Part..9
กลับมาดูเหตุการณ์ที่ โรงแรม...
"ช่วยกันหน่อยเพื่อนๆ เตะเซฟมาที่กลางห้องที"
ตียนับไม่ถ้วนต่างพร้อมใจกับกระแทกเข้า ไม่ต้องบอกก้อต่อคิวกันเตะอยู่แล้ว
หญิงสาวที่คุดคู้อยู่ในตู้เซฟขณะนี้ เลือดซึมแทบจะทุกส่วนของร่างกาย เนื่องจากกระแทกไปมาตอนที่ตู้เซฟถูกเตะลงบันได เธอกำลังพยายามเอาตัวรอดสุดความสามารถ มือผอมๆทั้งทุบทั้งดัน ขาก็เตะ ถีบ วุ่นไปหมด
"ช่วยด๊วย!!...ช่วยด้วย ชั้นอยู่ในนี้ ปล่อยชั้นออกไปที..ช่วยด้วย!!"
เสียงร้องโหยหวนเล็ดลอดออกมาข้างนอกตู้ ไม่ต่างจากเสียงผีที่เคยดูในหนังแม้แต่น้อย
"ทุกคน..ตอนนี้นังผู้หญิง แพดสะหยา ที่ทุกคนรังเกียจมาอยู่ที่นี่แล้ว อยากทำอะไร ก้อตามสบายเลยนะคะ~"
สิ้นสุดการประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว ความซาดิสต์ก้อเริ่มขึ้นอย่างสุขสันต์(?)
บ้างก็เอาลำโพงสเตอริโอขนาดมโหฬารมาตั้งขนาบสองข้างแล้วบิดฌวลลุ่มเกือบสุดจนตู้เซฟสั่นเหมือนผีเข้า บ้างก็ไปเอาไฟหลอมมาจ่อรอบเซฟ(แต่เซฟไม่ละลายหรอก เพราะมันทน...)
บางคนก็เอาน้ำมันราด แล้วจุดไฟย่างบาร์บีคิวทานกัน (ตายแน่มึ๊ง)
การละเล่นสุดสยองจนน่าจะบันทึกลงใน world recort ginese book ก้อล่วงเลยมาจนถึง5ทุ่ม
"เอาล่ะค่ะ เพื่อนๆ ตอนนี้ก้อถึงไคลแมกซ์ของช่วงสุดท้ายของงานmeetingในวันนี้แล้วนะคะ" พิธีกรของงานผายมือไปทางตู้เซฟที่ยังคงสถาพเดิมได้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะมีรอยบุบบู้บี้จากค้อนปอนด์ หรือรอยไหม้เป็นด่างๆดวงๆจากไฟก็เถอะ
"เราจะเอาคนที่อยู่ข้างใน เอ่อ...คิดว่าอาจเป็นศพไปแล้วนะคะ ไปทำการฌาปนกิจ โดยถ่วงน้ำกันค่าา.."
สิ้นสุดการประกาศ เสียงโห่ร้องด้วยความดีใจและชื่นชมยินดีก็ดังกึกก้อง ดั่งสอบเอนต์ติดกันยกทีม
แต่..อย่างนึงที่เค้าเข้าใจผิดคือ
mekki ยังไม่ตาย!(คนป่าววะ?)....แต่ก็โคม่าเต็มที นัตย์ตาของเธอตอนนี้ถ้าไม่นับน้ำตาและเหงื่อที่กลบอยู่ชุ่มโชกแล้ว ก็จะเห็นแววตาแห่งความอาฆาตแค้นเหมือนแรดตกมันได้อย่างชัดเจน
"hyde!!...ต่อให้กูตาย ก็จะลุกขึ้นมาจากหลุม ลากเอ็งลงไปตายด้วยกันให้จงได้ กูจะตามหลอนเอ็งไปทุกชาติ"
เธอตะโกนลั่นเซฟ แต่ตัวเธอเองก้อไม่ได้ยินหรอก เพราะฤิทธ์ของเสียงสเตอริโอ เซอร์ราวได้ทำลายแก้วหูพร้อมกระดูก ค้อน ทั่ง โกลน แตกละเอียดปนไปกะขี้หูหมดแล้ว
ตูม!!!...
