ปีที่ 2 ฉบับที่ 734 ประจำวันจันทร์ที่ 19 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2542

เฉาะทีละฉึก

สำนึกบุญคุณข้าวก้นบาตร คำถามที่รอคำตอบจาก "ชวน"

ทฤษฎีการ "ล้มล้าง" ระบบแนวคิดและศรัทธาขององค์กรใดๆ ที่ดีที่สุด คือ การวางแผนส่งคนแฝงกายเข้าไปในองค์กรนั้น ๆ เพื่อค่อยๆ ปรับเปลี่ยนทำลาย และล้มล้างระบบ แนวคิดและศรัทธานั้นๆ ให้ค่อยๆ สลายในที่สุด

หากองค์กรนั้น ๆ ยิ่งใหญ่ และเกี่ยวพันกับศรัทธาของคนหมู่มาก จำเป็นจะต้องงัดกลยุทธ์อื่นเสริมประกอบกัน เพื่อให้เป้าหมายในการทำลายล้าง เกิดประสิทธิภาพ และประสิทธิผล สูงสุด ภายในเงื่อนไขเวลาที่สั้นที่สุด

ทฤษฎีการ "ล้มล้าง" ที่ว่านี้ ไม่จำเป็นว่า จะต้องจำกัดตัวเองเฉพาะองค์กรในซีกการเมือง หรือการศาสนาเท่านั้น หากแต่ยังรวมถึงการทำลายล้างศรัทธา ที่กลุ่มคนหนึ่ง จะพึงมีต่อ บุคคลหนึ่งอีกด้วย

การวางแผนอย่างเป็นระบบ จะถูกผลักดันและขับเคลื่อน ด้วยอำนาจเงินตรา และคอนเน็กชั่น เพื่อให้เป้าหมายนั้นๆ เกิดการขยายผล ในลักษณะของแตกตัวแบบไม่มีที่สิ้นสุด หรือ ที่เรียกว่า "ปฏิกิริยานิวเคลียร์"

ขณะที่ยุทะการ "ล้มล้าง" เริ่มเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ อีกด้านหนึ่งของความพยายาม ก็จะรุกเร้าเข้าครอบงำองค์กร หรือหน่วยงานที่ทรงอิทธิพล ต่อการชี้นำสังคม โดยเฉพาะองค์กร ด้านการสื่อสารมวลชน

สถานีโทรทัศน์บางช่อง สำนักข่าวบางแห่ง หรือแม้แต่องค์กรด้านสื่อสิ่งพิมพ์บางค่าย จึงเป็นหัวหอกต้นๆ ในการจู่โจม คุกคาม และครอบงำ เพื่อเสริมฐานในการแต่งเติม "จิ๊กซอร์" ตัวท้ายๆ ให้บรรลุตามเป้าหมาย

เราจึงมักจะเห็นสายสัมพันธ์ของกลุ่มคนในวงการสื่อสารมวลชนบางกลุ่ม ที่ร่วมกันกระทำการในลักษณะที่ผิดแผกไปจากบทบาทของ "ฐานันดร 4" โดยเฉพาะ จรรยาบรรณและ ความรับผิดชอบ ต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ในสังคม

บทบาทที่ผิดแผก เริ่มตั้งแต่ส่งคนของตนเข้าไปในเวทีแห่งอำนาจรัฐต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเมือง ราชการ ทหาร ตำรวจ หรือแม้แต่หน่วยงานในสังกัดอำนาจนิติบัญญัติ

เพื่อปูฐานและสร้างเครือข่ายรองรับเป้าหมายสูงสุดขององค์กรอุบาทว์ ที่มี "นายใหญ่" คอยเป็น "แบ็คอัพ" แบบไม่เผยตัวอยู่เบื้องหลัง

ภาพการ "เต้าข่าว" หรือสร้างประเด็นบิดเบือนจึงเกิดขึ้นตามมา เพื่อให้สังคมเกิดความคลางแคลงใจ ต่อองค์กรที่ตกเป็น "เหยื่อ" เพื่อ้างความชอบธรรม ในการทำลายล้าง ได้โดย สะดวก

จุดนี้ต่างหากที่คนในสังคม ควรตระหนักให้จงมาก เพราะนี้คือการทำลายล้างที่แยบยลที่สุด ทำลายล้างแบบถอนรากถอนโคน ชนิดไม่หลงเหลือคุณงามความดีใด ๆ จารึกไว้ให้ อนุชนรุ่นหลัง ให้ศึกษาและจดจำ

กรณีพระธัมมชโยและวัดพระธรรมกายนั้น ถือเป็นเป้าหมายแห่งการล้งล้างระดับกลาง เพื่อนำไปสู่เป้าหมายสูงสุดขององค์กรอุบาทว์ที่ว่านี้ ซึ่งบัดนี้ สามารถครอบงำในเชิงการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม จนแทบหมดจะสิ้น

จึงไม่แปลกอะไร หากนักการเมืองบางพรรค และข้าราชการบางคน จะจับมือกับสถานีโทรทัศน์บางช่อง สำนักข่าวบางแห่ง หรือแม้แต่องค์กรด้านสื่อสิ่งพิพิมพ์บางค่าย เพื่อรวมหัวรุม กระหน่ำ พระธัมมชโยและวัดพระธรรมกาย ให้สิ้นซากในที่สุด

เพราะหากเป้าหมายระดับกลางไม่ลุล่วงแล้ว ก็อย่าหวังเลยว่า เป้าหมายสูงสุดจะสำเร็จโดยง่าย

จึงมีคำถามไปถึงผู้นำรัฐบาล นักการเมือง ข้าราชการ นักวิชาการ องค์กรต่างๆ และประชาชนในสังคม ที่บางคนก็ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่า ตัวเองได้ตกเป็น "เหยื่อ" ขององค์อุบาทว์แห่งนี้ ต่อกรณีวิกฤติศรัทธาที่เกิดความพระพุทธศาสนา ที่เกิดขึ้นครั้งร้ายแรงที่สุด แห่งประวัติศาสตร์ เกือบพันปีของไทยนั้น จะมีทางออกใดที่ดีที่สุด ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

ถึงวันนี้ พระพุทธศาสนา ได้รับความบอบช้ำ จากการบิดเบือนขององค์กร ที่มีอิทธิพลต่อการชี้นำสังคม ภายใต้การเกื้อหนุนของลูกสมุนองค์กรอุบาทว์ ที่ดำเนินกลยุทธ์เชิงรุก อย่าง หนักหน่วงตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา

สำนึกแห่งบุญคุณของ "ข้าวก้นบาตร" ที่ได้กิน เมื่อครั้งยึดก้นกุฏิ เป็นถิ่นพำนักอาศัยครั้งอดีต จะมีคุณค่าเพียงพอต่อจะปลุกจิตสำนึกแห่ง ความรับผิดชอบต่อสถาบันหลัก 1 ใน 3 ของชาติได้หรือไม่

คงมีเพียงนายกรัฐมนตรี ที่ชื่อ "ชวน หลีกชัย" เท่านั้น ที่จะสามารถให้คำตอบนี้ได้

ชัยพร

[หน้าหลัก] [หน้า1][วิวาทะ][ปุจฉา][พิเศษ]

1