หน้า 1

ฝรั่งตื่นตะลึง พลังพุทธใหญ่เกินคาด ที่ 2พันไร่ยังแคบ รับสาธุชนไม่พอ

ชาวพุทธฝรั่งตะลึงงานฉลองเจดีย์วัดธรรมกาย นึกไม่ถึงชาวพุทธ จะรวมตัวกันได้มากมายเช่นนี้ ที่กว่า 2 พันไร่และสิ่งก่อสร้างที่บุคคลภายนอกมองว่า ใหญ่โต กลับเล็กลงไปถนัดใจ เผยผลประโยชน์องค์กรพุทธทั่วโลก เตรียมร่วมประสานเผยแพร่ศาสนา เพื่อสร้างคนให้เป็นคนดีในโอกาสต่อไป ด้านชมรมพุทธสากล จวกกรมการศาสนาจัดสัมมนาที่พุทธมณฑล เพียงแค่หวังปลั๊ฟพระกิตติวุฑโฒเท่านั้น ระบุการสัมมนาไม่เปิดกว้างให้คนทั่วไปร่วมแสดงความคิดเห็น เตรียมยื่นเสนอ ปปช. ตรวจสอบ ใครอมเงินนิตยพัตรของพระสังฆาธิการ จนเดือดร้อนกันไปทั่ว

วันที่ 23 เมษายน 2543 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พิธีฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ครั้งที่ 1 ของวัดพระธรรมกาย สามารถจัดได้ยิ่งใหญ่ตระการตา ซึ่งได้จัดให้มีขึ้นนับตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 22 เม.ย.เป็นต้นมา จวบจนถึงภาค ค่ำโดยมีพระเถรานุเถระ พระสังฆาธิการ พระภิกษุสามเณร ชาวพุทธจากทั่วทุกภาคของประเทศมาร่วมงาน รวมแล้วมีจำนวนกว่า 5 แสนคน ทำให้สภาธรรมกายสากลที่มีพื้นที่รวมแล้วประมาณ 150 ไร่ คับแคบลงไปถนัดตา จนไม่สามารถจะรองรับต่อผู้มาร่วมงานได้ทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม หลังจากพิธีกรรมต่าง ๆ เสร็จสิ้นแล้ว พุทธศาสนิกชนบางส่วนที่นอนค้าง ณ สภาธรรมกายสากล ก็ได้ทยอยเดินทางกลับ แต่ก็ยังมีอีกเป็นจำนวนมาก ที่ยังคงพักค้าง แรม ต่อไปภายในวัดพระธรรมกาย

ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุม ชมรมพุทธศาสตร์สากล วัดพระธรรมกาย ได้มีการประชุมร่วมขององค์กรชาวพุทธระหว่างประเทศ "INTERNATIONAL BUDDHIST FORUM" ขึ้น โดยมีผู้นำองค์กรชาวพุทธและตัวแทนเข้าร่วมประชุมกว่า 10 องค์กร เช่น องค์กรยุวพุทธสัมพันธ์แห่งโลก องค์กร "CUSTOM AND BUDDHISM INTERNATIONAL BUDDHISM SRI LANKA" ผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการกัมพูชา มร.อัลเฟรโด เฟียร์ อูนิส กรรมการเวิลด์แบงก์ประจำสหประชาชาติ และสานุศิษย์จากสาขาต่าง ๆ ของท่านลามะ กังเซน เช่น จากไต้หวัน ฮ่องกง ธิเบต มาเลเซีย สวิสเซอร์แลนด์ เป็นต้น โดยมี พระภาวนาวิริยคุณ หรือ พระทัตตชีโว เป็นตัวแทนของมูลนิธิธรรมกาย ขึ้นเป็นประธานที่ประชุม

พระทัตตชีโว ได้กล่าวต่อที่ประชุมตอนหนึ่งว่า วัดพระธรรมกายได้มีกิจกรรมส่งเสริม และเผยแพร่ พระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่องนานตลอดมา รวมถึงการจัดให้มีการเรียนการสอน พระปริยัติธรรมให้แก่พระภิกษุสามเณรและฆราวาส

นอกจากนี้ยังได้สอนธรรมะให้แก่พุทธศาสนิกชนทั่วไป วัดพระธรรมกายได้ศึกษาค้นคว้าศึกษาพระธรรมกาย อันเป็นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากพระไตรปิฎก เอามาสอน จึงนับว่า เป็นคำสอน ของพระบรมศาสดาโดยแท้จริง นอกจากนี้ พระทัตตชีโว ประธานที่ประชุม ยังได้กล่าวถึงปัญหาต่าง ๆ ตามที่ได้เกิดขึ้นแก่วงการพระพุทธศาสนา ในเมือง ไทยอีกด้วย

การประชุมครั้งนี้ องค์กรชาวพุทธจากประเทศต่าง ๆ ที่เข้าร่วมประชุม จะได้กล่าวถึงกิจกรรมการดำเนินงานทางพระพุทธศาสนาของแต่ละองค์กร รวมถึงความร่วมมือระหว่างกัน ในการส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และการร่วมมือระหว่างกัน ในการเข้าช่วยแก้ปัญหาในแต่ละองค์กรของแต่ละประเทศที่ประสบปัญหา