เสียงสุดท้าย ที่หญิงสาวได้ยิน ก่อนจะสลบไปอีกครั้ง คือเสียงที่ตู้เซฟกระแทกกับผืนน้ำ ก่อนที่มันจะค่อยๆดิ่งลงสู่ก้นแม่น้ำเจ้าพระยา
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
"เอาล่ะ ตรวจเลือดเรียบร้อยแล้วเชิญเซ็นต์ชื่อได้เลยค่ะ" นางพยาบาลลินดายื่นปากกาให้
"ค..ครับ" hyde ตวัดชื่อ takari hideto อย่างรวดเร็ว
นางพยาบาลสาวหยิบแผ่นทะเบียนมาดู แล้วเธอก็เงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้าด้วยแววตาที่ไม่อยากเชื่อ
"คุณ...คุณคือ hydeแห่งl'arc-en-ciel..."
เขาพยักหน้าเล็กน้อย รู้อยู่แล้วว่าจะต้องเป็นงี้
"ช..เชิญ...เข้าไป..เอ่อ..หาคุณหมอได้เลยค่ะ " ลินดาตะกุกตะกัก พูดไม่ออกด้วยความเขินสุดขีด อยากกรี๊ดออกมาดังๆซะจริงๆ
"เชิญนอนที่เตียงนี้ครับ"หมอเรียกเขาให้ไปที่เตียงข้างๆ
hydeชำเลืองมองดูร่างที่ยังไม่ได้สติของyuki เขายังคงนอนหลับไม่รู้เรื่อง...จะรู้บ้างไหมว่า มีคนที่รักเขามาก รออยู่ด้วยความทรมานขณะนี้
สำลีที่เปียกแอลกอฮอลล์เช็ดลงไปที่ข้อพับขาวเนียนของชายหนุ่ม ปลายเข็มแหลมค่อยเสียบผ่านเนื้อเนียนลงไป hydeสะดุ้งเล็กน้อย มุ่นคิ้ว เม้มปากแน่น เมื่อความเจ็บได้เปลี่ยนเป็นความชาแล้ว เขาก็มองคนข้างๆ ด้วยสายตาเป็นห่วงสุดหัวใจ เลือดของเขาและyukiจะหลอมเป็นหนึ่งเดียวกัน หวังว่า ร่างกายอีกฝ่ายจะรับเลือดของเขาได้..
"เอาล่ะok เสร็จแล้ว arigato" หมอพูดขอบคุณเป็นภาษาญี่ปุ่น..ก้อพูดได้คำเดียวนี่นา
"เอ่อ...hydeซังเชิญไปดื่มนมที่ตรงโน้นได้เลยนะคะ" ลินดาพูดไปก้อบิดไปด้วยความเขิน ก่อนจะเดินขาพันกันเป็นเลข8ออกไป
ชายหนุ่มผมทอง เดินมาที่ปลายเตียง yuki น้ำตาของเขาค่อยๆรินไหลลงมา..
"ฉัน..ฉันช่วยนายสุดความสามารถได้แค่นี้ ขอบคุณที่ปกป้องฉันนะ...ฉันคงอยู่กับนายวันนี้วันสุดท้ายแล้ว..ฉันอยากจะพูดคำที่ไม่เคยบอกใคร..นายจะได้ยินหรือไม่ได้ยิน รับรู้หรอไม่รับรู้ก้อไม่เป็นไร เพราะคำนี้ ฉันอยากจะพูดให้นายฟังมากกว่าใคร...."
