ปีที่ 2 ฉบับที่ 645 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2542
วิวาทะ
ทำคนตาดีให้ตาบอด บาปหนัก
นับแต่วันนี้ คอลัมน์วิวาทะ WAR OF WORD ได้ย้ายจากหน้า 5 มาอยู่ที่หน้า 6 แห่งนี้ทุกวัน เพื่อความเหมะสม
มีจดหมายฉบับหนึ่ง ส่งมาถึงผมในนามตัวแทน ชมรมผู้ปฏิบัติธรรม แห่งประเทศไทย พร้อมกับให้คติพจน์ แก่ "ผู้นำบุญ" มีความว่า. ..การช่วยคนตาบอด ให้เป็นคนตาดี ย่อมเป็นบุญ อันประมาณมิได้...แต่การทำคนตาดี ให้เป็นคนตาบอด ย่อมได้รับบาปมหันต์ เช่นเดียวกัน...
พร้อมกับแนบเอกสาร ปราชญ์แห่งพุทธ พระธรรมปิฎก ไขปัญหากรณีธรรมกาย มีสาระสำคัญคือ "ธรรมกาย" ไม่รู้จริงเรื่องพระไตรปิฎก
ความจริง ผมได้อ่านงานเขียน กรณีธรรมกายของ ท่านเจ้าคุณ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงใคร่เรียน ท่านผู้จัดส่งเอกสาร ในนามชมรม ผู้ปฏิบัติธรรม แห่งประเทศไทย แสดงตัวตนที่แท้จิงของท่านด้วย เพื่อผมจะได้แลกเปลี่ยน ความคิดจากท่านบ้าง
จักเป็นเกียรติอย่างสูงและจะเป็นการช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอีกทางหนึ่งด้วย
ก่อนอื่นผมเข้าใจว่า คุณคงเข้าใจผิดแต่ต้นแล้ว มิได้เป็นการออกตัว ผมมิใช่ผู้นำบุญ และก็มิใด้เป็นผู้นำบาปใครทั้งสิ้น
นอกเหนือจากการสาดโคลน กล่าวหาคนโน้นคนนี้ สำนักนั้น สำนักนี้ โง่งม ฉันเก่งเป็นเอกอุ
ไม่ใช่ตีความในพระไตรปิฎกเข้าข้างความรู้สึกของตนเอง แล้วกล่าวหาผู้อื่น...โง่งม ผิดไปหมด
มันก็บาปพอๆ กัน หากเป็นผู้ยึดมั่นในหลักแห่ง "อนัตตา" แล้วกลับถูก "อัตตา" ที่ไม่บริสุทธิ์ มิใช่อัตตาแห่งพระนิพพาน แต่เป็น "อัตตา" แห่งตน กลืนกินโดยไม่รู้ตัว กระนั่นใครจะโง่งมกว่ากัน
อย่างไรเสีย ผมก็ต้องขอขอบพระคุณผู้หวังดี หวั่นเกรงว่า ผมจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำคนดี ให้เป็นคนตาบอด และบาปกรรมนั่น จะตกกับผม อย่างมหันต์ ก็ขอน้อมรับคติพจน์ข้างต้น ที่ท่านอุตส่าห์ค้นหามาให้ผม ไว้เป็นเครื่องนำทางด้วยจิตคารวะ
เพราะผมเชื่อว่า พระคุณเจ้าพระธรรมปิฎก ท่านมีเจตนาบริสุทธิ์ ที่จะปกป้องพระพุทธศาสนา ผิดจากบุคคลนักวิชาการ ทางศาสนาหลายคน ที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า บุคคลเหล่านี้ มีพฤติกรรมการดำรงชีวิตอย่างไร คงไม่ต้องพูดอะไรให้มากไปกว่านี้ ก็เห็นๆ กันอยู่ บทบาทปกป้อง พระพุทธศาสนาของ กลุ่มบุคคลเหล่านี้เป็นอย่างไร
ส.ศิวรักษ์ ด่าพระด่าเจ้า รับเงินรับทองตัดสินวัดพระธรรมกาย ก็ไม่รู้ว่า นักคิดนักเขียน หัวก้าวหน้าก้าวหลัง อย่าง ส.ศิวรักษ์ ใช้อะไรมา เป็นบรรทัดฐาน จึงกล้าหาญพูดเรื่องบัดซบทำนองนี้ออกมา
รายการตามหา...แก่นธรรม ของเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ปากประกาศว่า ปกป้องพระพุทธศาสนา ทำไมจึงมีจิตใจที่คับแคบ ไปจังหวัดชลบุรี ถูกพระท่านตักเตือนไม่ทราบว่า รู้สึกตัวหรือยัง ในฐานะสื่อมวลชนผู้ปิดกั้นความคิดเห็นของผู้อื่น
ที่ผมพูดอย่างนี้ เพราะกระทู้ของท่านมันไม่ใช่กระทู้สร้างสรรค์ ทำนุบำรุงศาสนาดังปากว่า แต่เป็นกระทู้สร้างความแตกแยก ทำลายล้าง ศาสนาต่างหาก
รายการตามหา...แก่นธรรม ออกรายการเผยแพร่ผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 11 ไม่ต้องเสียค่าเช่าเวลา
....เพราะถือเป็นรายการเพื่อการศึกษา ในรูปแบบของมูลนิธิ...
แต่เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ก็มีรายได้จากการจัดรายการ สปอนเซอร์รายตัวที่วิ่งอยู่ข้างล่างจอทีวี เงินทองผลประโยชน์ส่วนนี้ ตกอยู่กับใครครับ กระเป๋าทีมงานของเจิมศักดิ์และคณะ หรือรัฐบาล
แม้ว่าสถานีวิทยุโทรทัศน์ ช่อง 11 จะมีนโยบายเป็นเครื่องไม้เครื่องมือของรัฐบาล โดยกำกับดูแลของกรมประชาสัมพันธ์ มี คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ กำกับดูแลอยู่ เป็นสถานีที่มุ่งเน้นพัฒนาการศึกษาให้กับประชาชน
คุณหญิงแอ๋ว คิดอย่างไรกับรายการตามหา...แก่นธรรม ของเจิมศักดิ์ ที่ออกมาก่นด่ามหาเถรสมาคม..?
บริษัทน้ำมันบางจากแห่งประเทศไทย สปอนเซอร์รายใหญ่ของธุรกิจเจิมศักดิ์ คิดอย่างไร จึงส่งเสริมสภาพคล่องของบริษัทในเครือเจิมศักดิ์ จัดรายการตามล่า ถล่มวัดถล่มพระ ทุกเมื่อเชื่อวัน
รายการอย่างนี้ไม่สร้างสรรค์สมดังชื่อมูลนิธิสื่อสร้างสรรค์ แม้แต่น้อย พิจารณากันเถิดครับ บทบาทปกป้องพระพุทธศาสนา หรือปฏิบัติการ ไล่ล่าทำลายล้างพระพุทธศาสนากันแน่
โซตัส