ปีที่ 2 ฉบับที่ 645 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2542
ปุจฉา-วิสัชนา
บิดเบือนรายการ "ชิตัง เม"
เรียน คอลัมน์ "ไอ้ทิด"
รายการตามหาแก่นธรรม เมื่อ 4/4/42 ของด๊อกเตอร์เจิม ได้ชงเรื่องให้เปิดประเด็นว่า ในวันที่ 22 เม.ย.นี้ จะมีพญานาคปรากฏตัว ที่วัดพระะรรมกายให้ไปกันมากๆ
ผมเป็นแฟนรายการ "ชิตังเม" ของ "แม่คำหล้า" คลื่น AM1053 เวลา 10.00 - 11.00 น. ในความเป็นจริง "แม่คำหล้า" ออกอากาศ ในรายการว่า
"การทำความดี จะมีผู้อนุโมทนาบุญ เช่น มนุษย์ เทวดา พญานาค" ยกตัวอย่างวันตอกเสาเข็มธรรมกายเจดีย์ มีคนมามาก ความปลื้มปีติ ในบุญ ก็มีมาก
ในวันที่ 22 เม.ย.นี้ จะมีพระเณรมากันเป็นจำนวนมาก สาธุชนมาก ย่อมมีผู้โมทนาบุญ ทั้งผู้ที่เราเห็น คือ คน และไม่เห็นคือ เทวดา พญานาคทั้งหลาย
แต่หนังสือพิมพ์นำข่าวไปลงว่า ในวันที่ 22 เม.ย. นี้ จะมีพญานาคมาปรากฏ และรายการตามหาแก่นธรรม ได้นำใจความที่ทั้งรู้ว่า บิดเบือน มาโจมตีอีก ทำให้ผู้จัดรายการ อาจหมดกำลังใจในการให้กำลังใจแก่คนทำดี
ผมขอให้กำลังใจผู้จัดรายการ "ชิตังเม" ว่า ขอให้มีความอดทน อดกลั้นต่อคำพูดถากถาง ส่อเสียด ของผู้ที่ต่ำกว่าเรา (ผู้จัดรายการไม่มีศีล ครบชัดเจน คือ โกหก)
ถ้าเราทนได้ พระพุทธเจ้าสรรเสริญว่า เป็นผู้มีความอดทนดุจเดียวกับพระบรมโพธิสัตว์ เพราะอดทนต่อถ้อยคำผู้ที่สูงกว่า (เช่นพระ ที่ท่านมีศีลมากกว่า) หรือผู้ที่ศักดิ์เสมอกัน นั่นก็คือมีความอดทน แต่ถ้าทนผู้ที่ต่ำกว่าเราได้ ถือว่ามีความอดทนยิ่งยวด
นับถือ
แฟนรายการ "ชิตังเม"
"ไอ้ทิด" เป็นงงอยู่ตั้งนานว่า ข่าวพญานาคจะมาปรากฏตัว พันรอบธรรมกายเจดีย์นั้น มาจากไหน ใครเป็นคนปล่อยข่าว พอได้อ่านแฟกซ์ ของ "แฟนรายการชิตังเม" เลยร้องอ๋อขึ้นมาทันทีเลยว่า เอาอีกแล้ว สื่อมวลชนมันมั่วนิ่ม หาประเด็นตีกันอีกรอบ สงสัยใกล้จะหมดมุขเต็มทน เลยเอาเรื่องไม่เป็นสาระ มาประโคมข่าว เพื่อให้วัดพระธรรมกายเสียหาย
เวรกรรมมีจริง ใครบิดเบือนใส่ร้ายผู้บริสุทธิ์ ไม่นานหรอกครับ เขาก็จะได้รับกรรมสนอง คิดแล้วน่ากลัวเหมือนกัน ยังไงละก็ท่านลุง พญายม กรุณาลงโทษให้เบากว่าปกติหน่อย เพราะเขาทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
กรรมกล่าวร้ายผู้บริสุทธิ์
เรียน "ไอ้ทิด"
ช่วยกรุณาหาธรรมะที่เกี่ยวกับการกล่าวร้ายผู้บริสุทธิ์ มาลงให้อ่านกันบ้าง เผื่อพวกที่กล่าวร้ายป้ายสีผู้อื่น จะได้สติ ไม่ต้องไปชดใช้กรรม ในนรก ผมติดตามอ่าน "พิมพ์ไทย" มาประมาณ 2 เดือนแล้ว เห็นมีการพัฒนาขึ้นมาโดยตลอด แต่ตอนนี้ตัวอักษรยังผิดอยู่มาก ช่วยกรุณาแก้ไข ให้ด้วย จะได้เป็นหนังสือคุณภาพดีที่สุดของเมืองไทยต่อไป