มร.อัลเฟรโด้ เฟียร์ ดูนิส ได้กล่าวว่า ตนไมได้เป็นชาวพุทธโดยตรง แต่ได้เข้ามาศึกษาธรรมะ และศึกษาด้านการนั่งสมาธิมาเป็นเวลานาน โดยส่วนตัวแล้ว ตนมีความเคารพใน พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในฐานะที่ตนเป็นนักเศรษฐศาสตร์ และนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รู้สึกมีความตื่นเต้นที่ได้มีโอกาสมาพบเห็นชาวพุทธในประเทศไทย และเข้ามาปฏิบัติธรรม รวมทั้งได้มาร่วมงานฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ ซึ่งตนไม่เคยพบเห็นชาวพุทธที่ใด เข้ามาร่วมพิธีกันได้มากเหมือนกับที่วัดพระธรรมกายแห่งนี้ ตนเห็นว่า วันคุ้มครองโบก คือวันที่มนุษย์ทุกคนควรจะคิด และทำให้สิ่งแวดล้อมต่าง ๆของโลก ดีขึ้น มลภาวะที่เกิดขึ้นและเป็นภัยต่อชีวิตมนุษย์ทุกวันนี้ ได้เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ทั้งสิ้น และจะฆ่าชีวิตมนุษย์เองในที่สุด

เมื่อตนได้มาร่วมพิธีฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ ตนไม่ได้มองไปที่วัตถุ แต่มองเห็นว่า มหาธรรมกายเจดีย์ คือ ศูนย์รวมของชาวพุทธที่ปฏิบัติธรรม ฉะนั้น การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ของโลก หากได้เกิดจากภายในกายก่อน ก็จะส่งผลให้เกิดการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดีต่อโลกได้ อันจะนำมาซึ่งสันติสุขแห่งโลกต่อไป

จากกรณีที่กรมการศาสนาจะจัดให้มีการประชุมพระสังฆาธิการขึ้นที่พุทธมณฑล ในระหว่างวันที่ 24-26 เม.ย.นี้ ทางชมรมพุทธศาสน์สากลแห่งประเทศไทย นายวุฒิชัย รัตนสูรย์ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของชมรม ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า เป็นการจัดเพื่อลดความน่าเชื่อถือของพระเทพกิตติปัญญาคุณ หรือพระกิตติวุฑโฒ ตามที่ท่านได้เคยจัดขึ้น มา ก่อนแล้ว ซึ่งมีพระสังฆาธิการจากทั่วประเทศเข้ามาร่วมประชุมสัมมนาถึง 4 พันกว่ารูป ซึ่งพระกิตติวุฑโฒ ก็ได้กราบเรียนเชิญพระเถระชั้นผู้ใหญ่ และเจ้าหน้าที่ของกรมการศาสนา มา เข้าร่วมประชุมด้วย แต่กลับไม่มีผู้ใดให้ความสำคัญ มาเข้าร่วมประชุม

นอกจากนี้ ยังส่งเจ้าหน้าที่ของกรมการศาสนา เข้ามาสอดส่องติดตามความเคลื่อนไหวอยู่แต่ภายนอกเท่านั้น การจัดให้มีการประชุมพระสังฆาธิการคราวนี้ ตนเห็นว่า ไม่เป็น ความชอบธรรม เป็นการจัดที่สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน อันเป็นภาษีของราษฎรโดยเปล่าประโยชน์ เพราะเป็นการจัดประชุมเฉพาะกลุ่มเท่านั้น ถ้าจะให้เกิดประโยชน์ที่แท้จริง และหากเห็นแก่พระพุทธศาสนาจริง ๆ แล้ว ควรจะเปิดกว้างให้ประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมประชุมด้วย และยอมรับฟังความคิดเห็นจากหลาย ๆ ฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรียก กฎหมายสงฆ์ หรือ พระราชบัญญัติอุปถัมภ์ และคุ้มครองพระพุทธศาสนาที่กำลังเป็นปัญหากันอยู่ขณะนี้

นายวุฒิชัย ยังกล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับบทบาทของชมรมชาวพุทธ ในระยะต่อไป ก็จะให้การสนับสนุนให้มีการต่อตั้งคณะทำงานยกร่างกฎหมายสงฆ์ โดยให้คณะพระสังฆาธิการ ได้มีส่วนร่วมในการร่างโดยแท้จริง ไม่ใช่ฆราวาสหรือนักกฎหมายที่ไม่ใช่พระภิกษุสงฆ์ร่างกันขึ้นมาบังคับใช้กับพระสงฆ์ เหมือนเช่นที่ผ่านมา ซึ่งฆราวาสคงไม่มีความรู้ใน เรื่อง พระธรรมวินัยได้ดีเท่าพระสงฆ์ และเมื่อครั้งที่มีการสัมมนาคณะพระสังฆาธิการที่จิตตภาวันวิทยาลัย ก้ได้มีการให้พระสังฆาธิการได้มีโอกาสยื่นหนังสือร้องทุกข์ ในจำนวนกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ได้มีการร้องขอให้คณะกรรมการจัดสัมมนา ได้ทวงถามถึงเงินนิสยพัตรที่พระสังฆาธิการยังไม่ได้รับ มาเป็นเวลานานกว่า 6 ปีมาแล้ว เนื่องจากระบบการทำงานเบิกจ่าย ของกรมการศาสนา ได้ทำงานกันอย่างล่าช้า ทำให้พระสังฆาธิการได้รับความเดือดร้อนตลอดมา

ในเรื่องนี้ ทางชมรมชาวพุทธสากลฯ ในฐานะผู้ร่วมจัดสัมมนา จำเป็นจะต้องรับผิดชอบในการติดตามเร่งรัดให้ โดยจะทำการติดต่อสอบถามไปยังผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ ของกรม การศาสนา ให้ดำเนินการเสียให้ถูกต้อง และเป็นธรรมต่อพระสังฆาธิการ ถ้าหากยังไม่สามารถแก้ปัญหานี้ต่อไปได้ ตนก็จะเข้ายื่นหนังสือ ต่อ ป.ป.ช. ให้ทำการตรวจสอบ ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในส่วนนี้ต่อไป