ปีที่ 2 ฉบับที่ 614 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2542
เจาะคน-เจาะข่าว
กำราบมาร คำสั่งลับขู่ฆ่า 12 มาร ล่อกันบานเป็นเรื่องราว
เก่งจริงหนอด้านปั้นข่าว มันใช้เท้าเขียนหนังสือเก่งจริงๆ
แหล่งข่าวเจาะคน-เจาะข่าว เปิดแถลงแจงสี่เบี้ยว่า ด้วยเรื่องความเซ็งในอาชีพสื่อมวลชนที่คอยจ้องล้มล้างวัดพระธรรมกาย เรียกว่า สื่อหลายฉบับตอนนี้กลับบ้านต้องรีบล้างเท้าก่อนเป็นอันดับแรก เพราะ "ส้นเท้าเปื้อนหมึก"
สำนักข่าวต่างดาว
ของสำนักกวนอิมโพธิสัตว์รายงานว่า
อาวุธที่น่ากลัวที่สุดยุคอวกาศ
ไม่ใช่ลำอานุภาคแสงเลเซอร์
หรือว่า Atomic Bomb
แต่อาวุธที่ร้ายกาจจริงๆ
มีอานุภาพทำลายรุนแรงจนสุดบรรยาย
นั้นก็คือ
"ปากกา"
อันนินทากาเล เหมือนเทน้ำ ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดมากรีดหิน แม้องค์พระปฏิมายังราคิน คนเดินดินหรือจะสิ้นคนนินทา
ดู๊...ดู มันทำ สารพัดจะยัดเยียดข้อหาให้กับวัดธรรมกาย
ประเดิมเริ่มแรกก็กล่าวหาว่า วัดธรรมกายขายตรง "ขายบุญ" หากินบนความศรัทธา
ก็อย่างที่บอกเสมอว่า
วัดใหญ่ มันก็ต้องใช้เงินเยอะ
แค่อาหารเลี้ยงกัลยาณมิตร
ของวัดเพียงอย่างเดียว
แต่ละวัดจ่ายมากกว่ากองทัพไทยอีก
เงินมันก็ระบายออกไปทางนี้
นอกจากนี้วัดยังมีการก่อสร้าง ที่ต้องใช้เงินอีกมาก
ศาสนวัตถุจะเจริญได้ ก็ด้วยศรัทธาญาติโยม ถ้าโยมไม่เต็มใจบริจาค ต่อให้เอาปืนไปจ่อหัวกะบาล เขาก็ไม่ควักให้แม้แต่สตางค์แดงเดียว
เรื่องต่อมา เจ้าอาวาสมีกรีนการ์ดซึ่งมาจนถึงปัจจุบันนี้ ยังไม่เห็นไอ้บัตรเขียวบัตรเหลืองที่ว่า หน้าตามันเป็นยังไง
อีกเรื่อง กล่าวหาว่า วัดตัดต้นไม้ของบรมวงศานุวงศ์ ปรากฏว่า ตัดจริง แต่ได้รับหนังสืออนุญาตจากสำนักพระราชวังแล้ว
มันก็เลยเลี้ยวไปเล่นเรื่อง
เจ้าอาวาสมั่วสีกา
มีโผล่ขึ้นมาตั้ง 6 คน
แต่ทั้งหมดอยู่แค่ในจินตนาการของ
"ไอ้ท้วยส์" บางคนเท่านั้นเอง
สงสัยสีกาทั้ง 6 คน
คงเป็นอนัตตา
แบบที่เจ้าคุณพระธรรมปิฎกว่าคือ
หาตัวตนที่แท้จริงไม่ได้!!!
เราจะบอกให้เจ้าอาวาสน่ะมั่วสีกาจริง แต่เป็น "สีกากี" คือ มีลูกศิษย์ลูกหาเป็นตำรวจเยอะ
สงสัยนักข่าวชั้นสวะ มันพิมพ์ตกคำว่า "กี" ไป เลยเหลือแค่ "สีกา" นี่มันเป็นอย่างนี้ซะด้วยเท่าเจ้าคุณ
เมื่อไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยมนต์ก็เอาด้วยคาถา
ไอ้พวกหมอผีจัญไร มันก็เลยขยายเรื่องให้เป็น "การเมือง"
โอย... มันตั้งข้อหาคนนั่งสมาธิว่า กระทบกระเทือนความมั่นคง
โห.. ถ้าคนวัดพระธรรมกาย "เดินจงกรม" ภาวนา "สัมมาอรหัง" มันคงกล่าวหาว่า คนวัดพระธรรมกาย "เดินขบวน" ล้มรัฐบาลไปเลย
แค่นั้นยังไม่พอ ตอนนี้มีคนสร้างสถานการณ์ โยนระเบิดบ้านตัวเอง เพื่อสร้างภาพให้เห็นว่า วัดพระธรรมกาย ชั่วจริงๆ ชั่วช้า 100% ชั่วไม่มีตำหนิ ชั่วแบบโปร่งใส ชั่วแบบไอเอ็มเอฟ
ลงทุนแค่ซ่อมรถ 2 หมื่นบาท กระพือข่าวได้ทั่วโลก
เห็นทีมือการตลาดของวัดพระธรรมกาย คงต้องล้างมือในอ่างทองคำ เพราะเทียบฝีมือกับไอ้ท้วยส์แล้ว ห่างกันหลายชั้น
กระดูกคนละเบอร์ !!!
หาก "ธัมมชโย" อยากสร้างธรรมกายเจดีย์ให้เสร็จไวๆ ควรจะจ้างไอ้ท้วยส์นี่แหละ มาทำแผนการตลาด รับรองเสร็จเร็วเหมือนเนรมิต ด้วยอิทธิฤทธิ์ของเทพยดา
หลังจากนั้น มันก็เริ่มพูดเองเออเอง ว่ามีคำสั่งลับ "ขู่ฆ่า" 12 จอมมาร เรียกตำรวจมาคุ้มกันยกใหญ่
ปู้โธ่เอ๊ย... ไอ้พวกนี้ ไม่ต้องฆ่าหรอก เพราะอายุอานามของแต่ละคน ใกล้ลงหลุมเต็มทีแล้ว
แค่ปล่อยให้ลอยดอกอยู่อีกไม่กี่ปี ก็ต้องตายไปตามกฏ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ส่วนพวกสื่อประเภท "ส้นตีนเปื้อนหมึก" น่ะ ขอให้ละอายแก่ใจตัวเองบ้าง
วันๆ เขียนแต่เรื่องโกหกพกลม แล้วสังคมไทยจะอยู่กันยังไงล่ะพี่โป๊งเหน่ง