ปีที่ 2 ฉบับที่ 635 ประจำวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2542
ปุจฉา-วิสัชนา
บัวใต้น้ำ
เรียนคุณ "ไอ้ทิด" วีรบุรุษในใจฉัน
ที่ดิฉันขึ้นต้นอย่างนี้ เพราะขอยกย่อง และชื่นชมในความใจกล้าและความใจซื่อมือสะอาด และขอชมทุกท่านชาวพิมพ์ไทยทุกคน ที่ช่วย ออกมาพูดความจริง โดยท่านเจ้าอาวาส และลูกศิษย์ท่านทุกคน ไม่ต้องออกมาแถลงข้อข้องใจ หรือถ้ามีลูกศิษย์ท่านที่ออกมาแถลงเอง นั่นคือ ทนไม่ไหวแล้วเหมือนอย่างฉันที่ทนให้เขาย่ำยีวัด หลวงพ่อธัมมชโย หลวงพ่อทัตตชีโว สมเด็จพระสังฆราช และพระมหาเถระทุกท่าน มาเป็นเวลา 3 เดือนกว่าแล้วนี่ ถ้าไม่ติดว่า เป็นลูกศิษยืท่าน ทุกคนเชื่อคำสอนของหลวงพ่อว่า ให้สงบ, ไม่ให้โกรธ ไม่ให้ด่า ให้แผ่เมตตาให้พวกเขา ป่านนี้ คงเกิดศึกระหว่างผู้ปกป้องศาสนากับพวกมารศาสนาไปแล้ว
พวกเรามาทำบุญที่วัดด้วยใจศรัทธาเอง รักและเคารพยกย่องในองค์หลวงพ่อธัมมชโย องค์หลวงพ่อทัตตชีโว คุณยายจันทร์ ขนนกยูง โดยเฉพาะหลวงพ่อสด เพราะฉะนั้น บุญอันนี้เกิดขึ้นกับพวกเราเอง ถึงได้มาทำบุญร่วมกันที่นี่ ไม่ใช่พวกท่าน ไปบีบบังคับ และพวกเราทุกคน โตกันแล้ว มีความรู้ด้วยกันทั้งนั้น ไม่ใช่ควายที่จะให้ใครมาจูงจมูกได้ง่ายๆ
ไม่เหมือนกับคนบางประเภทห่มชุมเหลือง แต่คำพูดออกมาแต่ละคำ เหมือนพวกอสูรกายจำแลงมาในคราบพระ อย่างไรอย่างนั้นเลย และพวกนี้ไม่สมควรเป็นพระ อย่าว่าแต่ศีล 227 ข้อเลย แต่ศีล 5 ยังผิดเลย คือพูดโกหก ศีล 5 ยังรักษาไม่ได้ และรักษาศีล 227 ข้อได้อย่างไร และพระที่ยืมชุดเขามาใส่ พวกนี้อกตัญญูทุกคน
หลวงพ่อช่วยไว้เท่าไหร่ ท่านไม่เคยปริปากพูดสักคำ หลวงพี่ยอม อ้อ!! ลืมไปน่าเรียก คุณพยอมมากกว่า เพราะรักษาศีลของพระไม่ได้ เคยให้ท่านเจ้าอาวาสช่วยเรื่องเงินกี่ครั้ง เป็นจำนวนเท่าไหร่ หลักฐานการรับเงินก็มี แต่อกตัญญู ไม่เคยสำนึก และท่านไม่เคยทวงบุญคุณ มีอีก หลายอย่าง แต่รอรวมเป็นเรื่องเดียว ชำระทีเดียว ฉายหนังม้วนเดียวจบ