"ฉัน รัก นาย..yuki"
hydeยกมือปาดน้ำตาออก ก่อนจะเดินออกมา เขาหันหลังไปดูอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะเดินออกไป
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
สติเริ่มกลับคืนมาสู่ร่างสูงอีกครั้ง เขาค่อยๆลืมตาขึ้น นี่เราอยู่ที่ไหนเนี่ย? yuki ถามตัวเองเพราะสถานที่นี้ไม่คุ้นเอาซะเลย
คุณหมอคะ คนไข้ฟื้นแล้วค่ะ นางพยาบาลสาวตะโกนเรียกคุณหมอเพื่อให้มาดูอาการของคนไข้
เอ่อ .. คุณผม yuki พยายามที่จะดันตัวเพื่อลุกขึ้นนั่ง แต่เค้ารู้สึกมึนเหลือเกินตอนนี้
อย่าเพิ่งขยับครับ คุณเสียเลือดไปมาก จำได้มั้ยครับว่าชื่ออะไร แล้วทำไมถึงบาดเจ็บ หมอถาม เพื่อที่จะ check อาการคนไข้ว่าสมองได้รับกระทบกระเทือนหรือไม่
ผม เอ่อ ผมชื่อ yuki yasunari ผมโดนยิงที่โกดัง แล้ว แล้วเพื่อนของผมละครับ เป็นยังงัยบ้าง yuki เป็นห่วงร่างบางผู้ที่เขาเอาตัวเข้าปกป้องด้วยชีวิต
อ๋อ คุณ hyde หรอคะ ปลอดภัยค่ะ แล้วเค้าเป็นคนให้เลือดคุณด้วย
แล้วตอนนี้เค้าอยู่ไหนครับ ผมต้องการพบเค้า yuki รู้สึกร้อนรนอยากเห็นหน้าคนที่ตนรักด้วยตัวเอง
คุณ hyde เค้ามาเยี่ยมคุณเมื่อเช้า และกลับไปก่อนที่คุณจะฟื้นไม่กี่ชั่วโมงเองค่ะ เห็นเค้าว่าจะไปสนามบิน กลับญี่ปุ่นค่ะ จริงสิ เค้าฝาก note ถึงคุณด้วย ว่าแล้วนางพยาบาลก็ยื่นกระดาษแผ่นนึงส่งให้ร่างสูง
หลังจากได้ยินคำพูดนั้น yuki รู้สึกช๊อกมาก ทำไม ทำไมนายต้องไปจากชั้นด้วย hyde ทำไม เขาได้แต่รำพึงด้วยความเจ็บปวดในใจ
ถึง yuki
ตอนที่นายได้อ่านข้อความนี้ ชั้นก็คงอยู่บนฟ้าแล้วหละ ขอโทษนะที่ชั้นจากมาโดยไม่ได้ลานาย แต่ชั้นมีหน้าที่สำคัญ หน้าที่ที่ชั้นรักต้องทำที่ญี่ปุ่น ตลอดเวลาที่อยู่ที่ประเทศไทย ชั้นมีความสุขมาก นายสอนให้ชั้นได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างที่มีด่า สอนให้รู้จักความรักที่แท้จริง ความรักที่บริสุทธิ์ รู้ว่าการที่เราได้รักใครสักคนนั้นมันเป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่และมีคุณค่ามาก ชั้นเคยลองถามตัวเองว่า รู้สึกอย่างไรกับนาย ในตอนนั้นชั้นลังเลไม่กล้าคิดถึงมันเพราะกลัวที่จะยอมรับมัน แต่ ณ.วินาทีนั้นวินาทีที่เห็นนายล้มลงตรงหน้า ชั้นกลับรู้ทันทีว่าชั้นรักนายมากขนาดไหน ขอบคุณ ขอบคุณทุกอย่างที่นายทำเพื่อชั้นมาตลอด ตอนนี้ถึงแม้ร่างกายชั้นอยู่กับนายไม่ได้ แต่ใจของชั้นจะอยู่กับนายตลอดไป หากวันใดก็ตามที่ภาระหน้าที่เสร็จสิ้นแล้ว ชั้นสัญญาว่าจะกลับมาอยู่กับนายทั้งกายและใจ
