Part..1

----ยามเช้ามืดที่ท่าอากาศยานtokyo สองหนุ่มสาวกำลังรีบจ้ำ ก้มหน้าก้มตาเดินเข้าสู่ช่องผู้โดยสารขาออก ในมือของทั้งคู่มีตั๋วเครื่องบินที่จะพาทั้งคู่ไปยังL.A
"ทำไมเราสองคนจะแต่งงานกันที ต้องลำบากลำบนออกเดินทางไปถึงU.S.Aด้วยนะ แถมยังต้องมาเดินทางตอนตี1ตี2อย่างงี้อีกตะหาก" ฝ่ายหญิงเริ่มโอดครวญ
"ช่วยไม่ได้นิ...mekki(megumi) ขืนแต่งในประเทศล่ะก้อ กลายเป็นข่าวใหญ่โตกันพอดี อีกอย่าง เดินทางตอนกลางคืนแบบนี้แหละดีแล้วจะได้ไม่มีคนเห็น" ็hydeหันมาบอกกับแฟนสาว
เมื่อวาทิสามีพูดเช่นนี้ ฝ่ายหญิงจึงได้แต่พยักหน้าเล็กน้อยเป็นการตอบ

----ทั้งสองเดินมาถึงกลางทางจึงได้รู้ว่าตัวเองกำลังจะตกเครื่องแล้ว แถมตอนนี้สองหนุ่มสาวก็ยังหลง ไม่รู้จะต้องไปขึ้นเครื่งที่ไหนซะอีก-----(ปกติมีstaff sonyนำทางอ่ะ...)
hydeจึงตัดสินใจเดินไปถามยาม ที่กำลังนั่งสปหงกอยู่
"นี่ๆ คุณครับ เครื่งบินที่จะไปL.A. ไปขึ้นที่ทางไหนครับ?"

----ทางฝ่ายยามที่กำลังเคลิ้มฝันได้ที่ สะดุ้งตื่นขึ้นมา เมื่อเห็นว่าคนที่มาปลุกเขาไม่ใช่นายเหนือหัว จึงรู้สึกอารมณ์เสียเป็นกำลัง- - -
"ทางโน้นน่ะ จะไปก็รีบๆไป" เขาชี้มั่วไปเรื่อยเปื่อย พลางก้มหน้าลงหลับต่ออย่างสบายใจ
hydeรู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะปลุกยามคนนี้ขึ้นมาเพื่อที่จะกล่าวขอบคุณ จึงรีบจูงมือแฟนสาวไปตามทางที่ยามขี้เซาคนนั้นบอกทันที
----ทั้งสองเดินทางมาถึงทันเส้นยาแดงพอดีี-----

----hydeและmegumi ต่างหอบหิ้วสัมภาระ เดินหน้าไปยังชั้นโดยสารfrist class
"เฮ้อ...ทันพอดี พอไปถึงที่นั่นนะ พ่อกับแม่ผมจะมารับเราไปโรงแรม ที่ผมได้จองไว้ให้ท่านไปอยู่ล่วงหน้าก่อนแล้ว"
"เอาเถอะ..ขอให้งานแต่งของเราอย่าได้มีอะไรต้องลำบากไปมากกว่านี้ ฉันก็ดีใจแล้ว" megumiกล่าวตัดบท พลางเอนเก้าอี้ตัวเบิ้มหนานุ่มลงเพื่อนอนหลับ สมกับที่เป็นชั้นfrist classจริงๆ
---hydeมองหน้าแฟนสาวของเขานอนหลับอย่างพพึงพอใจ ก่อนจะค่อยหลับตาลงสู่ห้วงนิทราด้วยอีกคน-----
..............ไม่มีใครใส่ใจที่จะฟังคำประกาศของกัปตันเครื่องบินแม้แต่คนเดียว............
"ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ...เที่ยวบินนี้ เราจะพาท่านไปยังประเทศไทย เครื่องจะถึงท่าอากาศดอนเมือง จังหวัดกรุงเทพมหานครในเวลาประมาณ10โมงเช้า...ขอให้ได้รับบริการที่ดียิ่งจากเรา ขอบคุณ.."


