ปีที่ 2 ฉบับที่ 621 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2542
สหัสวรรษที่ 3
ไยบังอาจจาบจ้วง พระเถระผู้ใหญ่ ... อนิจจา!!! |
ผมว่า ยุคนี้คนไทยเป็นอะไรไปแล้วไม่ทราบ เกิดวิปริตจิตเหี้ยมไร้ศีลธรรม ไม่เพียงแต่ไม่เคารพกฏเกณฑ์ กติกาบ้านเมือง แม้การทำผิด กฎหมาย อย่างโจ๋งครึ่ม ก็ไม่มีการเกรงกลัวแม้แต่น้อย
ฤาจะถึงกาลสิ้นยุค กลียุคอย่างที่หนังสือคำทำนายโลกว่า ปี1999
นี่คือ ปีโลกาวินาศ มนุษย์จะถือศาสนาแต่เปลือกนอก แต่จิตใจเหี้ยมโหด ไร้ศีลธรรม อกตัญญู ชอบด่าว่า เห็นเงินเป็นพระเจ้า เย่อหยิ่งยโส ไร้มนุษย์ธรรม ไม่ให้อภัยกัน ใส่ร้ายกัน ดุร้าย ไม่ยับยั้งชั่งใจ เกลียดชังความดี
เมื่อใด ที่โลกมนุษย์มีอาการดังว่านี้ นั่นคือ ลางแห่งกลียุค หรือวาระแห่งการสิ้นยุค ได้เวียนมาถึงแล้ว และที่น่ากลัวก็คือ เป็นคำทำนาย มาล่วงหน้ากว่าพันปีแล้ว
คำทำนายที่น่าสนใจคือ ในกาลสุดท้าย คนที่ชอบเยาะเย้ยจะเกิดขึ้น และประพฤติตามใจปรารถนา
ครับ Doomsday 1999 หรือวันโลกาวินาศ ที่จะลงในปีนี้ ตามคำทำนายของโหรหลวงระดับโลก อย่างนอสตราดามุส เอ็ดการ์ เคย์ซี และคัมภีร์ไบเบิ้ล ฯลฯ
ผมอยากให้คนไทยที่ยังมีสติสัมปชัญญะเต็มสมบูรณ์ นึกถึงพุทธพจน์ที่กล่าว อย่าเชื่อเพียงแต่เล่าสืบต่อกันมา และอีก 9 ข้อ ใครที่อวดอ้างว่า เรียนรู้พระไตรปิฎกมาจนเจนจบ ผมคงไม่ต้องย้ำคิดย้ำพูดให้เสียเวลา
เพราะในวันนี้ สังคมไทยเกิดอาการใกล้กับสิ่งที่ผมกล่าวถึงข้างบนนั้น เกิดคนที่ชอบเยาะเย้ยและประพฤติตนตามใจปรารถนา เมื่อมีอำนาจ ปากและปากกาอยู่ในมือ ก็สามารถตั้งข้อหาข้อกล่าวร้ายผู้อื่นได้ โดยใช้อำนาจสื่อ ซึ่งถือว่า เป็นฐานันดรที่ ที่มีทั้งคุณอนันต์และโทษมหันต์ต่อชาติ สามารถชี้นำคนไทยทั้งกว่า 60 ล้านคน ให้ไปทางหนึ่งทางใดก็ได้
สามารถตัดสินความได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องขึ้นศาล ประกาศคำพิพากษา กำหนดโทษล่วงหน้าทุกวัน ทั้งที่องค์กรที่ถูกต้องตามกฎหมาย และประกอบด้วยบุคคลที่ชาวพุทธทั้งประเทศ ให้การเคารพสูงสุด เป็นพระเถระผู้ใหญ่ ผู้มีจริยาวัตรอันงดงาม มีผลงานจนเป็นที่ปรากฏ และ ได้รับพระสุพรรณบัตร จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นเครื่องยืนยัน ยังไม่ทันตัดสิน
แต่กลุ่มบุคคลผู้ถือศาสนาแต่เปลือกนอก หากินด้วยการสร้างข่าวร้าย ทำลายพุทธศาสนา ให้เกิดความเสื่อมศรัทธา และสลดใจทุกวัน ไม่มีเว้น สร้างฐานะและความร่ำรวยบนความทุกข์ ความเดือดร้อนของผู้อื่น อ้างหลักฐานเลื่อนลอย สร้างหลักฐานเท็จ ใช้อำนาจสื่อ บีบนักการเมือง ให้เกรงกลัว
มิหนำซ้ำ ยังอวดตัวว่า เป็นปัญญาชนผู้ฉลาด เวลาออกอากาศก็จะใช้ถ้อยคำเยาะเย้ย ถากถาง ชี้นำ และจาบจ้วงองค์กรสงฆ์ ซึ่งประกอบด้วย พระเถระผู้ใหญ่ สูงด้วยคุณวุฒิและวัยวุฒิ และศีลที่เจ้าตัวถือ เทียบท่านไม่ได้เหมือนหิ่งห้อยกับดวงจันทร์
บังอาจอวดภูมิ ในพระไตรปิฎกเหนือกว่าพระผู้ใหญ่ และจาบจ้วงพระผู้ใหญ่ว่า แก่ชราเชื่องช้า งุ่มง่ามไม่ทันใจบุคคลเช่นนี้ ปรามาส ล่วงหน้าว่า มหาเถระเป็นคนขี้ขลาด งานนี้จะต้องเป็นมวยล้ม มิหนำซ้ำ ขู่อีกว่า ถ้าคำตัดสินออกมาไม่ถูกใจ จะไม่ยอมเลิก จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ผมกำลังสงสัยว่า ใครกันแน่ที่เข้าข่ายบ่อนทำลายความมั่นคงแห่งชาติ
