ปีที่ 2 ฉบับที่ 625 ประจำวันพุธที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2542

วิวาทะ

อานิสงส์วัดพระธรรมกาย แผ่ขจรขจายไปทั่วทุกหนทุกแห่ง พระสงฆ์องค์เจ้า ผู้ครองเพศบรรพชิต ถือศีล 227 ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น ออกบิณฑบาตโปรดสัตว์ รับกิจนิมนต์ ดำเนินกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา

พระสงฆ์หลายวัดหมกมุ่นอยู่กับเดรัจฉานวิชา ก็ต้องสะดุ้งไหว เมื่อมีข่าวการตรวจสอบวัดพระธรรมกายอย่างบ้าคลั่ง

แก่นแท้สูงสุดทางพระพุทธศาสนา "พระนิพพาน" ถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาในหมู่สงฆ์ และฆราวาสอย่างกว้างขวาง มีความเห็น แบ่งแยก ออกเป็นสองฝ่ายใหญ่

บางสายมั่นใจว่า พระนิพพานเป็น "อนัตตา" มีสภาพเป็น "สูญ" ไม่เหลือเชื้อกิเลสให้ติด ไม่มีสภาวะ ไม่มีสถานที่ หรือดินแดนพระนิพพาน เป็นไตรลักษณ์ "อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา" ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่มีตัวตน

บางสายมั่นใจว่า พระนิพพาน เป็น "อัตตา" มีสภาวะแห่งนิพพาน มีแดนแห่งนิพพาน แต่ปราศจากกองกิเลสน้อยใหญ่ เป็นเครื่องรัดร้อย หลุดจากวังวนสังสารวัฏ ฆ่าฟันกับกองกิเลสจนได้รับชัยชนะ และเผาศพกิเลสเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไม่มีเชื่อให้เกิด แก่ เจ็บ ตาย อีกต่อไป

รู้อย่างพระพุทธเจ้า เห็นอย่างพระพุทธเจ้า มีความสุขอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดับขันธ์ ดับสังขาร เพื่อเสวยสมบัติ พระนิพพาน สุดยอดแห่ง บรมสุข จึงประกาศชูธรรมที่ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย อีกต่อไป เป็นธรรมร่มเย็น เป็น "อัตตา"

แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง พระนิพพานในสัญญาของมนุษย์ทั่วไป มิได้มีความหมายแค่ พระนิพพานเป็นอนัตตา หรืออัตตา เท่านั้น

หากแต่ มีมนุษย์คิดหากินกับพระนิพพาน อย่างไม่เกรงกลัวต่อ นรก สวรรค์

นิพพานที่คนกลุ่มนี้ชื่นชอบ ไม่ใช่อัตตา อนัตตา อย่างที่กำลังเป็นวิวาทะ ถกเถียงกันอยู่นี้ แต่คนกลุ่มนี้เห็นพระนิพพานเป็น "อัตรา" ไม่เกี่ยวจะเป็นเงินสกุลเยน ดอลลาร์ ปอนด์ หรือบาท

นิยามความเชื่อพระนิพพาน เป็นอัตรา นี้กำลังแพร่ระบาดอยู่ในกลุ่มคนทุศีล โดยเฉพาะ สื่อมวลชน นักคิด นักเขียนใจบาปบางคน ที่เกิดลังเล ต่อคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่จำกัดอายุ ไม่จำกัดความรู้ ทั้งทางโลก ทางธรรม

หลายคนสงสัยเป็นแน่ว่า เขาเหล่านั้นไม่กลัวบาป กรรมจะกินกบาลหรือ?