----เครื่องบินค่อยๆแหงนตัวเครื่องขึ้นสูู่ฟากฟ้าอย่างนิ่มๆ ด้วยเสียงเงียบกริบ และมุ่งหน้าไปยังThailand สยามเมืองยิ้มในทันที----
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~


----“เอ๊ะ นี่มันที่ไหนกันละเนี่ย ” hyde ถาม mekki หลังจากได้ลงจากเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว เขารู้สึกแปลกใจเพราะผู้คนที่เดินขวักไขว่ภายในสนามบินล้วนมีแต่คนหัวดำตาดำทั้งนั้น “เอ้ หรือมันเป็นแฟชั่นใหม่ของฝรั่งเค้าน้า” hyde ถามต่อ
“ถามชั้นแล้วชั้นจะไปถามใครเล่า ก็มาด้วยกัน มั่วด้วยกัน แล้วนี่ก็คงไม่ใช่ฝรั่งหรอก หน้าตาเอเชียทั้งนั้น” mekki บ่นอย่างอารมณ์เสียสุด ๆ เนื่องจากสถานที่ปลายทางไม่ได้เป็นไปตามที่เธอคาดหวังไว้


----hyde หน้าตาเหรอหรา เขาเริ่มรู้สึกสับสน เหงื่อเม็ดโตเริ่มผุดขึ้นบนใบหน้าคมเข้มแต่ก็แฝงความงามไว้อย่างประหลาด “โถ่ รู้งี้ลาก staff มาด้วยซักคนก็คงดี” hyde คิดอย่างกลุ้มใจ “แต่เอ้ ที่นี่มันคุ้นๆนะ เหมือนเคยมาก่อนหน้านี้”
“งั้นรออยู่นี่นะ เดี๋ยวผมไปถามเจ้าหน้าที่ก่อน” hyde ตัดสินใจเดินไปหาผู้ชายคนหนึ่งซึ่งดูจากชุดฟอร์มแล้วน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่สนามบิน
“ เอ่อ ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าที่นี่ที่ไหนหรอครับ “
ชายผู้นั้นเงียบไปแปปนึงก่อนจะกล่าวออกมาว่า “ Sorry I can’t understand your language Can you speak english?”
“หา เวรกรรม พูดภาษาปะกิตซะด้วย ไม่รู้เรื่องโว้ย” hyde พืมพำออกมา “แล้วตูจะทำยังงัยดีละทีนี้ รู้จักแต่ cat กะ dog” เขาได้แต่ทำท่าเก้ๆกังๆ ทำให้ชายคนนั้นจะรู้ทันทีว่าเขาฟังไม่รู้เรื่อง