พระที่ดีควรเป็นแบบชั้นเกจิอาจารย์ อย่างสมเด็จพระสังฆราช พระมหาเถระทุกองค์ หลวงพ่อธัมมชโย นี่คือแบบฉบับของพระ ที่พวกเรา ยกย่องนับถือ เพราะท่านสำรวมทั้งกาย วาจา ใจ ถึงใครจะว่าท่านอย่างไร ท่านก็เฉย ไม่ต้องออกทีวีเหมือนพระบางรูป กลัวจะไม่ดังมั้ง ถึงต้อง พยายามออกให้คนดูจำหน้าได้ จะได้ไม่ลืม เหมือนรายการทอล์คโชว์ ผิดแต่นี่เป็นพระโชว์ กับพวกดีกรีด๊อกเตอร์ทั้งหลาย
พระที่ดีก็ต้องไม่ให้ร้ายผู้อื่น พระที่ดีต้องโปรดสัตว์ ไม่ใช่ให้คน (ลูกศิษย์วัดธรรมกาย) มานั่งทะเลาะกับสัตว์ (พวกเขา) อย่างนี้ ต้องตั้งทีม คุณพยอมเป็นเจ้าสำนักมาร คุณเมตตานันโท เป็นรองเจ้าสำนัก (เพราะคุณอกตัญญูได้ยอดเยี่ยม และเป็นประเภทตบหัวแล้วลูบหลัง) ทำเป็น ไม่โกรธหลวงพ่อ ชีวิตนี้ก็ให้หลวงพ่อได้ แค่ความกตัญญูยังให้ไม่ได้ นับประสาอะไรใส่หัวโขนเป็นคนดีมักน้อย รวมทั้งคุณอดิศักดิ์ด้วย ต้องให้ เป็นผู้คุมบัญชีการเงิน(คดโกง) ของสำนักมารนี้ ถ้าคนระดับด๊อกเตอร์ทั้งหลายที่ออกมาวิจารณ์ ว่ากล่าวพระเสียๆ หายๆ ฉันยังให้อภัย เพราะ พวกมันคือบัวใต้น้ำ แต่นี้ตัวเองเป็นพระ จะอยู่ใต้น้ำกับพวกด๊อกเตอร์ทั้งหลายได้อย่างไร?
ถ้าอยากอยู่ใต้น้ำกัน ก็สลัดชุดพระออก แล้วเอาชุดจอมมารมาใส่แทนจะเหมาะกว่า หาว่าวัดเรี่ยไร บังคับให้ทำบุญ อยากถามว่า วัดไหน ไม่เรี่ยไร ไม่ใช้เงิน และอยากจะถามอีกว่า ถ้าไม่ใช้เงิน พระกับวัดจะอยู่ได้อย่างไร
ที่ฉันต้องเขียนยาวอย่างนี้ เพราะฉันอัดอั้นมานาน ยิ่งมารู้ว่า จะให้เผาหนังสือของทางวัด คำสอนของทางวัด ยิ่งโกรธมาก มีสิทธิอะไรมาเผา อ้อ! มิน่าเล่า เห็นเรื่องฟืนเรื่องไฟเป็นธรรมดา ถึงได้สั่งคนโยนระเบิดเล่นๆ ใส่รถตัวเองพวกซาดิสม์ โรคจิต ถ้าเห็นเป็นเรื่องธรรมดา
แต่ขอโทษที่ศิษย์ธรรมกายทุกคน เห็นเรื่องฟืนเรื่องไฟเป็นเรื่องใหญ่ จึงไม่ให้ใครมาเผาหนังสือเผาคำสอนของหลวงพ่อ จะเผาก็ลองดู ก่อนเผาหนังสือ (คำสอนของท่าน) ก็เผาลูกศิษย์วัดธรรมกายดูก่อน ถ้าเผาได้ค่อยเผาคำสอนของหลวงพ่อ ลูกรักพ่อฉันใด ดิฉันและลูกศิษย์ท่าน ทุกคนก็รัก และเคารพหลวงพ่อธัมมชโย และหลวงพ่อทัตตชีโว ฉันนั้น
นี่ขนาดหลวงพ่อไม่ได้เลี้ยงดูพวกเรา เหมือนพระเมตตาและพระอดิศักดิ์ พวกเราก็ยอมถวายชีวิตเพื่อท่านได้ ไม่ต้องป่าวประกาศ เหมือน พระ 2 รูปว่า รักเคารพ ชีวิตนี้ก็ให้ได้ แต่ก็ดีแต่ปากลองดู พวกเราว่า ถ้าแตะต้องพ่อของพวกเราทุกคน ก็ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง
