Modifly Computer

 

Fan พัดลม

next1 next2 next3

ระบบพัดลมซีพียูแบ่งการทำงานได้ 2แบบ คือ

ระบบดูดอากาศ

ระบบเป่าอากาศ

 

1ระบบดูดอากาศ ส่วนที่ใช้ติดกับตัวSinkโดยจะดูดอากาศจากล่างขึ้นบน(ดูดอากาศออกจากตัวSink) อากาศเย็นไหลเข้าทำให้ความร้อนบริเวณรอบฮีทซิงค์เย็นลงกว่าเดิม แต่พัดลมควรมีกำลังลมสูง AirFlowเยอะ และฮีทซิงค์ต้องมีการบังคับลมดูดจากฐานฮีทซิงค์ด้วย เพราะความร้อนจะเกิดที่ฐานฮีทซิงค์ก่อนแล้วลอยขึ้นข้างบน มิฉะนั้นความร้อนจะถูกดูดออกเฉพาะส่วนบนของฮีทซิงค์ ทำให้ไม่เป็นผลดีต่อซีพียูแน่นอน วิธีแก้ไม่ยากครับ ให้เอาเทปกาวมาปิดทับส่วนบนของฮีทซิงค์ให้ปิดไว้ครึ่งหนึ่งเหลือช่องว่างอีกครึ่งไว้สำหรับลมไหลเข้า วิธีนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดลมส่วนล่างได้มากขึ้นครับ

จากรูปการดูดพัดลมข้อดีคือความร้อนบริเวณรอบๆและตัวฮีทซิงค์จะเย็นลงให้ประสิทธิภาพการระบายความร้อนได้ดี แต่ต้องใช้ฮีทซิงค์ที่ออกแบบการไหลทิศทางลมจากฐานด้วยและตัวพัดลมควรจะมีกำลังแรงพอ

ปิดเทปกาวพัดรอบๆครึ่งบนของฮีทซิงค์ อีกครึ่งล่างไว้สำหรับดูดอากาศเย็นเข้า ทำคล้ายอุโมงค์ลม จะเย็นกว่าการดูดลมธรรมดาวิธีแรก

สิ่งที่ควรคำนึงถึงเกี่ยวกับตัวพัดลมดังนี้ ระบบการหมุนของพัดลมจะแบ่งได้ 3 ประเภท

แบบ Sleeve เป็นแบบที่ของเหลวเป็นตัวหล่อหลื่นในการหมุนราคาถูกมีขายทั่วไป ประหยัดต้นทุนแต่อายุการใช้งานไม่นาน ไม่เกิน 2ปี

แบบ Sleeve + Ball เป็นแบบที่มีทั้งของเหลวและลูกปืนเป็นตัวหล่อหลื่นในการหมุน แบบนี้จะดีกว่าแบบSleeve อย่างเดียว ราคาจะแพงขึ้นมาเล็กน้อย แบบ 2 Ball เป็นแบบที่ใช้ลูกปืนจำนวน 2 ชุดในระบบการหมุนของพัดลมแบบนี้จะดีที่สุด อายุการใช้งานสูง แต่ราคาก็จะแพงมากตามด้วย และพัดลมที่ดีควรเป็นแบบ BallBaringหรือ 2Ball แหล่งขายพัดลมอยู่ตามร้านคอมพิวเตอร์ ถ้าต้องการราคาถูกให้เดินหาตามแหล่งร้านอีเล็กทรอนิกส์หรือบ้านหม้อ แต่จะต้องดัดแปลงหัวต่อสายเพิ่มเติมเองนิดหน่อย

2.ระบบเป่าอากาศ จะเป็นพัดลมติดกับตัวฮีทซิงค์เช่นเดียวกับระบบดูดอากาศ แต่ระบบเป่าอากาศ จะเป่าอากาศเย็นจากบนลงล่างเพื่อกระจายความร้อนออกไปให้มากที่สุด เป็นวิธีที่ใช้กันมานานแล้วและยังใช้ได้ดีอยู่วิธีเป่าลมเหมาะ กับฮีทซิงค์ทุกชนิดในท้องตลาด

เป็นการเป่าลมอัดใส่ฮีทซิงค์โดยตรงเพื่อไล่ความร้อนออกไปเหมาะกับการกระจายความร้อนออกไปทุกทิศทางมากที่สุดจากฐานฮีทซิงค์

มักใช้กับทั่วไปและส่วนที่เกิดความร้อนสูงเฉพาะจุด และฮีทซิงค์เป็นแบบบังคับอากาศให้กระจายออกไปรอบทุกทิศทาง และพื้นที่เล็กจำกัดเช่นซีพียู การ์ด3Dส่วนชิพประมวลผล ฮีทซิงค์ราคาถูกมักใช้แบบเป่าและเป็นชนิดSleeve พัดลมชนิดนี้เห็นได้กับซีพียู486 จนถึงเพนเทียม