ผมขอแสดงความคิดเห็นบ้าง การที่สื่อมวลชนโจมตีวัดพระธรรมกายนั้น ถ้าจะให้ผมเดา น่าจะเป็นเพราะเหตุปลายประการดังนี้
1. มีพระขี้อิจฉา เป็นเหตุ เห็นวัดพระธรรมกายดีกว่า เจริญรุ่งเรืองกว่า เลยอิจฉาริษยา
2. มีฆราวาสขี้อิจฉา เป็นเหตุ เห็นวัดพระธรรมกาย ร่ำรวย ก็เลยหมั่นไส้ ตั้งข้อหาต่างๆ นานา
3. สื่อมวลชนเห็น "อัตรา" เป็นใหญ่ เป็นเหตุ สื่อมวลชนประเภทหนึ่ง ต้องการขายหนังสือให้มาก เลยโจมตีวัดพระธรรมกาย และมีสื่อมวลชน อีกประเภทหนึ่ง ที่เข้าไปขอเงินวัด แล้วไม่ได้สมประสงค์ ก็เลยออกอาการพาล
"ไอ้ทิด" เห็นเหมือนผมหรือเปล่า?
ทิดเขียว
เรื่องที่คุณ "ทิดเขียว" วิเคราะห์เหตุโจมตีวัดพระธรรมกายนั้น "ไอ้ทิด" ก็รู้สึกเห็นด้วยเช่นเดียวกันครับ
ส่วนเรื่องธรรมะที่เกี่ยวกับการกล่าวหาผู้บริสุทธิ์นั้น "ไอ้ทิด" ขอคัดจากพระไตรปิฎกก็แล้วกัน
สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาค ประทับนั่งอยู่บนพื้นหิน ใกล้สระอโนดาต ในครั้งนั้นพระผู้มีพระภาคได้ตรสชี้แจง บุรพกรรมทั้งหลาย ของ พระองค์ ณ ที่นั้นว่า
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟังกรรมที่เราทำแล้วในกาลก่อน เราเห็นภิกษุผู้ถืออยู่ป่าเป็นวัตรรูปหนึ่ง แล้วได้ถวายผ้าเก่า เราปรารถนา เป็นพระพุทธเจ้าครั้งแรก ผลแห่งกรรมคือการถวายผ้าเก่า ย่อมอำนวยผลต่อเนื่อง ให้เป็นพระพุทธเจ้าในที่สุด
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในชาติอื่นกาลก่อน เราเป็นนักเลงชื่อ ปุนาลิ ได้กล่าวตู่พระปัจเจกพุทธเจ้า ชื่อว่า สุรภี ผู้ไม่ทำร้าย ด้วยวิบากแห่ง กรรม นั้น เราท่องเที่ยวอยู่ในนรกเป็นเวลานาน ได้เสวยทุกขเวทนาแสนสาหัส หลายพันปีเป็นอันมาก ด้วยผลกรรมอันเหลือนั้น ในภพหลังสุดนี้ เราจึง ได้คำกล่าวตู่เพราะเหตุแห่ง นางสุนทริยกา
และเพราะเรากล่าวตู่พระเถระ นามว่า สันนทะ สาวกของพระพุทธเจ้า ผู้ครอบงำอันตรายทั้งปวง เราจึงท่องเที่ยวอยู่ในนรกสิ้นกาลนาน เราท่องเที่ยวอยู่ในนรก เป็นเวลานานถึงหมื่นปี ได้ความเป็นมนุษย์แล้ว ได้ถูกกล่าวตู่เป็นอันมาก ด้วยผลกรรมที่เหลือนั้น นางจิญมานวิกา มากับ หมู่ชน ได้กล่าวตู่เรา ด้วยคำอันไม่เป็นจริง
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในกาลก่อน เราเป็นพราหมณ์ชื่อ สุตวา อันชนทั้งหลายสักการะบูชา สอนมนต์ให้กับมาณพประมาณ 500 คน ในป่าใหญ่ ก็เราได้เห็นฤาษีผู้น่ากลัว ได้อภิญญา 5 มีฤทธิ์มาก มาในสำนักของเรา เราจึงกล่าวตู่ฤาษีผู้ไม่ทำร้าย โดยได้บอกกับศิษย์เราว่า ฤาษีพวกนี้ มักบริโภคกาม แม้เมื่อเราบอกพวกมาณฑก็เชื่อฟัง
