หน้า 1

ติงพระสุเมธาภรณ์ ไม่น่ารื้อนิคหกรรม จบไปตั้งแต่ยกฟ้อง

ศิษย์ธรรมกายตั้งข้อสังเกต ทำไมถึงมีการรื้อฟื้นนิคหกรรมขึ้นมาอีก ติง พระสุเมธาภรณ์ เซ็นชื่อยกฟ้องไปแล้ว ไม่น่ากลับคำ เจ้าตัวยืนยัน ยังไม่เรียกพระธัมมชโย พระทัตตชีโว เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ลงความเห็นฆราวาสฟ้องพระไม่ได้ ทำได้แค่กล่าวหาเท่านั้น เผยพระพรหมโมลีเพิ่งแวะมาฉันเพล

ผู้สื่อข่าวรายงานจากวัดมูลจินดาราม อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ว่า เมื่อวันที่ 4 มี.ค. เวลา 14.00 น. พระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เปิยเผยว่า กรณีนิคหกรรม พระธัมมชโย และพระทัตตชีโว ที่ได้สิ้นสุดไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2542 แต่เนื่องจากมหาเถรสมาคม ได้ลงความเห็นว่า การพิจารณาของคณะผู้พิจารณา ยังไม่สอดคล้อง กับกฎนิคหกรรม จึงมีมติให้ดำเนินเสียใหม่ 

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ยังไม่ได้ทำการเรียกพระธัมมชโยและพระทัตตชีโว ให้เข้ามาพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่นั้น ยังบอกไม่ได้

พระสุเมธาภรณ์กล่าวต่อไปว่า เมื่อครั้งที่ผ่านมา ได้เรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งได้มีหนังสือเรียกให้เข้าพบ แต่พระทั้ง 2 รูป ไม่ได้มา ซึ่งถือว่า ไม่ถูกต้อง เพราะในสายตา การปกครอง เมื่อเรียกก็ต้องเข้ามา ส่วนจะผิดหรือถูกตามคำกล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหา ความรับหรือปฏิเสธไปตามระเบียบ ถ้าพระทั้ง 2 รูป รับว่า อวดอ้างว่าสำเร็จนิพพาน หรือมีอภินิหารสำเร็จฌานชั้นใด ๆ ถ้าไม่ได้เป็นไปตามนั้น ก็จะต้องอาบัติปาราชิกเท่านั้น แต่ถ้าสำเร็จจริง แล้วมาบอกให้ผู้อื่นรู้ ก็จะต้องอาบัติปาจิตตี และการที่สอนพุทธบริษัท ให้ผิดเพี้ยน ไปจากพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ถ้ารับก็จะมีความผิด เพียงอาบัติปาจิตตีย์เช่นกัน ซึ่งไม่ได้ร้ายแรงอะไร

ส่วนเรื่องคฤหัสถ์กล่าวหาพระภิกษุว่า กระทำผิดละเมิดพระธรรมวินัยนั้น ไม่ใช่เป็นการฟ้องพระ ฆราวาสฟ้องพระไม่ได้ แต่กล่าวหาได้ เพราะฆราวาสไม่ได้เป็นผู้เสียหายโดยตรง

"การพิจารณากฎนิคหกรรมที่ผ่านมา เพียงแต่มีผู้กล่าวหาและได้เรียกให้เข้าพบ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเท่านั้น ยังไม่ได้มีการพิจารณาในความผิดตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด จึงเรียกได้ว่า ยังไม่มีการพิจารณา ส่วนท่านเจ้าคุณพระพรหมโมลี ได้ด่วนสรุปให้มีอันสิ้นสุดไปก่อนนั้น จึงยังไม่ถูกต้อง แต่ถ้าจะเรียกให้ดีหน่อย ก็เรียกว่า ยังไม่สอดคล้อง เมื่อเพล ที่ผ่านมา ท่านเจ้าคุณพระพรหมโมลี ได้มาฉันเพลด้วยกันที่วัดนี้ ท่านก็ไม่ได้กล่าวว่าอะไรเกี่ยวกับเรื่องนิคหกรรม"

สำหรับกรณีที่มีพระจากวัดในจังหวัดต่าง ๆ เข้ามายื่นหนังสือคัดค้านการถอดถอนตำแหน่งเจ้าคณะภาค 1 ของพระพรหมโมลีนั้น พระสุเมธาภรณ์ได้กล่าวตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า เรื่องที่มีพระไปยื่นหนังสือขอคัดค้านต่อมส. นั้น ในส่วนของจังหวัดปทุมธานี ยังไม่ได้รับรายงานว่า มีพระวัดไหนไปยื่นหนังสือคัดค้านดังกล่าว และยังไม่มีคำสั่งห้ามปราบ ต่อพระภายใต้การปกครองแต่อย่างใด

ทางด้านวัดพระธรรมกาย ซึ่งถูกกล่าวหาว่า มีส่วนรู้เห็นกับพระต่างๆ ที่เข้ามาคัดค้านการถอดถอนตำแหน่งเจ้าคณะภาค 1 ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ มูลนิธิธรรมกาย ได้ให้ความ เห็นว่า พระพรหมโมลี ท่านเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาจุฬาลงกรณ์ ราชวิทยาลัย มานานหลายปี ท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย กระจายกันอยู่ทั่วไปหลายจังหวัด เมื่อเขาเห็นว่า ท่านไม่ควรที่จะถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง ก็อาจมีบ้างเป็นธรรมดา ที่ลูกศิษย์จะมายื่นหนังสือต่อมหาเถรสมาคม ทางวัดพระธรรมกาย ขอปฏิเสธว่า ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นด้วย แต่อย่างใด