แต่ผลของความร้อนที่เกิดจากการดูดและเป่า ในฮีทซิงค์ซีพียูนั้น หากติดตั้งพัดลมให้ทำงานแบบดูดลมจะให้อุณหภูมิต่ำกว่า เพราะดูดอากาศเย็นเข้าไปแต่ความร้อนที่เกิดจะไม่คงที่ หรือไม่สม่ำเสมอตามการใช้งานโปรแกรมต่างๆพอรันโปรแกรมอะไรๆหนักอุณหภูมิก็เพิ่มขึ้นและหลังการรันโปรแกรมเสร็จอุณหภูมิก็จะลดลงกลับมาอย่างรวดเร็ว มาคงที่ที่เดิม พัดลมแบบดูดอากาศ จะมีความเย็นทั้งตัวฮีทซิงค์ซีพียูและเมนบอร์ดรอบๆ ถ้าต้องการใช้พัดลมชนิดดูด ต้องติดตั้งส่วนดูดอากาศออกข้างบนเหนือฮีทซิงค์ด้วยเพื่อป้องกันความร้อนสะสมในเคส และตัวฮีทซิงค์ควรมีรูปร่างการออกแบบเอื้ออำนวยที่จะบีบทิศทางลมได้ดี และมีการสัมผัสอากาศค่อนข้างจะมากด้วย หากเกิดพัดลมไม่แรงพอและติดตั้งห่างฮีทซิงค์มากเกินไป แรงดูดจะมีไม่พอทำให้ความร้อนกลับเพิ่มขึ้นได้ ที่ว่างในเคสมีส่วนสำคัญหากเป็นเคสแบบมีเดียมปานกลางอาจไม่เหมาะที่จะติดตั้งพัดลมซีพียูให้มีการดูดลมออก เพราะพื้นที่จำกัดทำให้ความร้อนไม่ถ่ายเทได้สะดวก

จำนวนรอบการหมุนต่อนาที พัดลมที่ดีควรมีรอบตั้งแต่ 4000 RPM (รอบ/นาที)ขึ้นไป แต่ถ้ารอบยิ่งสูงก็ยิ่งมีเสียงดังตามด้วย ควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน ปริมาณลม Air Flow มีหน่วยวัดเป็นCFM ลูกบาร์คฟุต-เมตร คือกระแสอากาศที่พัดลมสามารถสร้างได้เป็นปริมาณหนึ่งขึ้นอยู่กับแรงหมุนพัดลม ขนาดพัดลมและ จำนวนใบพัดของตัวพัดลม ถ้ามีจำนวนใบยิ่งมากจะยิ่งดีจะทำให้ Air Flow มากตามด้วย ถ้าใบพัดน้อยเท่าไหร่แรงอัดของลมย่อมแรงขึ้นครับ (แปลกเนอะ) เมื่อประมาณอากาศมีมากAir Flow การกระจายความร้อนออกไปทำได้เร็วขึ้น

แบบ7ใบพัดกับ 5ใบพัด แบบ5ใบพัดจะให้กำลังอัดของลมแรงเหมาะกับการระบายความร้อนในที่ๆจำกัด แบบ7ใบพัดให้Airflowเยอะเหมาะกับการกระจายความร้อนอย่างเร็ว

ขนาดพัดลมมีความสำคัญเช่นกัน หากพัดลมมีขนาดเล็กปริมาณAir Flowก็จะมีน้อย เช่น ขนาด 50x50x15mm 20CFM หากขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 60x60x25mm หมุน 5000-6000รอบ ปริมาณลมจะเป็น20-37CFM หากพัดลมใหญ่ขึ้นเป็น 80x80x25mm หมุน4500รอบ ปริมาณลมเป็น 37-45CFM และหากใหญ่ขึ้นอีกเป็น 92mm ปริมาณลมก็จะมากขึ้นอีก แต่ต้องขึ้นอยู่กับกระแสไฟที่จ่ายและจำนวนรอบด้วยครับ ยิ่งมากยิ่งหมุนเร็วและยิ่งเป่าแรง และการใช้งานระบายความร้อนกับซีพียูหรือว่าเมนบอร์ดหรือตัวเคสด้วย...การใช้ไฟส่วนใหญ่อยู่ที่ 0.1-0.3แอมป์ต่อแรงดัน 12โวลต์ คิดหน่วยได้ไม่เกิน 5วิตต์สำหรับพัดลมชนิดนั้นๆ หากต้องการพัดลมแรงๆจริง และพัดลมแรงๆส่วนใหญ่นั้นการใช้ไฟพัดลมมีมากเกินกว่า0.4ampแล้วอาจถึง 0.5amp หรือ 6วัตต์ ก็ควรใช้แหล่งจ่ายไฟจากเคสหรือจากภายนอกจะดีกว่าใช้แหล่งจ่ายไฟจากเมนบอร์ดโดยตรงเพื่อลดปัญหาการโอเวอร์โหลดของเมนบอร์ดครับ โดยหาซื้อสายต่อแปลงจาก 3สายเมนบอร์ดเป็น 4 สายของเพาเวอร์ซัพพลายใช้แทน แต่ฟังก์ชันวัดจำนวนรอบพัดลมจะไม่มีให้เห็น คงต้องอาศัยความผิดปกติการทำงานของพัดลมด้วยเสียงแทนครับ เพราะหมุนเร็วและมีเสียงค่อนข้างดังพอสมควร

back home

 

surprise.gif (3432 bytes)กลับไปเมนูหลัก new start

กลับไปหัวข้อComputer Turbo


 
 

 
ICQ
16489378


email to

muhn@hotmail.com

กลับไปเมนูหลัก new start

© Copyright 2000-2001. MUHN-Computer. All Rights Reserved.

WebMaster:muhn@hotmail.com

 

1