ชีวิตหนึ่งฉันไม่เสียดายเพื่อตอบแทนคุณของพวกท่าน เพราะฉันก็ใช้ชีวิตคุ้มแล้ว เป็นเลขาก็เป็นแล้ว ครูก็เป็นแล้ว นางแบบ ดารา ร้องเพลง หรือว่า นางงาน ฉันก็เป็นมาหมดแล้วเลี้ยงพ่อ-แม่-พี่น้องก็แล้ว บวชให้แม่ก็แล้ว แล้วทำไมชีวิต ฉันจะปกป้องพระดี เพื่อให้อยู่คู่กับพระศาสนา และโลก ตลอดไปไม่ได้
สุดท้าย ฉันขอบุญกุศลที่ดิฉันได้ทำมาดลบันดาลให้ชาวพิมพ์ไทย ทุกๆ คน อยู่อย่างสบายกายและใจ และขอให้พิมพ์ไทยโตวันโตคืน และ ขอให้โตยิ่งใหญ่กว่าหนังสือพิมพ์บางฉบับ และฉันก็จะซื้อพิมพ์ไทยทุกวัน จนกว่าชีวิตฉันจะหาไม่ ถึงแม้วันละแค่ 8 บาทของฉันคนอื่น คงดูว่าน้อย แต่ฉันว่ามีค่ามากมหาศาล เพื่อจรรโลงนักข่าวที่ดี ซึ่งหายากในยุคนี้ ขอให้คุณพระคุ้มครองพวกคุณทุกคน อย่าให้ใครมาทำลายได้ ขายดีและ โชคดี นะคะ (หนังสือยักษ์ใหญ่ในใจฉันและชาวธรรมกายทุกคน)
เนาวรัตน์ 2
ชาวพิมพ์ไทยขอขอบคุณมากครับ กับคำอวยอวยพรอันมีค่ายิ่งนี้ และก็ขอให้พรอันประเสริฐนี้ จงย้อนกลับให้กับคุณเนาวรัตน์ 2 และ สานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ได้บรรลุมรรคผลตามเจตนารมณ์ที่ตั้งไว้ทั่วๆ กัน ทุกท่าน เทอญ
อะไร "ขาว" อะไร "ดำ" บัดนี้ต่างเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาแล้ว ปฐมเหตุเกิดจากคนประเภท "มือถือสาก ปากถือศีล" เพียงไม่กี่คนที่ฉก "อัตตา" และ "อนัตตา" ขึ้นมาถก โดยมีอานิสงส์แห่งผลกรรมเป็นลาภก้อนโต ก่อให้เกิดความสับสนขึ้นในหมู่ชาวพุทธ ดีที่พุทธศาสนิกชน เป็น คนมีปัญญา จึงไม่ตกเป็นเครื่องมือของพวกมาร
แล้วสุดท้ายเป็นไง? "อนัตตา" ที่หยิบยกกลับกลายเป็นเรื่องตลก เพราะผันแปรเป็น "อัตรา" ไปเสียฉิบ... นี่ละนาเขาเรียกว่า ไอ้พวกจิต ที่มีกิเลสตกตะกอนอยู่หนาเตอะ
เด็กเลี้ยงแกะ
เรียนคอลัมน์ "ไอ้ทิด"
