หน้า 1

ยกวันวิสาขะ วันสำคัญโลก

สหประชาชาติ ประกาศให้วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญของโลก และให้เป็นวันหยุดประจำปีของยูเอ็น ด้านความเคลื่อนไหวในวงการพุทธศาสนาชมรมพุทธสากลอาสา จัดสัมมนา ให้ความรู้กับพระสังฆาธิการทั่วประเทศ ตั้งเป้าในปี 2543 จะจัดไม่น้อยกว่า 50 แห่งทั่วประเทศ ส่วนมหาเดวิทย์ เรียกร้องให้พระกิตติวุฑโฒ จัดสัมมนาอีกครั้งก่อนเข้าพรรษา ยืนยันองค์กรยุวสงฆ์ พร้อมเคลื่อนไหวทุกแนวทาง เพื่อความมั่นคงของพุทธศาสนา

นายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์ รองอธิบดีกรมการศาสนา เปิดเผยกภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ว่า จากการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ครั้งที่ 54 เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2542 มีมติเห็นชอบให้วันวิสาขาบูชาเป็นวันสำคัญสากลของสหประชาชาติ เนื่องจากพิจารณาเห็นว่า วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญของพุทธศาสนิกทั่วโลก เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติตรัสรู้ และเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน อีกทั้งคำสอนของพระพุทธเจ้าทำให้มวลชนมีความเมตตาธรรม และขันติธรรมต่อเพื่อนมนุษย์ ทำให้เกิด สันติสุขในสังคม ซึ่งเป็นแนวทางของสหประชาชาติ ดังนั้นยูเอ็นจึงได้ประกาศให้วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญของยูเอ็น และเป็นวันหยุดราชการของทุกปี

กรมการศาสนาได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมมส. เพื่อรับทราบ ซึ่งที่ประชุมได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการโดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เจ้าอาวาส วัดสระเกศ เป็นประธาน และมีพระเถระจากฝ่ายมหานิกาย ธรรมยุต ซึ่งประกอบด้วย เจ้าคณะใหญ่ทั้ง 4 หน ร่วมเป็นกรรมการ รวมทั้งอธิบดีกรมการศาสนา ทั้งนี้จะมีการประชุม ในวันจันทร์ที่ 24 เม.ย.นี้ว่า จะให้ทุกวัดจัดกิจกรรมที่สำคัญอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตาม จะนำเสนอผลการประชุมดังกล่าวต่อนายกรัฐมนตรีทราบ และกราบทูลต่อสมเด็จ พระสังฆราช

นายวุฒิชัย รัตนสูรย์ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของชมรมชาวพุทธสากลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากที่ได้ประสานงานไปยังพระเทพกิตติปัญญาคุณ (กิตติวุฑโฒ) ถึงความ ต่อเนื่องจากงานสัมมนาพระสังฆาธิการครั้งที่ผ่านมาว่า ทางชมรมได้รับมอบหมายให้เป็นฝ่ายสรรหาวิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่าง ๆและผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายสงฆ์ เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเดินทางไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ในทุกภาค เพื่อไปให้ความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของพระพุทธศาสนา ความรู้เรื่องกฎหมายสงฆ์ และระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการปกครองสงฆ์ ซึ่งพระสงฆ์ทั่วทุกภาค ควรจะได้รับความรู้เหล่านี้ได้ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน

เพื่อไม่ให้เกิดความเดือดร้อนในการที่จะพระสังฆาธิการ จะต้องเดินทางมาเข้ารับการสัมมนาในครั้งสำคัญ อย่างเช่น ที่จิตตภาวันจัดขึ้นมานั้น ทางชมรมฯ จะเป็นผู้ดำเนินการ จัดหาวิทยากร เดินทางไปยังสถานที่ที่พระสังฆาธิการ ได้จัดให้มีการประชุมคณะสงฆ์ขึ้นในทุกแห่งทุกภาค ตามเป้าหมายที่ชมรมฯ ได้วางไว้ ในปี 2543 นี้ จะเดินทางไปยัง ที่ประชุมสงฆ์ต่างจังหวัดประมาณ 50 แห่ง และจะทำอย่างต่อเนื่องไปตลอดทั้งปี

โดยชมรมจะติดตามความคิดเห็นของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในเขต จ.อ่างทอง ศรีสะเกษ และสงขลา เพื่อนำไปให้ความรู้แก่คณะสงฆ์ และพระสังฆาธิการ ทั่วทั้งสังฆมณฑล ได้รับรู้ว่า ในซีกของรัฐบาลหรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้น เขาต้องการอะไร และจะกำหนดให้กฎหมายสงฆ์ฉบับใหม่ ที่ได้ร่างไว้แล้วนั้น ออกมาอย่างไร

ส่วนพระมหาเดวิทย์ ยสสีภิกขุ กล่าวว่า อยากจะให้พระกิตติวุฑโฒ จัดสัมมนาในช่วงก่อนออกพรรษา เพราะหากเข้าพรรษาแล้ว พระสงฆ์จะเดินทางไปพักแรมนอกวัด จะเป็น การลำบาก ในทางพระวินัย ซึ่งในเรื่องนี้จะเข้ากราบนมัสการปรึกษากับหลวงพ่อกิตติวุฑโฒอีกครั้ง ทุกวันนี้ ก็ยังมีพระสังฆาธิการ ติดต่อเข้ามาหา ไม่ขาดระยะ เท่าที่ประทับใจก็มี พระสังฆาธิการ รูปหนึ่ง ทางตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ท่านมีอายุมากแล้ว ได้กล่าวว่า จะให้อาตมาไปไหนมาไหนด้วย คงจะลำบาก เพราะสังขารไม่อำนวย แต่อาตมา จะให้ พระลูกวัด เข้าร่วมเคลื่อนไหวด้วย กับองค์กรยุวสงฆ์ทุกกรณี เพราะอาตมาเห็นชอบกับแนวทางการออกมาปกป้องพระพุทธศาสนา โดยไม่เห็นแก่ลาภยศ และสิ่งตอบแทนใด ๆ ของคณะองค์กรยุวสงฆ์

พระมหาเดวิทย์ ยังได้กล่าวต่อไปว่า การที่พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ธัมมชโย) วัดพระธรรมกาย ได้เกิดปัญหาขึ้นมานั้น ถ้าเป็นเรื่องของส่วนตัวแล้ว ก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย เพราะ อาตมาและคณะองค์กรยุวสงฆ์ มีเจตนาทำงาน เพื่อพระพุทธศาสนาโดยรวม ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ในทุก ๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ทางพระพุทธศาสนาแล้ว คณะองค์กรยุวสงฆ์ มีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน ที่จะเข้าไปเกี่ยวข้อง และช่วยแก้ปัญหาในทันที เพราะองค์กรยุวสงฆ์มีแนวร่วมที่ชำนาญการในทุก ๆ ด้าน นับแต่พระเถระที่มีอายุ 70-80 พรรษา ไปจนถึงสามเณร