สหัสวรรษที่ 3

สัญญาณเตือนภัยปีสิ้นยุค สู่สหัสวรรษใหม่ สันติสุขโลก

ปีนี้เป็นปีแห่งสัญญาณเตือนภัยจากฟ้าดิน มหันตภัยที่คร่าชีวิตมนุษย์ทั่วโลก อย่างน่าสยดสยอง แม้กระทั่งขณะที่นอนหลับอย่างเป็นสุขอยู่ในบ้าน ฉับพลันฟ้าก็ร่วง แผ่นดินถล่ม ตึกทั้งตึกหายไปในพริบตา ทั่วทุกหนแห่งเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง และเสียงร้องครวญคราง

ที่ไต้หวัน แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุด ที่ตะลึงกันไปทั่วโลก ภาพตึกที่ล้มทั้งยืน การค้นหาผู้รอดชีวิตที่ถูกฝังทั้งเป็น ได้ยินแต่เสียงจนหมดลม ก่อนหน้านั้นคือ ธรณีพิโรธที่ตุรกี คนตายเจ็บนับหมื่น เป็นวันพินาศของโลก ของชาวตุรกี ชนชาติที่รบเก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ อาณาจักรออตโตมานที่ยิ่งใหญ่ แม้ฝรั่งยังกลัวแต่บาปมาตกกับชนรุ่นหลัง ที่รับเคราะห์อย่างสาหัสที่สุด

และอีกไม่กี่อาทิตย์ต่อมา ประเทศที่ติดกัน และเป็นไม้เบื่อไม้เมา แย่งชิงดินแดนกันมาตลอด คือกรีซ ก็โดนแผ่นดินไหว ตายเจ็บยับไม่แพ้กัน ทำให้สองชาติ กลับกลายมาเป็น กัลยาณมิตรช่วยส่งหน่วยกู้ภัยไปช่วยอีกฝ่ายหนึ่ง ทำให้ซึ้งน้ำใจกันขึ้นมา หลังจากแย่งเกาะแถวนั้นกันมานาน

สัปดาห์ที่แล้ว มหาวาตะภัยก็กวาดประเทศเม็กซิโก ชนิดรุนแรงที่สุด เมืองทั้งเมืองราบเรียบ คนตายสยดสยอง เป็นวันโลกาวินาศที่น่าสลดใจ ของชาวเม็กซิกัน จนวันนี้ การช่วยเหลือ ผู้บาดเจ็บก็ยังกระทำกันไม่หยุด

ครับ 1999 ปีโลกาวินาศที่คำทำนายจำนวนมาก กล่าวถึงมหันตภัยแห่งปีนี้ไว้อย่างน่ากลัว จนหลายคนเข้าใจผิด ว่าจะเป็นวาระสุดท้ายของโลก เพราะแม้แต่นอสตราดามุส ก็ยังกล่าวถึงปี 1999 ว่า จะเป็นปีแห่งคำพิพากษา วันล้างโลกที่จะเกิดสงครามนิวเคลียร์ล้างโลก ล้างคนบาปให้หมดโลกไปถึงสองในสาม

แต่จนถึงวันนี้ เหลืออีกเพียง 3 เดือน ก็จะสิ้นปี ก็ยังไม่มีวี่แววแห่งสงครามดังกล่าว แม้คำทำนายที่ระบุว่า เดือน 7 แห่งปี 1999 ชัดเจน แต่วันนี้ก็ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว ไม่มีอะไร

ประเทศไทยโชคดีที่สุด เพราะปีนี้เป็นปีที่อากาศสดใส แต่สิ่งที่ประเทศไทยประสพกลับกลายเป็นสงครามเศรษฐกิจ ที่ประเทศยากจนลงในฉับพลับ จากการบริหารผิดพลาด ของ นักการเมืองที่รับลูกต่อๆ กันมา และพยายามอ้างว่า เป็นภัยจากเศรษฐกิจโลก

ณ วันนี้ ทุกประเทศเขาฟื้นกันเรียบร้อย เหลือแต่เมืองไทยยังบักโกรก ยังหาหนทางแก้ไขไม่ฟื้น ประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า เพราะเหมือนไฟไหม้ประเทศครั้งใหญ่ แม้แต่ เศรษฐีเก่าเจ้าสัวทั้งหลาย ก็สิ้นเนื้อประดาตัว นี่ไม่ต้องพูดถึงคนจนที่จนตลอดชาติ จนอย่างถาวรอยู่แล้ว

แต่ที่น่าเป็นห่วงหนักสุดคือ ไฟบาปที่เผาผลาญเป็นไฟสุมขอน ซ่อนไปทุกวงการผู้มีอำนาจ ไฟแห่งศีลธรรมที่ตกต่ำที่สุด ที่เผาผลาญจิตใจคนไทย ส่วนหนึ่งให้กลายเป็น คนใจดำ อำมหิต คิดเห็นแก่ตัว เห็นแก่พวกพ้อง เป็นสังคมแห่งการทำลายล้างฝ่ายตรงข้าม สื่อมวลชนกลายเป็นอำนาจใหม่ ที่ลุกขึ้นจับดาบ จับปากกา เข้าประหัตประหารกัน ไม่เว้นแม้แต่ พระสงฆ์องค์เจ้า