คำตอบคือ คนเหล่านี้ไม่กลัวบาป เพราะเขาเชื่อว่า จะสามารถล้างบาปได้ด้วยพระนิพพานเป็นอัตรา คนเหล่านี้ไม่เชื่อนรก ไม่เชื่อสวรรค์ ไม่เชื่อภพ ไม่เชื่อชาตินี้ หรืออดีตชาติ มีจริง

สรุปลงว่า คนกลุ่มนี้เป็นนักเลงพระตัวยง แต่ไม่นิยมชมชอบสะสมพระผง พระเหรียญ อย่างที่เซียนพระเล่นกัน ไม่สะสมสมเด็จวัดระฆัง ไม่นิยมชมชอบพระผงหลวงพ่อวัดปากน้ำ ฯลฯ ไม่อยู่ในคอเลคชั่นของคนกลุ่มนี้

อย่างนั้นคนกลุ่มนี้ โดยเฉพาะนักคิด นักเขียนชื่อใหญ่ มากลาภ ยศ ศักดิ์ศรี เกียรติยศ เกียรติคุณ เขาสะสมพระอะไรกันหรือครับ

ผมมั่นใจเกินร้อย รับรองไม่ผิดแน่ คนกลุ่มนี้ เขานิยมชมชื่นสะสม "หลวงพ่อเงิน" แต่อย่าโปรดเข้าใจว่า เป็นหลวงพ่อเงิน แห่งวัดบางคลาน นะครับ

ไม่ใช่แน่ หลวงพ่อเงินที่กลุ่มคนพวกนี้ นิยมชมชื่นสะสม เป็นคอเลคชั่นประจำตน คือ หลวงพ่อเงินที่กลุ่มคนพวกนี้ นิยมชมชื่น สะสมเป็น คอเลคชั่นประจำตน คือหลวงพ่อเงิน ไม่สังกัดวัดใดทั้งสิ้น ไม่จำกัดสกุลเงิน จะเป็นยูโร เยน ดอลลาร์ ปอนด์ คนเหล่านี้เปิดมุมปาก ยิ้มกว้าง อ้าแขน รับไว้ก่อน จะให้ขึ้นสวรรค์ ลงนรก อย่างไรไม่สน

เพราะความเชื่อพระนิพพานเป็นอัตรา นี้แหละครับ จึงทำให้นักบุญหลายคนเลี้ยงลงเหว นรกอเวจี มาแล้วหลายคน เสียคนเมื่อแก่ก็มาก
พวกสุขนิยมจอมปลอม ผสมผสานกับพวกวัตถุนิยม จึงมีความเห็นพ้องต้องกันว่า พระนิพพานเป็น "อัตรา"

ขณะที่พวกจิตนิยม มุ่งมันฝึกสมาธิ เจริญศีล เจริญธรรม กลับถูกพวกสุขนิยมจอมปลอม จับมือกับพวกวัตถุนิยม และสื่อมวลชนผู้บ้าคลั่ง "อัตรา-หลวงพ่อเงิน" ตามความหมายที่ผมให้ไว้ข้างต้น

โจมตีพวกจิตนิยมที่นั่งสมาธิรบฆ่ากับกองกิเลสอย่างสงบนิ่ง ด้วยข้อหาบ่อนทำลายความมั่นคง

จะด้วยอวิชชาของใคร ก็สุดแท้จะคาดเดา แต่ที่แน่ๆ สื่อมวลชนหลายสำนัก ที่โจมตีวัดพระธรรมกาย เริ่มจะมีดวงตาเห็นธรรม ขึ้นมาบ้างแล้ว จากที่เคยสรรเสริญวัดพระธรรมกาย วันละสามสี่เวลา เช้า สาย บ่าย เย็น หลังอาหาร ก็เริ่มจะพบกับหนทางสว่างไสว

อย่างไรเสีย ผมก็ไม่อยากเห็นสื่อมวลชน ปกป้องพุทธศาสนาอย่างมีเงื่อนไข และข้อแลกเปลี่ยนต่อรอง มันบาปครับ เพียงแต่มีใจเป็นกลาง เสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา ผมเชื่อว่าอานิสงส์แห่งบุญ จะตกอยู่กับหน่วยงานนั้นๆ

ผมเชื่อมั่นในกฎแห่งกรรม พระนิพพานที่ปราศจากกองกิเลสน้อยใหญ่แล้ว เป็นยอดธรรม ที่ไม่เสื่อมสลาย เป็น "อัตตาแท้" มิฉะนั้น พระองค์ จะตรัสว่า "นิพพานัง ปรมัง สุขัง" หรือครับ

[หน้าหลัก] [หน้า1-1] [วิวาทะ] [ปุจฉา]

1