ครั้นมานพทั้งปวงเที่ยวไปในสกุล พากันบอกแก่มหาชนว่า ฤาษีผู้นี้มักบริโภคกาม ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น ภิกษุ 500 องค์เหล่านี้ ได้รับคำกล่าวตู่ทั้งหมด
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในกาลก่อนเราได้ฆ่าพี่นองชายต่างมารดา เพราะเหตุแห่งทรัพย์ จับโยนลงในซอกเขา แล้วจับทุ่มทับด้วยหิน ด้วยเศษ วิบากแห่งกรรมนั้น พระเทวทัต จึงผลักก้อนหิน กลิ้งมากระทบนิ้วแม่เท้า ของเราจนห้อเลือด
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในกาลก่อนเราเป็นเด็ก เล่นอยู่ที่หนทางใหญ่ เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้า แล้วสุมไฟดักไว้ทั่วหนทาง ด้วยวิบากกรรมนั้น ในภพหลังสุดนี้ พระเทวทัต จึงชักชวนนายขมังธนู ผู้ฆ่าคนตายมาเพื่อให้ฆ่าเรา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในกาลก่อน เราชื่อว่า โชติปาละ ได้กล่าวกะพระสุคตเจ้า พระนามว่า กัสสปะ ในกาลนั้นว่า โพธิญาณ เป็นสิ่งที่ได้ยาก ท่านจะไปได้จากใต้ต้นไม้ที่ไหนกัน ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น เราได้ประพฤติทุกขกิริยา ที่ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ตลอด 6 ปี เราอันบุรพกรรม ตักเตือนแล้ว จึงแสวงหาโพธิญาณ โดยทางที่ผิด จากนั้น จึงได้บรรลุโพธิญาณ
บัดนี้ เราเป็นผู้สิ้นบุญและบาป เว้นจากความเร่าร้อนทั้งปวง ไม่มีความเศร้าโศก ไม่คับแค้น เป็นผู้ไม่มีอาสวะ จักนิพพาน"
กรรมกล่าวโทษพระอริยะ
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุใดด่าบริภาษเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย กล่าวโทษพระอริยะ ภิกษุนั้นจะพึงถึงความฉิบหาย 10 อย่าง อย่างใด อย่างหนึ่ง ข้อนี้มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาสที่เป็นได้ ความฉิบหาย 10 อย่างเป็นไฉน คือ
1. ภิกษุนั้นจะไม่บรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ
2. เสื่อมจากธรรมที่บรรลุแล้ว
3.สัทธรรมของภิกษุนั้นย่อมไม่ผ่องแผ้ว
4. เป็นผู้หลงคิดว่าตนบรรลุสัทธรรมทั้งหลาย
5. เป็นผู้ไม่ยินดีในการประพฤติพรหมจรรย์
6. ต้องอาบัติเศร้าหมองอย่างใดอย่างหนึ่ง
7. ย่อมถูกโรคอย่างหนัก
8. ถึงความเป็นบ้า มีจิตฟุ้งซ่าน
9. เป็นผู้หลงทำกาละ
10. เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุใดด่าบริภาษเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย กล่าวโทษพระอริยะ ภิกษุนั้นจะพึงถึงความฉิบหาย 10 อย่างนี้ อย่างใด อย่างหนึ่ง ข้อนี้มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาสที่จะเป็นได้"
ไอ้ทิด