ปีแห่งคามสิ้นหวังของชาติ ปีแห่งอาการหมดบุญของผู้บริหารประเทศ ที่ทำผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะไม่เพียงแต่ไม่เพิ่มบารมีแห่งการทำความดี แต่ยังพลิกดวงตัวเอง ให้ตกต่อ ด้วยการทำบาปเพิ่มขึ้น ไม่คำนึงหน้าอินทร์หน้าพรหม

ก็ดีเหมือนกันครับ ปีแห่งการถอนรากถอนโคน ใครมีความชั่วอะไร อยากจะแสดงก็แสดงมาเสียให้หมด ตัวแสดงเอกมีกี่ตัว ตอนนี้เปิดเผยตัวมาหมด ผมคิดว่า เป็นปีเริงร่าของฝ่ายดำ ที่สามารถเข้าควบคุมอำนาจเบ็ดเสร็จ แต่เหลืออีกเพียง 3 เดือนเท่านั้น ก็จะหมดปีสิ้นยุคแล้ว

เพราะสหัสวรรษใหม่ จะเป็นปีเริ่มต้นแห่งสันติภาพหนึ่งพันปี ยุคที่คนบาปจะอ่อนแรง และคนดีจะมีกำลังแข็งแรงขึ้น คนชั่วกำลังจะถูกเปลี่ยนตัวให้หมดพลังไป และคนดียุคใหม่ จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำแทน

ในคำทำนายของชาวคริสต์ บทหนึ่งกล่าวว่า ซาตานจะถูกขังไว้เป็นเวลาหนึ่งพันปี นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นไป นอสตราดามุสกล่าวว่า จะเป็นหนึ่งพันปีแห่งสันติภาพ ของโลก มนุษย์ หนึ่งพันปีแห่งภูมิปัญญาใหม่ ยุคที่ศาสนาและวิทยาศาสตร์จะเดินมาพบกัน

จะมีการเปลี่ยนแปลงในวงการศาสนาครั้งใหญ่ ศาสนาใหญ่ดั้งเดิมที่มีอิทธิพลต่อโลกมานับพันปี จะมีอันเป็นไป จะเกิดศรัทธาใหม่ เกิดแนวความคิดใหม่ ในวงการทำให้ศาสนา ทั้งหลายเชื่อมเข้าหากัน ศาสนาที่ยึดถือความเชื่อดั้งเดิม ความเชื่อที่ไม่มีเหตุผล อธิบายคนรุ่นใหม่ไม่ได้ ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ สอดคล้องกับธรรมชาติ และสัจธรรม จะถูกปรับตัว อย่างรุนแรง

ที่ผมเขียนมานี้ ผมมิได้ทำนายเองนะครับ ผมอ่านมาจากนักคิดนักเขียนฝรั่ง รวมถึงพ็อตเก็ตบุคส์ เกี่ยวกับคำทำนายทายทักของโลก แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือ คำทำนายของ นอสตราดามุส ที่ศ.เจริญ วรรธนะสิน แปลและเรียบเรียงไว้ดังนี้

"โลกจะมีผู้นำศาสดาคนใหม่ เผยโฉมหน้าออกมาให้โลกเห็น ช่วงกลางศตวรรษที่ 20 เป็นบุคคลที่มาจากทวีปเอเซีย เป็นสาวกขององค์เทพที่ยิ่งใหญ่

ชื่อของท่านผู้นี้ จะมีความหมายเกี่ยวกับ "พระจันทร์" หรือ "ดวงจันทร์" ร่างอยู่ในสีเพลิง มือถือแขนงไม้ นั่งวิปัสสนากรรมฐานจนสำเร็จ เห็นสัจธรรมในคืนพระจันทร์เต็มดวง จนเห็นภาพในดวงจิต เหล่าสาวกจะนำท่านไปสู่ความเป็นอมตะ หล่อรูปของท่านเป็นทองคำ"

ครับ โลกในสหัสวรรษใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่คนทั้งโลกกำลังเตรียมการฉลองกันเต็มที่ ในคืนส่งท้ายสหัสวรรษเก่า รับสหัสวรรษใหม่ 1 มกราคม ปี 2000 นี้ ที่อังกฤษ มิลเลนเนียมโดม มูลค่า 50,000 ล้านบาท จะเสร็จทันพอดี

ที่เมืองไทยมหาธรรมกายเจดีย์ แห่งพระพุทธรูปสีทอง หนึ่งล้านองค์ สถาปัตยกรรมมหัศจรรย์ อันงดงามยิ่งใหญ่ ผลงานคนไทยยุคนี้ ที่จะยืนยงหนึ่งพันปี เพื่อบูชาพระรัตนตรัย จะเสร็จทันวันมาฆบูชา 19 กุมภาพันธ์ สหัสวรรษใหม่ เจดีย์แห่งสันติสุขของโลก อนุสาวรีย์แห่งการสร้างคนดีของมนุษยชาติ ที่จะเป็นมรดกแห่งชาติไทย ที่จะสร้างชื่อเมืองไทย ให้ดังไปทั้งโลก

เพราะกระแสสื่อเมืองไทยในปีนี้ ช่วยโหมปูทางให้ดังที่สุดมาตลอดปี

กาขาว