ปีที่ 2 ฉบับที่ 718 ประจำวันศุกร์ที่ 2 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2542

วิวาทะ

พระราชธรรมนิเทศพูดถึงเงิน - พระพยอมว่าไม่เคยเรี่ยไร>

เมื่อต้นสัปดาห์เปิดทีวีช่อง 9 เห็นรายการธรรมะยามเช้า มี พระราชธรรมนิเทศ หรือ ที่รู้จักกันในนาม (มหาระแบบ) รองเจ้าอาวาสวัดบวรฯ เลขาธิการ ศูนย์ส่งเสริม พระพุทธศาสนา แห่งประเทศไทย แสดงธรรมเทศนา สาระสำคัญถึง ความเป็นอยู่รอด ของสงฆ์ไทย และการรับเงินบริจาค เป็นทรัพย์สินส่วนตน

ฟังแล้วได้ประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง จึงขออนุญาตนำมาขยายให้ชาวพุทธ และพระภิกษุสงฆ์   ได้นำไปเป็นแนวทาง ในการปฏิบัติต่อ พระสงฆ์ไทย เพื่อความเข้าใจยิ่งๆ ขึ้น

พระราชธรรมนิเทศ ท่านเป็นพระเถระผู้เชี่ยวชาญ ด้านการเผยแผ่ธรรมะ ท่านมีงานเขียนมากมาย อีกบทบาทหนึ่ง นอกเหนือไปจาก งานเผยแผ่ธรรมะแล้ว ท่านยังเป็นผู้ที่ศึกษา มองเห็นภัยนอกศาสนา

และได้ลงมือปฏิบัติการตอบโต้ศาสนาอื่น ที่จ้องจะบ่อนทำลายพระศาสนา มาเป็นระยะเวลายาวนาน ดังปรากฏอยู่ในหนังสือ ที่ท่านลิขิตเขียนไว้หลายเล่มด้วยกัน

การพูดถึงสถานการณ์ร้อนแรงทางพระศาสนา ในห้วงเวลานี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ใครจะทำตัวเป็นปราชญ์ ระบุฟันธงลงไปเลยว่า ใครผิดใครถูก โดยเฉพาะฆราวาส

ผู้ที่ไม่มีความเข้าใจพระศาสนาอย่างแท้จริง แต่ก็อยากมีส่วนร่วม ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ศาสนา ด่าพระภิกษุชั่วหยาบตามสื่อ

บาปกรรมมีจริง นรกสวรรค์ มีจริง อย่างสงสัย ลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้า ต้องมองโลกด้วยเมตตาธรรม ไม่ใช่ออกมากล่าวหากัน เอาเป็นเอาตาย สังคมเราบอบช้ำมามากแล้ว หยุดดันทุรัง เดินตามกระแสผู้อื่น โดยไม่เคารพ ภูมิปัญญาตนเอง ก่อนที่ทุกอย่างจะสาย

ท่านเจ้าคุณพูดถึงกรณีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินให้กับพระภิกษุ เป็นการส่วนตัวนั้น ผิดต่อพระธรรมวินัยหรือไม่ และควรที่จะต้องมีการออกกฎระเบียบ หรือข้อห้าม ในการรับบริจาค เป็นการส่วนตัวหรือไม่?

เจ้าคุณราชธรรมนิเทศ ยืนยันว่า การที่พระภิกษุรับเงินจากผู้มีจิตศรัทธา บริจาคเก็บไว้ในนามของพระรูปนั้นๆ

ไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไร เพราะไม่ใช่การบีบบังคับ หรือฉ้อโกงใคร ต้องเข้าใจด้วยว่า พระมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้เงินเพื่อเผยแผ่ พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แต่ไม่ได้ หมายความว่า ให้พระสะสมเป็นสมบัติของตนเอง

อย่างรายการของท่าน ที่ออกแพร่ภาพทางช่อง 9 ขณะนี้ ก็หวั่นๆ อยู่เหมือนกัน หากไม่มีเงินแล้ว จะดำเนินรายการต่อไปได้หรือไม่

ยิ่งช่วงที่มีการโจมตีพุทธศาสนาจากศาสนาอื่น ท่านก็จัดพิมพ์หนังสือออกมาปกป้อง พระพุทธศาสนาอย่างเต็มแรง ผลที่ตามมา ก็คือ ค่าใช้จ่ายในการจัดพิมพ์ เป็นเงิน จำนวนมาก พอสมควร

นอกเหนือจากหนังสือดังกล่าวแล้ว ท่านยังพูดถึงผลงานหนังสือ ที่เกี่ยวกับการเผยแผ่ ธรรมะหลายเล่ม พิมพ์ออกมา ก็มีญาติโยมมาขอเอาไป แจกจ่ายตามวัด หรือในโอกาสสำคัญๆ

ตรงนี้ มีค่าใช้จ่ายเห็นๆ อยู่แล้ว

ถ้าพระไม่มีเงินจะทำอย่างไร?

