ปีที่ 2 ฉบับที่ 643 ประจำวันอังคารที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2542
ปุจฉา - วิสัชนา
วิชชาธรรมกายของแท้
สวัสดีครับ "อาทิด" ที่เคารพยิ่ง
ผมขอขอบคุณ "พิมพ์ไทย" และ "ดอกเบี้ยธุรกิจ" อย่างมาก ที่ช่วยให้ผมและคนอื่นอีกหลายๆ คน ไม่หลงทางผิด ขอให้ยืนหยัดสู้ต่อไป นะครับ ผมขอถาม "อาทิด" ว่า
1.จากการที่มีข่าวเกี่ยวกับ วิชชาธรรมกายว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านเลิก หรือไม่ปฏิบัติอีกแล้ว โดยมีหลักฐานเป็นเทป คำสัมภาษณ์ ถามตอบของท่านพระมหาโชดก (ซึ่งผมไม่เคยฟัง แต่เคยได้รู้ว่ามีวิทยุคลื่นหนึ่ง นำมาเปิดบ่อยๆ)
รูปภาพที่หลวงพ่อวัดปากน้ำ ส่งไปยังวัดมหาธาตุฯ อีก ซึ่งทาง "พิมพ์ไทย" ได้เคยลงว่า เป็นเพียงการทดสอบหลวงพ่อวัดปากน้ำว่า กรรมฐานที่พระมหาโชดก ไปเรียนมา ถูกต้องร่องรอย ตามพระไตรปิฎกหรือไม่ และหลวงพ่อเมื่อได้ลองฝึกดู ก็เห็นว่าถูกต้อง จึงมอบรูปแล้ว เขียนข้อความไว้เป็นหลักฐาน จึงเป็นจุดให้ถูกโจมตีว่า วิชชาธรรมกายของท่าน เป็นของหลอกเด็ก เป็นแค่นิมิต ควรจะลบทิ้งออกไปซะ แต่ความเห็นของผมมีข้อเสนอว่า
1.ในรูปภาพท่านยังนั่งในท่าสมาธิ ตามแนววิชชาธรรมกายอยู่
2.ตลอดชีวิตของท่าน ท่านไม่ชอบความไม่ถูกต้อง ทำไมท่านเห็นว่าลูกศิษย์เชื่ออย่างนั้นมาตลอด แล้วท่านจะไม่กล้าที่จะออกมา บอกว่า ผิดเชียวหรือ
3.แล้วการที่ท่านทุ่มเทชีวิตทั้งชีวิต และยังมีโรงงานทำวิชชาอยู่อีก ท่านทำไปเพื่ออะไร ท่านหลงผิดไปหรือ
ขอให้ท่านทั้งหลายลองคิดดูนะครับ ที่ผมเขียนมาก็เท่านั้น เพราะฝ่ายเราเถียงสู้ฝ่ายโน้นไม่ได้ ทำให้คนส่วนมาก เกือบทั้งประเทศเลย เชื่อว่า วิชชาธรรมกายไม่มีจริง ไม่ทำให้ถึงพระนิพพานที่แท้จริงได้ พอผมได้ฟังพวกนั้นพูด ผมก็ไม่รู้ว่า ทำไมพาคิดไป แล้วจะชี้แจงยังไงดี ขอให้ "อาทิด" ให้ความกระจ่างผมด้วยนะครับ
อีกเรื่องหนึ่งก็คือ แม้เราจะชี้แจงว่า วัดพระธรรมกายไม่ผิด เจ้าอาวาสไม่ผิด อย่างเช่น กรณีพิพาทที่ดิน แม้จะมีความกระจ่างแล้วว่า วัดไม่ผิด แต่ 100% เลยว่า คนส่วนใหญ่ยังเชื่อว่ามีผิด และมีเบื้องหลังอยู่ จึงทำให้ผมคิดว่า ที่ท่านเจ้าอาวาสไม่ตอบโต้ กลับนิ่งเสียนี้เป็นการดีที่สุด เพราะถึงโต้ไปก็ไม่มีใครเชื่อเลย อย่าง "พิมพ์ไทย" ออกข่าวที่จริงๆ ก็ยังถูกว่ามีเบื้องหลังอีก ก็ไม่รู้จะทำยังไง สู้ต่อไปเถิดนะครับ
เรื่องสุดท้ายนะครับ เป็นเรื่องหนังสือ "ทิพย์อำนาจ" เรียบเรียบโดย พระอริยคุณาธร (ปุสโส เส็ง ปธ.6) เกี่ยวกับวิชชาธรรมกาย และหนังสือ "ตรีธาเล่าเรื่อง หลวงพ่อวัดปากน้ำ" ไม่ทราบว่าจะหาซื้อได้ที่ไหนครับ
