โดย : โอฬาร สุขเกษม 8 มีนาคม 2544
ทาลีบันทำลายพระพุทธรูป

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2544 ข่าวต่างประเทศที่ทำให้ผมตกตะลึงก็คือ ข่าวว่า กลุ่มทาลีบันประกาศจะทำลายพระพุทธรูปเก่าแก่โบราณ ที่อยู่คู่กับประเทศอัฟกานิสถานมายาวนาน ถึง 2,000 กว่าปีทิ้ง คำประกาศที่ว่านี้ออกมาเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี่เอง

ผมคาดไม่ถึงว่า กลุ่มอุดมการณ์ทางการเมืองอย่างทาลีบัน จะคิดทำลายมรดกทางวัฒนธรรมของโลกทิ้ง แม้ผมจะรู้อยู่เต็มอกว่า กลุ่มนี้เป็นมุสลิมก็ตามที ผมก็คาดไม่ถึงว่า จะทำอย่างที่ว่า เพราะในโลกสมัยปัจจุบันไม่มีใครคิดจะทำเช่นนี้ หรือ แม้แต่ในอดีต คนมุสลิมก็ไม่นิยมทำเช่นนี้เช่นกัน

ราวเดือนเมษายน 2536 ผมเดินทางไปเยือนแหลมไซไน ประเทศอียิปต์ ไปตะรอนๆ ที่เมืองทาบา และพื้นที่ใกล้เคียง มีหุบเขาแห่งหนึ่งอยู่ห่างจากเมื่อท่าทาบาไปประมาณ 200 กิโลเมตร หุบเขาอยู่ท่ามกลางทะเลทราย และหุบเขาแห่งนี้ถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของโลก เพราะเป็นบริเวณที่โมเสสศาสดาองค์แรกของชาวคริสต์ รับพระบัญญัติ 10 ประกาศจากพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งขณะไปเยือนนั้น ต้นมะกอกสถานปรากฎกายของพระผู้เป็นเจ้า ยังสืบเชื้อพันธุ์มาจนถึงทุกวันนี้

หุบเขาดังกล่าวอยู่ในพื้นที่สูง เราจะไต่ระดับสูงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว และบริเวณหุบเขาจริงๆ ไม่กว้างเท่าใดนัก ประมาณสัก ไม่เกินหนึ่งสนามฟุตบอล โดยรอบเป็นโขด ผาหิน ชัน บริเวณตอนกลาง มีวัดหรือโบสถ์คริสต์ศาสนาอยู่หนึ่งแห่ง โบสถ์แห่งนี้มีชื่อว่า เซนต์ แคตเธอรีน ผมสอบถามพระนิกายออธอดอกซ์ (ผิวพรรณผ่องใสใบหน้าน่าเลื่อมใสวัยกลางคน) อยู่หลายคำถาม และไม่ลืมที่จะถามถึงสถานภาพของโบสถ์คริสต์ท่ามกลางการปกครองของชาวมุสลิมว่าเป็นอย่างไร พระท่านบอกว่า ที่นี่มีบันทึกเก่าแก่ และปรากฎข้อความชัดเจนว่า โบสถ์แห่งนี้จะคงอยู่สถาพรต่อไป เพราะได้มีโองการจากผู้นำศาสนาอิสลามยุคสงคราครูเสตได้ประกาศไว้ว่า ห้ามชนชาวใด ศาสนาใด ทำลายโบสถ์แห่งนี้

ดังนั้น โบสถ ์และพระชาวคริสต์อยู่คู่วัดแห่งนี้มาทุกยุคทุกสมัย และผ่านสงครามครูเสตที่ยืดเยื้อถึง 300 ปีมาได้ สงครามศาสนาระหว่างชาวคริสต์กับมุสลิม ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อโบสถ์แห่งนี้แม้แต่น้อย ภายในโบสถ์นอกจากจะมีโบราณวัตถุมากมายแล้ว ยังอุดมไปด้วยบันทึกประวัติศาสตร์โลกด้วย แผนที่การเดินเรือที่นี่มีมากมาย รวมถึงเรื่องราวการปกครองสมัยโบราณ วัดได้เก็บเอกสารไว้มากมายนับพันนับหมื่นชิ้น และวิเศษสุดตรงที่ เอกสารสิ่งเหล่านี้ พร้อมเสมอที่จะให้ผู้คนจากทั่วโลกมาสืบค้นหรือมาค้นคว้า เพราะเขาถือว่าเป็นมรดกของชาวโลกครับ

นายมัลลาห์ โมฮัมเหม็ด โอมาร์ ผู้นำกลุ่มทาลีบันประกาศว่า การมีรูปเคารพในแผ่นดินอัฟกานิสถาน ถือว่าเป็นการดูหมิ่นต่อศาสนาอิสลาม ฉะนั้นจะทำลายให้สิ้นซากเสีย และไม่เพียงแต่จะสั่งทำลายพระพุทธรูปทิ้งเท่านั้น เมื่อกลางสัปดาห์( 7 มีนาคม 2544) กลุ่มทาลีบันยังได้ทำลาย วัตถุโบราณพุทธศาสนาที่มีอยู่ในพิพิธภัณฑ์กรุงคาบูลทิ้งด้วย

ประเทศอัฟกานิสถาน มีเขตแดนด้านเหนือติดกับประเทศเติร์กเมนิสถาน ประเทศอุซเบกิสถาน ประเทศทาจิกิสถาน(สหภาพโซเวียตเดิมทั้ง 3 ประเทศ) ด้านตะวันออกติดประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และ(ตะวันออกและภาคใต้)ปากีสถาน ตะวันตกติดกับประเทศอิหร่าน ปัจจุบันสารบรรณโลกทางภูมิศาสตร์ ถือว่า ประเทศอัฟกานิสถาน เป็นประเทศอยู่ในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ หรือกลุ่มเดียวกันกับอิหร่าน ตุรกี เยเมน โอมาน ฯลฯ

คาบูล เป็นเมืองหลวงของประเทศ ห่างจากนครหลวงไปราว 150 กิโลเมตรเป็นที่ตั้งของเมืองบามิยัน เมืองนี้เป็นที่ตั้งพระพุทธรูปยืนที่สูงที่สุดในโลก(บันทึกโลกว่ากันอย่างนี้ ความจริงในจีนน่าจะสูงกว่า)และมีอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปีมาแล้ว พระพุทธรูปองค์ใหญ่มีความสูง 53 เมตร องค์ย่อมลงมามีขนาดสูง 37 เมตร พระพุทธรูปดังกล่าวสร้างโดยการเจาะภูเขาสลักเสลาเป็นพระพุทธรูป

(อ่านต่อคลิ๊กที่นี่ >

 

 

 

 

1