ดิฉันเป็นผู้หนึ่งที่นับถือพุทธคะ ทีแรกได้อ่านข่าวไม่ดีเกี่ยวกับศาสนาพุทธ วัดชื่อดัง ตามหน้าหนังสือพิมพ์ ดูทีวี ฟังวิทยุ ประมาณ 2-3 เดือน ก็เคลิ้มไปพักคะ แต่ช่วงหลังได้รับใบปลิวจากกลุ่มชาวพุทธบ้าง กลุ่มพิทักษ์พุทธบ้าง กลุ่มสัจจธรรมบ้าง บ่อยมากคะ แถลงเกี่ยวกับขบวนการ ทำลายศาสนา ทั้งหมู่บ้านได้รับทุกคน รายชื่อสื่อไม่ว่าจะเป็น ทีวี หนังสือพิมพ์ วิทยุ บุคคลชักใยบงการเบื้องหลังถี่ยิบ ชัดเจนมาก เพิ่งจะเข้าใจว่า เป็นอย่างนี้นี่เอง ก็พยายามสังเกตว่า สื่อที่เขาว่านั้น เสนออย่างไร คนที่มีชื่อในใบปลิวมีอาการอย่างไร เวลาเสนอต่อมวลชน เข้าเค้าในใบปลิว มากคะ
ขนาดมหาเถรสมาคมลงมติว่า วัดพระธรรมกาย "ไม่ผิด" เขายังหน้าด้านว่า พาดหัวว่า "ผิด" นึกว่า คนอ่านโง่หรือไง
อีกฉบับก็พาดหัวตัวโต กมธ.ฟ้องเอง! เท่านั้นแหละ กรรมาธิการต่างรีบแถลงว่า ตนไม่ได้จะไปฟ้องเขาสื่อเอาไปลงกันเอง
น่าสงสารคนไทยนะคะ อ่านสื่อโกหกทุกวัน นี่ขนาดข่าวศาสนาที่เกิดขึ้นในเมืองไทย ยังจะวิเคราะห์ผิดพลาดขนาดนี้ และถ้าเป็นข่าว ต่างประเทศ ข่าวการเมือง ข่าวเศรษฐกิจ จะวิเคราะห์ผิดพลาดขนาดไหน เชื่อถือได้อย่างไรกันคะ
ตอนนี้ ตอนเย็นๆ แถวหมู่บ้านจะคอยจับกลุ่มคุยกัน สังเกตผู้มีชื่อในใบปลิว ว่าแต่ละคนจะเสนอหน้าแถลงข่าว โกหกตอแหลรายวัน อย่างไรบ้าง ยังกับชาวบ้านไม่รู้ ไม่กระดากเลยนะคะ
ป้าโสพิศ ศิริสุข
(ไม่ใช่ศิษย์วัดธรรมกายจะเขียนเสนอความเห็นได้ไหมคะ)
ก่อนอื่น "ไอ้ทิด" ต้องขอทำความเข้าใจก่อนนะครับว่า พื้นที่นี้เราเปิดกว้างเสมอ ให้กับข้อคิดเห็นต่างๆ ที่มีเข้ามา เพราะถือว่า สิ่งนี้เปรียบ เหมือนเป็นกระจกเงาบานใหญ่ ที่สะท้อนภาพของสังคมได้ถูกต้องและชัดเจนที่สุด
การที่มีสื่อออกมาตะแบง แม้คำตัดสินของพระมหาเถระ ก็ยังไม่ยอมรับเช่นนี้ ส่อเจตนาให้เห็นชัดถึงมิจฉาทิฐิในจิต เพราะเขากลัว เสียหน้า เสียเครคิต และที่สำคัญเขากลัวว่า กลุ่มชนที่บริโภคข่าวจะหมดความเชื่อถือ เพราะนั่นหมายถึง "ฝันร้าย" ของอาชีพ
ดังนั้นเขาจึงต้องทำทุกวิธีการ เพื่อปกป้องชื่อเสียงเพราะทะลึ่ง พาผู้คนออกทะเลลึกเกินไป ไอ้ครั้นจะกลับลำในทันที มันก็ดูกระไรอยู่ สู้ลอยคอรอลากเหยื่อ เต้าข่าวขายไปวันๆ จะไม่เป็นการดีกว่าหรือ?
จึงไม่แปลกที่จู่ๆ จะปูดข่าวกรรมาธิการออกมา เรียกว่า เป็นการ "โยนก้อนหินถามทาง" ดูก่อน ว่ายังพอจะมีแนวร่วมอยู่อีกหรือไม่ ดีที่เหยื่อเกิดไหวตัวดิ้นหลุด ไม่เช่นนั้น คงลากกันยาวเลยหล่ะ
ไอ้ทิด