ถ้าช่วยหาได้ ผมกราบขอร้องนะครับ เพราะผมอยากอ่านมาก อยากศึกษาชีวประวัติของหลวงพ่ออย่างซาบซึ้ง ผมจะได้ไม่โงนเงน หลงผิด ไปอีก กราบขอร้องคุณอานะครับ ช่วยหาให้ด้วย
ด้วยความเคารพอย่างสูง
หลานมงคล นาคจุ้ย
ปล. อาจจะเป็นจดหมายที่รำพึงมากไปหน่อย กราบขออภัยด้วยนะครับ
คำถามเที่ยวนี้ของ "หลานมงคล นาคจุ้ย" มีหลายเรื่องมาก และเป็นเรื่องที่คนสนใจธรรมะปฏิบัติอยากรู้เสียด้วย ก็คงจะต้องให้เป็นข้อๆ ดังนี้
1.เรื่องที่หลวงพ่อวัดปากน้ำ เรียนกรรมฐาน สายยุบหนอพองหนอ ของวัดมหาธาตุนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงครับ เคยตอบไปแล้ว แต่การ เรียนของหลวงพ่อนั้น มีเบื้องหน้าเบื้องหลังพอสมควร คือในขณะนั้นทางวัดมหาธาตุฯ มีอำนาจในการปกครองทางฝ่ายสงฆ์มาก ได้เกณฑ์ให้พระ ทั่วประเทศ ไปเรียนกรรมฐานสาย ยุบหนอ-พองหนอ ที่นำมาจากประเทศพม่า ซึ่งถือว่าเป็นของใหม่ สำหรับเมืองไทยมากในยุคนั้น
หลายคนสงสัยกรรมฐานบทนี้มาก เพราะว่า แตกต่างจากกรรมฐานที่พระสงฆ์ไทย เคยทำกันมาในอดีต ที่ส่วนใหญ่จะเน้นการทำสมาธิตาม "คัมภีร์วิสุทธิมรรค" โดยเดินกรรมฐานกองใดกองหนึ่ง จากจำนวนทั้งหมด 40 กอง หรือบางองค์ก็เจริญทั้งหมดเลยก็มี
การเจริญกรรมฐานของพระสงฆ์ในสมัยนั้น ส่วนใหญ่มีเป้าหมายให้ได้อย่างน้อยก็ระดับ ฌาน 4 หรือ จตุตถฌาน เพื่อให้จิตผ่องใส บริสุทธิ์ จริงๆ ปราศจากนิวรณ์ธรรมทั้ง 5
หลังจากนั้น ก็ถอยกำลังของฌานออกมาอยู่ในระดับอุปจารสมาธิ ซึ่งถือว่าจิตมีอารมณ์เป็นทิพย์เพียงพอ สามารถพิจารณาขันธ์ 5 ซึ่งประกอบด้วย รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
ให้เห็นเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แบบนี้เป็นแบบเดิมของปรมาจารย์ไทย ที่ท่านได้ทำกันสืบต่อมานานนับพันปีแล้ว
ส่วน ยุบหนอ-พองหนอ เป็นของใหม่จากพม่า เป็นของประหลาดในสมัยนั้น เพราะว่าผู้เจริญ ไม่ต้องนั่งกรรมฐานให้ได้ฌาน 4 ก่อน เพียงมี แค่ขณิกสมาธิ (สมาธิเล็กน้อย) ก็สามารถเจริญกรรมฐานกองนี้ได้ทันที โดยยึดหลัก "ปัจจุบันอารมณ์" ซึ่งถือว่าเป็นอารมณ์วิปัสสนา ในหลัก สติปัฏฐาน 4 ทำได้ง่ายกว่าแบบเดิมของไทย
อย่างไรก็ตาม คนไทยในยุคนั้น ให้ความเชื่อถือกรรมฐานกองนี้น้อยมาก เพราะว่าไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย จึงมีการเกณฑ์ พระสังฆาธิการ ทั่วประเทศ ให้เข้าไปศึกษาวิชาดังกล่าว ซึ่งหลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านก็ได้เข้าศึกษาตามโครงการ ของวัดมหาธาตุฯ ในครั้งนี้ด้วย และท่านก็ได้ให้ การรับรองวิชาของวัดมหาธาตุ ด้วยการส่งรูปไปให้ไว้เป็นเครื่องยืนยัน
