กลอนประวัติศาสตร์ชาติไทย ( หน้า ๒ )
 
.
 
ครั้นสมัยพีล่อโก๊ะเหมือนฟ้าเปิด น่านเจ้าเกิดหนสองครองทรัพย์สิน
เป็นปึกแผ่นแน่นแฟ้นด้าวแดนดิน หัวเมืองสิ้นคืนมาอาณาไกล
ผลัดแผ่นดินเหมือนสิ้นถิ่นที่อยู่ มองโกลรู้ขู่ไทยใจหวั่นไหว
กุบไลข่านข่านใหญ่ได้ชัยไป ด้วยอาศัยเจรจามิพาที
หัวเมืองยกปกครองสนองตน ทุกแห่งหนทนยอมถนอมศรี
จวบสิ้นวงศ์มองโกลโจรไพรี ทั่วธานีดีใจไทกลับคืน
เชื้อวงศ์หมิงชิงใหญ่ได้สำเร็จ ทรงเผด็จเสร็จศึกผนึกผืน
รวบน่านเจ้าท้าวสิ้นไร้ถิ่นยืน ไทยสะอื้นคืนอำนาจชาติมลาย
.
@ ขอย้อนเล่าเผ่าไทยในตำนาน
พงศาวดารล้านช้างสางสืบสาย
ลางทีเห็นเป็นเค้าเราทำนาย ปู่กับยายเล่ามาชั่วตาปี
แลสมัยดินเป็นหญ้าฟ้าเป็นแถน เมื่อคราวแคว้นแดนภพจบแดนผี
เที่ยวไปมาหาสู่กันได้ดี คนกับผีไมตรีมีต่อกัน
คนเป็นใหญ่ไพรภพมีสามขุน แต่ไร้บุญบารมีชีวีผัน
อยู่เมืองลุ่มคุมไทยไปวันวัน มิรู้ปันของดีบัตรพลีนา
แถนฝากสั่งฟังกูสูทั้งหลาย กินข้าวงายสายเย็นให้เซ่นสา
ยามกินเนื้อเถือเนื้อเผื่อแบ่งมา ยามกินปลาหาส่งอย่าโกงกิน
บอกสองหนสามหนจนเป็นเหตุ เกิดอาเพศน้ำมาท่วมนาสิน
ท่วมเมืองลุ่มท่วมปางล้างมลทิน ล้างโลกสิ้นล้างแผ่นดินถิ่นเมืองคน
ปู่ลางเซิงขุนคานแลขุนเหล็ก ทั้งเมียเด็กเล็กแก่ขึ้นแพขน
ลอยเหนือน้ำตามซัดพัดแรงชล ลอยขึ้นบนจนถึงฟ้านภาแมน
พญาแถนแสร้งถามตามท้องเรื่อง เหตุใดเมืองน้ำหลากลำบากแสน
ใยสูเจ้าเฝ้ากูผู้ต่างแดน บอกมาแถนจะฟังเสียงสั่งความ
ครั้นได้ฟังดังรู้อยู่แก่ใจ แล้วแจงนัยไขแจ้งที่แสร้งถาม
เกิดอาเพศเหตุภัยเพราะไม่งาม บ่ทำตามจึงเป็นเช่นนั้นแล
.
   
 
.
 
1