อย่าร้องให้ขอจงอย่าร้องไห้ ด้วยควงตาที่แสนสำคัญคู่นี้
ถึงแม้จะต้องพบกับความโศกเศร้าปานใด ก็ขอให้เผชิญกับความจริงเถอะนะ
ด้วยฉันจะยังอยู่กับเธออย่างนี้
ขอโทษที่ทำให้(ความเศร้า)เข้ามาบดบังใบหน้าที่เปี่ยมสุขของเธอ
แต่ไม่ว่าจะอธิษฐานเท่าไร เวลามันก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วและไกลแสนไกล
และเวลาที่ผ่านเลยไป ก็ไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้อีก
อา....แสงสว่างที่เข้ามาเยือนเงียบๆถูกแต่งเติมสีสัน
เดือนปีที่ผ่านไป เหมือนความฝันยายมค่ำคืนที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
มันติดตาอยู่ไม่เสื่อมคลาย
จะไปอยู่เคียงข้างเธอในทันที จนกว่าดอกไม้จะเบ่งบานขึ้นใหม่อีกครั้ง
จนกว่าจะได้เห็นแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ที่ลอดผ่านใบไม้ที่แกว่างไกวเหล่านั้น
แม้อยากจะแหงนมองดูนานแค่ไหน ก็ตามแต่ใจเธอ
เพราะไม่ว่าเมื่อไร ก็จะมีคนที่พร้อมจะจับมือเธออย่างอ่อนโยนเอาไว้อยู่เคียงค้างเธอเสมอ
ขอให้แหงนมองขึ้นไปเถอะ
ใช่ไหม...ไม่ว่าคืนวันจะยาวไกลเพียงใด ก็จะมีคนที่คอยรักเธออยู่ด้วย
ฤดูกาลที่ดูอ่อนโยนสดใส กับการที่มีคนรักอยู่ข้างๆตอนนี้
จะเป็นความรู้สุกแบบไหนกันนะ?
อา...ร่างกายที่แม้จะละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยของฉัน มีกำลังเข้มแข็งพอที่จะโบยบินไป
ข้ามท้องทะเลที่กว้างใหญ่จนไม่สามารถหันกลับไปมองเบื้องหลังได้อีก
ขอภาวนาให้มีแสงสว่างสดใสสาดส่องอยู่ทุกวันคืน
เพราะมีเธออยู่ จึงทำให้ชีวิตนี้ยังสามารถดำเนินต่อไปได้ป็นนิรันดร์
อา...อย่าปล่อยให้ความทรงจำที่ท่วมท้นอยู่เต็มสองมือนี้ เหือดแห้งหายไป
เพราะว่าเราจะค่อยๆตามหาวันพรุ่งนี้ใหม่อย่างค่อยเป็นค่อยไป
ร่างกายที่แม้จะละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยของฉัน มีกำลังเข้มแข็งพอที่จะโบยบินไป
ข้ามท้องทะเลที่กว้างใหญ่จนไม่สามารถหันกลับไปมองเบื้องหลังได้อีก.