----“OK Follow me” ว่าแล้วเขาก็ฉุดแขน hyde ให้เดินไปหาเจ้าหน้าที่อีกคน
hyde เห็นเขาไปกระซิบกับชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งเขาคาดว่าคงเป็นพนักงานของที่นี่เช่นกัน ในที่สุดชายอีกคนก็เอ่ยขึ้นมาว่า “หนูหลงทางกับผู้ปกครองหรอครับ” hyde ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขารู้สึกโล่งใจที่ชายคนนี้สามารถพูดภาษาของเค้าได้ แต่แล้วหน้าที่ซีดของเขาก็เริ่มแดงจัดด้วยความโมโห
“ขอโทดครับ ผมโตแล้วครับ อายุก็เกิน 30 แล้ว” hyde ตอบกลับทั้งๆที่ยังกัดฟันกรอดๆ
“หา ล้อเล่นหน่า ตัวแค่นี้เนี่ยนะ เกิน 30 หรือ 3 ขวบกันแน่?” ว่าแล้วชายผู้นั้นก็ถือโอกาสมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า ใช่สิ ก็ตัวเขามันเล็กกว่าชาวบ้านหนิ หน้าตาก็กระเดียดไปทางผู้หญิงด้วย เป็นเหตุให้เขาโดนล้อประจำตั้งแต่เด็ก แต่พอเขาได้เป็นนักร้องในวงที่กำลังโด่งดังเป็นพลุแตก ก็ทำให้ชีวิตเขายุ่งซะจนไม่มีเวลามาใส่ใจเรื่องพวกนี้ และยิ่งพอเขาได้คบกับ mekki แล้ว ก็ยิ่งยุ่งเข้าไปอีก ต้องแบ่งเวลาให้ทั้งงานทั้งแฟน “อ๊ะ ชิบหาย เราปล่อย mekki รออยู่นี่หว่า” hyde นึกขึ้นมาได้ เขาจึงไม่มีเวลาจะมาเถียงต่อแล้ว
“ช่างมันเถอะ ว่าแต่ผมอยากรู้ว่าที่นี่เป็นที่ไหน” hyde ตัดบทถามสิ่งที่เขาต้องการรู้
“อ่าว ก็ประเทศไทยงัยครับ” อะไรวะ ไอ้เด็กคนนี้ท่าจะบ้า อยู่ที่ไหนยังไม่รู้ตัวอีก
“ตายห่ะ ทำไมมาโผล่ที่นี่ฟะ หรือว่าเราขึ้นเครื่องผิด?” hyde หน้าซีดเผือด เขารู้สึกอยากจะเป็นลมซะตรงนี้เลย ไม่น่าละเขาถึงรู้สึกคุ้นๆกับที่นี่ เพราะเขาเคยมากะ tet จัง แล้วเที่ยวนึงเมื่อปีกว่าๆ เพื่อโปรโมทเพลง และเกือบจะจมบาทาของบรรดาแฟนเพลงที่มารับเค้าที่สนามบิน
“ไม่ใช่ LA หรอครับ” hyde ถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“LA กะผีหนะสิ คนละฟากกับที่นี่เลย” ชายคนนั้นตอบอย่างงงๆ
“…. เอ่อ… งั้นขอบคุณมากครับ ผมขอตัวละ” hyde กล่าวออกมาแผ่วเบา ก่อนจะผละจากตรงนั้นแล้วเพื่อที่จะกลับไปหาแฟนสาว เมื่อเขาเดินมาถึงตรงที่เดิม ก็ไม่ปรากฏร่างของคนที่เขาต้องการหา

----“หายไปไหนแล้วละเนี่ย” hyde กล่าวอย่างร้อนรนด้วยความเป็นห่วงว่าที่เจ้าสาว เขายืนรออยู่ตรงนั้นจนเวลาผ่านไป 1 ชม. ก็ยังไม่ปรากฏร่างของเมงุ โดยเขาหารู้ไม่ว่าที่ๆเขายืนอยู่นั้นมันอยู่คนละด้านกับทางเดินที่เขาปล่อยให้ mekki รอ (เซ่อจริงๆ)
ส่วนทางฝ่าย mekki ที่ยืนรอเจ้าบ่าวในอนาคตของตนจนหมดความอดทนไปแล้ว
“หนอย ไอ่ hyde บ้าหลอกกันนี่หว่า บอกว่าจะพาไปแต่งที่ LA แต่แกล้งพามาทิ้งไว้ประเทศอะไรก็ไม่รู้ จำไว้เลยแค้นนี้ต้องชำระ” mekki กล่าวอย่างโมโห ก่อนที่จะหิ้วกระเป๋าเดินตรงไปยังที่ขายตั๋วเครื่องบินเพื่อกลับญี่ปุ่น