ท่านเจ้าคุณยืนยันอย่างหนักแน่นว่า เงินที่บริจาคเป็นการส่วนตัว สามารถนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อเผยแผ่พระศาสนา ยังมีความจำเป็นอยู่มาก

เห็นกันชัดๆ อย่างหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ท่านก็รับบริจาคเป็นเงินจากญาติโยม ไม่อย่างนั้น ท่านจะเอาเงินไปสร้างโรงพยาบาล สร้างโรงเรียน สร้างประโยชน์ ให้ประชาชน ได้อย่างไร

ถ้าท่านไม่มีเงินส่วนตัวจากการบริจาค หลวงพ่อคูณจะเอาเงินที่ไหน มาทำประโยชน์ให้กับสังคม ได้มากมายมหาศาลเพียงนั้น

ขอกราบนมัสการ พระคุณเจ้าพระะราชธรรมนิเทศ ที่ชี้ทางสว่างให้แก่พุทธบริษัท ได้เข้าใจมา ณ โอกาสนี้ด้วย

ผิดกลับพระบางรูป ที่แสดงธรรมโปรดสัตว์ มีเนื้อหา มีความต้องการให้เกิดความแตกแยก

ศีล 5 ข้อ ก็ไม่อาจรักษาได้ตลอดรอดฝั่ง ท่านอาจจะกล่าวมุสาวาจากับผู้คนมากมายในสังคมได้ แต่ท่านไม่อาจมุสาวาจากับตัวท่าน ได้อย่างแน่นอน

พระพิศาลธรรมวาที หรือพระพยอม แน่ใจหรือว่า ศีล 227 ข้อ ของท่าน ไม่ด่างพร้อย เอาง่ายๆ ศีล 5 ข้อ มุสาวาท

พระพยอมยืนยันต่อสาธารณชนมาโดยตลอดว่า ทั้งเรื่องเงินมูลนิธิเพื่อนเสรี ไม่ใช่การเรี่ยไร และไม่เคยหลงไหลได้ปลื้มกับลาภสักการะ

ที่ท่านพูดว่า ไม่เคยเรี่ยไรนั้น เท็จจริงเป็นอย่างไร?

แล้วกระบอกไม้ไผ่โครงการสำรอกกิเลส ตัณหา ราคีคาวอะไรนั้น ถ้าไม่เรียกว่า เป็นการเรี่ยไร แล้วจะเรียกว่าอะไร

ท่านยืนยันมาตลอดว่า ตนเองเป็นขาวบริสุทธิ์ผุดผ่อง รู้เรื่องพระนิพพานว่า เป็นอนัตตา ตามก้นพระธรรมปิฎก ท่านอย่านึกว่า ผู้ที่เขามีภูมิรู้ภูมิธรรมจับท่านไม่ได้

เรื่องของจิต ละเอียดอ่อนเกินกว่าปุถุชนคนธรรมดา จะสัมผัสและเข้าใจได้

แต่ผู้ที่ฝึกจิตดีแล้ว ย่อมไม่ข้อง ไม่สงสัยใดๆ เกี่ยวกับพระนิพพาน

พระพยอมตำหนิติเตียน นินทาโจทก์พระรูปอื่น เลว ชั่ว นั้น สะท้อนให้เห็นถึงก้นบึ้งของหัวใจท่าน ว่า มีความคิดอย่างไร มีอารมณ์อย่างไร และมีเมตตาธรรมเพียงใด เข้าใจหลัก พระศาสนา มากน้อยเพียงใด

ท่านโจมตีว่า ผู้อื่น โดยที่ไม่เคยพิจารณาตนเองหรือไม่

ผู้ที่จะเป็นแบบอย่างผู้อื่นนั้น ต้องสำเร็จซึ่งประโยชน์แห่งตนแล้ว จึงยังประโยชน์เผื่อแผ่ไปยังผู้อื่น

พระพยอมต่อต้านพุทธพาณิชน์ ตามกระแส ว่ากล่าวพระวัดอื่นเก่งทางขายตรง ทำการค้า ไม่ใช่กิจของสงฆ์ แล้วที่วัดสวนแก้ว มีการค้าแรงงาน มีโรงงานอุตสาหกรรม มีผู้คนเข้าไป หวังเก็งกำไร จากธุรกิจภายในวัด

ซ้ำยังเป็นวัดแห่งแรกในประเทศไทย ที่มีซูเปอร์มาเก็ต ขนาดใหญ่อยู่ภายในวัด

พฤติกรรมอย่างนี้ เป็นกิจของสงฆ์หรือ?

ปากพูดว่า ไม่เรี่ยไร แต่มีคนส่งข่าวมาถึงผมว่า พระพิศาลธรรมวาที หรือ พระพยอม เดินสายเรี่ยไร ข้ามทวีปไปถึงอเมริกา ขอเงินบริจาคจากบริษัทพุทธะขิโน ฮิล อเมริกา โน้น ไม่ใช่การเรี่ยไรหรือ?

โซตัส

[หน้าหลัก] [วิวาทะ][ปุจฉา]

1