เพื่อเป็นการเอาบุญต่อผู้หลงผิด ผมขออนุญาตลงรายนามและพระนามของคณะกรรมการมหาเถรสมาคม ให้รู้ว่า บุคคลที่ท่านกำลัง จาบจ้วง นั้น คือใครบ้าง
1. สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช เป็นองค์ประธาน
2. สมเด็จพระพุทธปาพจนบดี (วัดราชบพิตร)
3. สมเด็จพระมหามุนีวงษ์ (วัดนรนาถฯ)
4. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (วัดสระเกศ)
5. สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (วัดชนะสงคราม)
6. สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (วัดราชประดิษฐ์)
7. สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (วัดปากน้ำ)
8. สมเด็จพระวันรัต (วัดเทพศิรินทร์)
9. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (วัดสุวรรณาราม)
10. พระญาณวโรดม (วัดเทพศิรินทร์)
11. พระสุเมธาธิบดี (วัดมหาธาตุฯ)
12. พระสุธรรมาธิบดี (วัดราชาธิวาส)
13. พระอุดมญาณโมลี (วัดสัมพันธวงศ์)
14. พระพรหมจริยาจารย์ (วัดเบญจมบพิตร)
15. พระธรรมวโรดม (วัดเบญจมบพิตร)
16. พระวิสุทธาธิบดี (วัดสุทัศน์ฯ)
17. พระธรรมปัญญาจารย์ (วัดมกุฏกษัตริย์ฯ)
18. พระพรหมโมลี (วัดยานนาวา)
19. พระมหารัชมงคลดิลก (วัดบวรนิเวศ)
20. พระธรรมกิตติวงศ์ (วัดราชโอรส) และ
21. พระธรรมเมธาภรณ์ (วัดราชบพิธ)
ครับ ใครที่ด่าพระ ดูถูกพระผู้ใหญ่ เห็นรายชื่อแล้ว ก็ให้รีบกราบขอขมาโดยไว (ถ้ายังถือว่าตัวเป็นชาวพุทธอยู่ ถ้าเป็นคนนอกศาสนา ก็อภัยให้) เพราะพระมหาเถระที่กล่าวมานี้ กว่าท่านจะก้าวขึ้นมาได้ขนาดนี้ ก็ต้องถือว่า ไม่ธรรมดา และท่านก็มีวิธีของพระ แก้แบบพระ ซึ่งแน่นอน ย่อมไม่ทันใจ ไม่ถูกใจ พวกบรรดาชอบด่าพระ เป็นนิสัย ซึ่งแสดงให้เห็นถึง การอบรมของ บิดามารดา มาแต่เด็ก และการศึกษาอันสูงทางโลก ก็มิได้ทำให้คุณธรรม กระเตื้องขึ้นแต่อย่างใด
ก็ในเมื่อเราไม่เคารพผู้ใหญ่ ไม่เคารพพระ ไม่เคารพกฎหมายแล้ว แม้องค์สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งถือเป็นพระราชาแห่งสงฆ์ และพระราชา คณะ ก็ยังถูกติฉินนินทา จาบจ้วงได้ ผมคิดว่า พุทธศาสนาในประเทศ ก็เห็นถึงแก่กาลอวสานในครั้งนี้
เพราะขนาดสถาบันรัฐสภาสูงสุด ยังให้คณะกรรมาธิการ ทำรายงานดูหมิ่นพระเถระผู้ใหญ่ เป็นลายลักษณ์อักษร ว่า มีการรับลาภสักการะ เป็นแสนเป็นล้าน และถวายรถยนต์คันหรู เพื่อให้ช่วยวัดพระธรรมกาย แต่ไม่กล้าระบุชื่อพระเถระฯ ระบุชื่อพยานผู้กล่าวหา และหลักฐาน ซึ่งเป็น การอาจเอื้อม และสร้างความมัวหมอง ให้กับพระราชคณะ นี่แหละที่เข้าข่ายบ่อยทำลายพระศาสนาโดยแท้
ครับ ... ฟังคำตัดสินของมหาเถรสมาคมด้วยใจสงบ เคารพการตัดสินของท่าน อะไรที่ผิดพลาด ต่างก็กลับไปแก้กันใหม่ ให้อภัยกัน แล้ว ปฏิบัติตามพระราชดำรัส ถ้ารักในหลวง ปีนี้ปีทองของท่าน ช่วยกัน ละความชั่ว ทำแต่ความดี ทำจิตใจให้ผ่องใส
ถ้าคนไทยทั้งชาติทำได้ดังนี้ ผมคิดว่า ผมไม่เชื่อเรื่องวันกลียุค หรือ สิ้นยุค แต่ผมกลับเชื่อว่า ปีนี้ เมืองไทย จะพลิกล๊อคสิ้นยุคคนชั่ว กลายเป็นยุคคนดี อย่างนี้อนาคตของชาติจะสดใสแน่นอน
กาขาว(แทน)