----และแล้ว mekki ผู้ซึ่งเป็นนักอ่านข่าวมาก่อนที่จะเจริญรอยตามว่าที่สามีไปเป็นนักร้องสาวเสียงดี(จิงๆนะ) ก็ได้ตั๋วเครื่องบินกลับญี่ปุ่นมาอย่างง่ายดายเพราะต้องพูดอังกฤษได้อยู่แล้น แล้วเธอก็ได้บินกลับไปยังบ้านเกิดของเธอดโดยที่ยังอารมณ์เสียอยู่เช่นนั้น..ทิ้งให้ชายหนุ่มที่ดูแล้วเหมือนเด็กหนุ่มยังคงเที่ยววิ่งตามหาว่าที่เจ้าสาวของเค้าต่อไปอย่างเหน็ดเหนื่อย ทั้งเรื่องจะมองหาจากที่สูงๆก็คงหมดสิทธ์อยู่แล้ว จะไปถามใครก็ไม่ได้(เก่งอังกฤษเหลือเกินหนิ) หลังจากเดินทั่วสนามบินดอนเมืองแล้วยังไงก็ไม่เจอชายหนุ่มก็เลยหาที่นั่งพักดื่มน้ำก่อนให้ใจเย็นแล้วคิดดีๆ " ไอ้...แล้วทำไมตูไม่ให้ mekki เป็นคนถามทางวะ " เมื่อคิดได้อย่างนั้นเค้าก็ยิ่งอารมณ์เสียใหญ่ลุกขึ้นทันที เค้าคิดว่าทนนั่งอยู่เฉยๆไม่ได้แล้ว ชายหนุ่มร่างเล็กหน้าเข้มเริ่มเดินวนไปวนมาพร้อมกับใจที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ! " เราจะทำยังไงดีนะ " หนุ่มผมทองเดินคิดต่อ ผมสีทองนี่เค้าก็พึ่งจะไปทำมาหยกๆเพราะ mekki แฟนสาวบอกว่ามันคงจะเข้ากับเค้าดี ยิ่งคิดเค้าก็ยิ่งคิดถึงแฟนสาวมากขึ้นเรื่อยๆ

----รู้สึกตัวอีกทีหนุ่มน้อยผมทองก็เดินออกมาจากสนามบินดอนเมืองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้แล้ว หนุ่มน้อยตกใจ " เฮ๊ย! เราเดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ แล้วที่นี่มันที่ไหน " สถานการณ์ย่ำแย่ขึ้นเรื่อยๆ อากาศตอนกลางวันของประเทศไทยแม้จะเป็นหน้าหนาวแต่แดดก็เปรี้ยงอยู่เหนือหัวพอดี ท้องที่เริ่มร้องเพราะกระเพาะเริ่มที่จะผลิตน้ำย่อยออกมาอีกแล้ว (อาเฮียแกยิ่งผลิตได้มากกว่าคนอื่นเค้าอยู่แล้วด้วยนะ) ตาเริ่มคล้อยที่จะปิดเอง สิ่งต่างๆรอบข้างเริ่มมืดมิดไปหมด ขาเดินตุปัดตุเป๋พันกันไปหมดจนผู้คนเริ่มมองกันให้ทั่ว หลังจากเดินหาแฟนสาวอยู่นานนับชม.ท่ามกลางแสงแดดอันแผดเผา " โว้ยยยยยย อะไรมันจะร้อนอย่างนี้วะ ร้อนซะจนละลายได้เลยนะเนี่ย หิวก้อหิวแล้ว โอ้~~~ mekki mekki อยู่ไหนนนนน mekki จ๋าาาาาา ผม...ไม่...ไม่ไหวแล้ว ตุ๊บ! หนุ่มร่างเล็กล้มลงตรงซอกเล็กๆ มืดๆ ที่ไม่มีคนสัญจรผ่านไปมาเลย...
เวลาผ่านไปซักระยะ " หนู...หนูจ๊ะหนู " ไฮโดะเหมือนจะได้ยินเสียงอะไรบางอย่างแต่สมองของเค้านั้นไม่รับอะไรแล้วทั้งนั้นในตอนนี้ " หนู...หนูเป็นอะไรน่ะ หนูๆ ตายแล้ว! ตัวร้อนจี๋เลย ไม่สบายด้วยเหรอจ๊ะ ไม่ได้การ หนู เดี๋ยวหนูไปบ้านพี่ก่อนแล้วกันนะ บ้านพี่อยู่ใกล้ๆแค่นี้เองเดี๋ยวพี่เอายาให้ทานนะ " ....


next >>

 

1