ถ้าหลายมงคลได้อ่าน ข้อความที่หลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านเขียนไว้บนรูปภาพ หลายจะเข้าใจเนื้อหาเรื่องราวทั้งหมดได้ทันที หลวงพ่อท่าน เขียนรับรองว่า "วิชาของวัดมหาธาตุฯ ถูกต้องร่องรอยตามหลักสติปัฏฐาน 4 ทุกประการ"
เนื้อหาทั้งหมดไม่ได้บอกซักหน่อยว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านเลิกวิชชาธรรมกาย หรือบอกว่าวิชชาธรรมกายผิด และถ้าตีความกันจริงๆ แล้ว พอจับความได้ว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านรับรองวิชาของวัดมหาธาตุอีกด้วย ความจริงมันเป็นอย่างนี้ครับ
ตัว "ไอ้ทิด" เองก็เคยสงสัยทำนองนี้เหมือนกัน ก็เลยถามพระครูภาวนาวิริยาจารย์ หรือหลวงพ่อวัดเขาพระ จ.เพชรบุรี ลูกศิษย์ของ หลวงพ่อ วัดปากน้ำ ที่เป็นอาจารย์ของ "ไอ้ทิด" เอง
ท่านตอบ "ไอ้ทิด" ว่า ไม่ต้องสงสัยหรอก ทางนี้เป็นทางสายตรงถึงพระนิพพานทีเดียว
เอาอย่างนี้นะครับ ถ้าหลานยังไม่หายลังเลสงสัย ลองพิจารณาดูตัวเองว่า หลังจากฝึกวิชชาธรรมกายแล้ว กิเลสของตนเองบางลงหรือไม่ พูดดี ทำดี คิดดี กว่าเดิมหรือไม่ ถ้ากิเลสลดลง แสดงว่าหลานมาถูกทาง แต่ถ้าหนาขึ้น แสดงว่าไม่ถูกทาง ทุกอย่างวัดที่กิเลสของเราเองครับ
พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ท่านสอนว่า ให้ละบาปชั่วทั้งปวง ทำกุศลให้ถึงพร้อม และทำจิตให้บริสุทธิ์ เราจะฝึกอะไรก็ได้ ถ้าเป็นไปแนวทางนี้ ไม่มีผิดหรอกครับ
ส่วนการที่ใครเขาว่า วิชชาธรรมกาย ไปไม่ถึงพระนิพพาน ได้แค่ฌาน 2 นั้น ก็ลองท้าให้เขาปฏิบัติดูดีกว่า ถึงหรือไม่ถึงเดี๋ยวก็รู้เอง
2. เรื่องต่อมา การที่หลานเห็นว่า เจ้าอาวาสไม่โต้ตอบ เป็นการดี ถือว่าถูกต้องแล้วครับ เพราะถ้าท่านออกมาโต้ตอบ คนที่คอยจ้องจับผิด เขาก็จะนำคำพูดของท่านไปตีความเลอะเทอะอย่างที่เห็น ขนาดหลวงพ่อเขียนกลอนสอนลูกศิษย์ ก็มีคนแซวว่า เขียนจ๊ะจ๋าหาลูกศิษย์สาว
3.เรื่องหนังสือ "ทิพย์อำนาจ" ของพระอริยคุณาธร (ปุสโส เส็ง) นั้น สามารถหาซื้อได้ตามแผงหนังสือ แถวๆ วัดมหาธาตุฯ ด้านข้าง มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ มีหลายแผงครับ เล่มละไม่กี่ตังค์
ส่วนหนังสือ "ตรีธาเล่าเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ" นั้น ดูจะแพงอยู่สักหน่อย เพราะทำเป็นเล่มใหญ่มาก และเป็นหนังสือปกแข็ง ราคาแพงมาก ถ้าหลานมงคล อยากอ่านจริง ให้ติดต่อที่ คุณธีรพล พิชิตชัยโสภา ยืมไปศึกษาสักเดือนสองเดือน ก็ให้ติดต่อได้ที่พิมพ์ไทยเลยครับ หรือถ้าหลาน มีเงินมากพอ น่าจะติดต่อซื้อได้ที่วัดปากน้ำครับ
ไอ้ทิด