จาก hyde
โตเกียว 2004
เสียงอังกอร์ยังคงดังไปทั่ว tokyo dome ถึงแม้วงดนตรีที่ชื่นชอบได้จบการแสดงไปแล้วครึ่งชั่วโมงก็ตาม แต่แฟนๆ ยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับกันเลย กลับร้องเพลงกระตุ้นให้พวกเขาทั้ง 4 ออกมาแสดงอีกครั้ง แต่แล้วเสียงเพลงนั้นก็ถูกกลบด้วยเสียงกรี้ดเนื่องจากบุคคลทั้ง 4 ได้ออกมายังเวทีอีกครั้ง
ยังไม่เหนื่อยกันหรอครับ นักร้องนำวง larc~en~ciel ตะโกนออกไมค์ถามบรรดาแฟนเพลงที่ยังคงกรี้ดลั่นอยู่
ไม่เหนื่อย ทุกคนตอบแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน
อ่า ถ้าอย่างนั้นเรามาสนุกกันต่ออีกซักเพลงนะครับ เพลงนี้ผมขอร้องให้กับคนสำคัญของผม ที่ถึงแม้เราจะห่างกันเหลือเกิน แต่ความรู้สึกที่ดีต่อกันยังไม่เปลี่ยนแปลง pieces แฟนๆทั่ว tokyo dome เงียบสนิท มีเพียงเสียงเพลง pieces เท่านั้นที่ดังกระหึ่ม ทุกคนตั้งใจฟังพวกเขาต่างคิดเหมือนกันว่า hyde ช่างร้องเพลงนี้ได้ไพเราะเหลือเกินเหมือนร้องกลั่นออกมาจากจิตใจของเขาเลยทีเดียว จนเวลาผ่านไปเสียงเพลงได้ค่อยๆเงียบลง พร้อมกับไฟทั่ว tokyo dome ได้ดับสนิทอีกครั้ง
เฮ้อ เหนื่อยจริงๆ เสียง ken จัง บ่นทั้งๆที่ยังคงอัดบุหรี่เข้าปอดอยู่เหมือนเดิม
หลัง live จบทีไร ชั้นก็เห็นนายพูดอย่างนี้ทุกที แล้วบุหรี่หนะ เพลาๆซะมั่ง เดี๋ยวปอดก็พังหรอก เสียง tetsu หัวหน้าวงผู้มักคอยปรามเพื่อนๆของเขาอยู่เสมอกล่าวเตือน
tet จังชั้นขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ ร่างบางกล่าวก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวและเข้าห้องน้ำไป
เฮ้ย ไอ่ hyde มันเป็นอะไรของมันวะ หลัง live ทีไร มันต้องมีอาการเซื่องซึมเป็นสากกะบืออย่างนี้ทุกทีเลย ken เอ่ยถามเพื่อนของเขา ถึงแม้เขาจะพูดกวนๆตาม แต่ทุกคนรู้ดีว่าเขาก็เป็นห่วงเพื่อนของเขาเหมือนกัน
เฮ้อ ไม่รู้สิ tetsu เองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพื่อนเขาเป็นอะไร แล้วประตูห้องพักก็ถูกเปิดเข้ามา
เฮ้ พวกนาย ผู้จัดการให้มาตามให้ไปพบคนๆนึงอะ เดี๋ยวนี้เลย yukkie มือกลองประจำวงวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา
ใครฟะ คนเค้าจะพักผ่อนกัน ผู้เป็นมือกลองก็ยังไม่วายที่จะบ่นออกมาอีก
รู้สึกจะเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ของ sony มั้ง ไม่รู้ดิ ไม่ใช่ญี่ปุ่นแท้ซะด้วย แล้วนี่ hyde ไปไหนอะ yukkie หันซ้ายหันขวามองหาเพื่อนอีกคนของเขา
อาบน้ำอยู่หนะสิ เอางัยดีละ จอรอมันก่อนมั้ย ken ถาม
ไปเลยดีกว่า ถ้าไม่รีบเดี๋ยวผู้จัดการได้บ่นหูชาแน่ๆ แล้วเดี๋ยวให้ hyde ตามไปทีหลังก็ได้ ว่าแล้ว tet จังก็ตะโกนบอกเพื่อนตัวน้อยที่อยู่ในห้องน้ำ แล้วทั้ง 3 ก็เดินออกจากห้องไป
