพยอมได้พูดออกมานั้น เป็นความเท็จทั้งสิ้น วัดพระธรรมกายไม่เคยมีประวัติออกเหรียญมงคลใด ๆ มาให้ผู้คนได้เช่า หลวงพ่อธัมมชโยเองก็ไม่เคยออกเหรียญที่พระพยอม ได้กล่าวออกมานั้น ทางวัดได้สร้างขึ้นมาเป็นรูปพระพุทธรูปและรูปมหาธรรมกายเจดีย์ เพื่อแจกจ่ายเป็นที่ระลึกให้กับสาธุชนทุก ๆ คนที่เข้ามาร่วมงานฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ เมื่อวันที่ 22 เมษายน ที่ผ่านมา โดยไม่ได้มีการเรียกร้องให้ทำบุญตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ได้มีการจำหน่ายเหมือนอย่างที่พระพยอมพูดออกมาแต่อย่างใด ซึ่งทางวัดพระธรรมกาย มีพยานรู้เห็นในวันงานฉลองมากกว่า 3 แสนคน

นายวิระศักดิ์ กล่าวต่อไปได้ว่า ตามที่ทางวัดได้แจกเหรียญ เพื่อเป็นที่ระลึกนั้น ก็เพื่อให้สาธนได้ระลึกถึงการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ระลึกนึกถึงคำสอน นึกถึงธรรมะที่ได้รับไป อันจะนำ มาถึงการปฏิบัติตนให้อยู่ในศีบในธรรม อันจะนำความผาสุขมาสู่สังคมโดยรวม ซึ่งหากความจริงปรากฏว่า พระพยอมพูดเหมือนที่ปรากฏในข่าวก็นับว่า พระพยอมไม่ได้ใช้ปัญญา ตรึกตรองถึงความเป็นจริงก่อนที่จะออกมาพูด และการพูดเช่นนี้ก็ขาดความสำรวมอันถึงที่สงฆ์ ควรจะได้พิจารณาว่า หากพูดออกมาแล้ว สงฆ์ด้วยกัน จะเสียหายหรือไม่?

"วัดสวนแก้วมีหน้าที่ต่อสังคมในการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ คือรับผู้ที่พ้นโทษออกมา มาฝึกฝนอาชีพ ซึ่งเป็นส่วนดีของวัดสวนแก้ว ขณะที่วัดพระธรรมกายก็มีหน้าที่ช่วยสังคม ที่ต้นเหตุ รับคนวัยหนุ่มวัยสาว เข้ามาอบรมให้ศีลธรรมรู้จัก หิริโอตตัปปะ หรือรู้จักละอายเกรงกลัวต่อบาป ดึงคนวัยหนุ่มวัยรุ่นให้ออกห่างยากเสพติด และสถานเริงรมย์ เป็นการ ป้องกันทางหนึ่ง ซึ่งต่างก็ทำหน้าที่ให้กับสังคมเช่นกัน" นายวิระศักดิ์กล่าว

ส่วนการที่พระพยอมระบุว่า วัดพระธรรมกายจ้างให้พระภิกษุจากต่างจังหวัดหลายหมื่นรูปเดินทาง มาร่วมพิธีฉลองธรรมกายเจดีย์นั้น ถือว่า เป็นคำพูดที่ดูถูกพระสงฆ์และ พระสังฆาธิการทั่วประเทศ ซึ่งอยากจะเตือนท่านว่า ต้องไม่ลืมคำที่พระบรมศาสดาสอนไว้ว่า ภิกษุที่ทำให้สงฆ์แตกแยกนั้น จะต้องอาบัติเช่นไร ซึ่งความเป็นจริง วันดังกล่าว มีพระภิกษุสามเณร มาร่วมพิธีทั้งสิ้น 6 หมื่นกว่ารูป หากวัดพระธรรมกายต้องจ้างมา จะต้องใช้เงินเท่าใด และต้องไม่ลืมว่า พระ 6 หมื่นรูปนั้น เป็นพยานได้ว่า พระพยอมกล่าว จริงหรือเท็จ