นี่คุณ yuki yasunari เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ sony เรา ผู้จัดการวงทำการแนะนำร่างสูงที่สวมแว่นดำใส่สูทให้กับ tetsu, ken และ yukihiro
ต่างฝ่ายต่างยื่นมือไปจับเพื่อแสดงไมตรีต่อกัน ปกติเขาทั้ง 3 คนมักเป็นคนสนุกเฮฮาอยู่เสมอ แต่ทำไมเมื่ออยู่ต่อหน้าชายผู้นี้ทำไมมันถึงรู้สึกเกร็งๆก็ไม่รู้ แม้แต่ ken จังยังขำไม่ออกเลย
เอ่อ ผมทราบว่าวงของพวกคุณมี 4 คนไม่ใช่หรอครับ ร่างสูงเอ่ยถาม
ใช่ครับ 4 คน แล้ว hyde ละ ผู้จัดการวงหันไปกระซิบถาม tetsu
อาบน้ำอยู่ครับ เดี๋ยวตามมา tetsu ตอบเสียงแผ่วเบา
รอซักครู่นะครับ เดี๋ยวอีกคนก็มาแล้ว ผู้จัดการหันไปตอบร่างสูง
ครับ ไหนๆก็รอมา 4 ปีแล้วรออีกซักหน่อยไม่เป็นไรหรอกครับ yuki กล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนที่ทุกคนจะได้ถามอะไร ประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามา
ขอโทษฮะที่มาสาย พร้อมกับร่างบางในชุดเสื้อเชิ้ตหลวมๆสีขาว กางเกงหนังสีดำสนิท ผมสีน้ำตาลปล่อยยาวเคลียไหล่ ยังคงมีหยาดน้ำเกาะอยู่ตามเส้นผมนุ่มสลวยนั้นเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับไปนั่งแหมะลงกับโซฟาที่อยู่มุมห้อง โดยไม่สนใจใครทั้งสิ้น เขารู้สึกเบื่อมากแทนที่จะได้พักผ่อนกลับต้องมาทำอะไรก็ไม่รู้
มาแล้วครับ นักร้องนำของเราชื่อ hyde ครับ ผู้จัดการแนะนำชื่อ hyde กับร่างสูง
hyde มารู้จักกับท่านสิ ผู้จัดการตะโกนเรียกร่างบาง
ผมไม่อยากรู้จักซักหน่อย ถ้าเค้าอยากรู้จักก็เดินมาหาเองสิ ร่างบางตอบกวนตีนเต็มที่
hyde!! มาขอโทษท่านเดี๋ยวนี้ ผู้จัดการสั่งเสียงเด็ดขาด แต่ร่างบางทำเป็นนั่งไม่รู้ไม่ชี้อยู่ที่เดิม
ยังคงไม่เปลี่ยนเลย แต่นี่แหละคือนายที่ชั้นรัก ร่างสูงคิดในใจพร้อมกับยิ้มบางๆ ไม่ต้องหรอกครับ เค้าก็พูดถูกนะครับ ถ้าผมอยากรู้จักก็ควรที่จะเดินเข้าไปหาเอง พร้อมกันนั้น ร่างสูงก็เดินตรงไปหาร่างบางที่นังอยู่มุมห้อง ผู้จัดการถอนหายใจโล่งอกที่ yuki ไม่มีอาการโกรธเคืองแต่อย่างใด
ขอโทษครับไม่ทราบว่าจะกรุณารับผมเป็นเพื่อนคุณได้มั้ยครับ ร่างสูงกล่าวเมื่อเดินไปถึงร่างที่นั่งเอกเขนกอยู่บนโซฟา
hyde รู้สึกคุ้นๆกับเสียงนี้มาก แต่คงไม่ใช่หน่า hyde คิดในใจ เขาจึงเงยหน้าขึ้นไปมองร่างที่ยืนค้ำหัวเขาอยู่ ร่างบางตกตะลึงกับภาพที่ได้เห็น เป็นใบหน้าของคนที่เขาคิดว่าชั่วชีวิตนี้เขาอาจจะไม่ได้เจออีกแล้วก็เป็นได้
คุณ
ร่างบางกล่าวออกมาอย่างเหม่อลอย
ครับ ผม yuki yasunari ยินดีที่ได้รู้จักครับ ร่างสูงกล่าว พร้อมกับยิ้มให้กับร่างบางอย่างอบอุ่น
<< back